เปิด 5 แข้งถูกตีราคาต่ำไปในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

เปิด 5 แข้งถูกตีราคาต่ำไปในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
เปิด 5 แข้งในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไป หลังทำผลงานปิดทองหลังพระให่ต้นสังกัดได้อย่างสุดยอด

พรีเมียร์ลีก มีตำนานมากมาย แต่ไม่ใช่ว่าผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ทุกคนจะได้รับการยอมรับอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับ นี่คือผู้เล่น 5 คนที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

5. พาร์ค จี-ซอง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส)

พาร์ค จี-ซอง

ในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวย์น รูนี่ย์ พาร์ค จีซอง คือฮีโร่ที่ไม่มีใครจำได้มาก กองกลางชาวเกาหลีใต้คนนี้ ขึ้นชื่อเรื่องพลังงานที่ไม่ลดละ ความฉลาดทางยุทธวิธี และความสามารถในการเล่นในเกมที่กดดันสูง

แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ แต่ความขยันและผลงานในเกมรับ ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเขา ทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญในทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขามักได้รับความไว้วางใจในเกมสำคัญๆ โดยสามารถหยุดการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามและเชื่อมเกมได้อย่างแนบเนียน

แม้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สี่สมัย แต่ผลงานของ พาร์ค ยังคงถูกมองข้ามเป็นส่วนใหญ่ แนวทางที่ไม่เห็นแก่ตัวของเขา ทำให้เขากลายเป็นแข้งในฝันของผู้จัดการทีม แต่ทำให้เขาไม่ได้รับความสนใจ

4. จิลแบร์โต้ ซิลวา (อาร์เซน่อล)

จิลแบร์โต้ ซิลวา (อาร์เซน่อล)

ซิลวา เป็นกาวที่เชื่อมแดนกลางของ อาร์เซน่อล เข้าด้วยกัน ในฤดูกาล "The Invincibles" ในตำนานของพวกเขา แต่เขาไม่เคยได้รับการยอมรับเท่ากับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เธียร์รี อองรี หรือ ปาทริค วิเอร่า

กองกลางตัวรับชาวบราซิลคนนี้ ทำหน้าที่ปัดกวาดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม คอยปกป้องกองหลัง และรักษาเกมให้ดำเนินต่อไป เขาทำหน้าที่ได้อย่างสมดุลกับการโจมตีของ วิเอร่า ช่วยให้ผู้เล่นสร้างสรรค์เกมของ อาร์เซน่อลเติบโตได้อย่างเต็มที่

อิทธิพลของเขามักจะถูกมองข้าม แต่ถ้าไม่มีเขา ฟุตบอลที่ไหลลื่นของ เดอะ กันเนอร์ส ก็คงจะไม่มีประสิทธิภาพเท่านี้

3. มุสซ่า เดมเบเล่ (ฟูแล่ม, สเปอร์ส)

มุสซ่า เดมเบเล่ (ฟูแล่ม, สเปอร์ส)

เดมเบเล่ เป็นกองกลางที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งผสมผสานความแข็งแกร่ง การเลี้ยงบอล และความสามารถทางเทคนิคในแบบที่ผู้เล่นไม่กี่คนจะเทียบได้ ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ ฟูแล่ม แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ของเขา แต่ที่ สเปอร์ส ต่างหากที่เขาเปล่งประกายอย่างแท้จริง

ความสามารถของนักเตะชาวเบลเจี้ยน ในการพาบอลผ่านคู่แข่งได้อย่างง่ายดายและครองบอลได้ภายใต้แรงกดดัน ทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญของแดนกลางของ ท็อตแนม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิงประตูหรือแอสซิสต์ แต่การคอลโทรลบอลในแดนกลางของเขามีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดจังหวะของเกม

แฟนบอล สเปอร์ส หลายคนเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถแทนที่เขาจริงๆ หลังจากที่เขาจากไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลงานของเขาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะเก่งกาจ แต่เขากลับไม่ค่อยได้รับการยอมรับอย่างที่เขาสมควรได้รับ

2. ไมเคิ่ล คาร์ริค (เวสต์แฮม, สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด)

ไมเคิ่ล คาร์ริค (เวสต์แฮม, สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด)

ไมเคิ่ล คาร์ริค เป็นปรมาจารย์ในตำแหน่งกองกลางที่มักถูกมองข้าม เนื่องจากสไตล์การเล่นของเขาไม่ได้ฉูดฉาด ความสามารถในการกำหนดจังหวะของเกมด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำและการวางตำแหน่งที่ชาญฉลาดทำให้เขามีค่าอย่างยิ่งสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ในขณะที่โฟกัสมุ่งเป้าไปที่ พอล สโคลส์ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในการเป็นข่าวใหญ่ ทำให้ คาร์ริค มีบทบาทสำคัญอย่างเงียบๆ ในความสำเร็จของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการมีส่วนิย่างยิ่งในการช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 5 สมัย

ความนิ่งภายใต้แรงกดดันและความสามารถในการควบคุมเกมจากกองกลาง มีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงปีหลังๆ ของ เซอร์ อเล็กซ์ แม้จะมีอาชีพค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ คาร์ริค ก็ไม่เคยได้รับการชื่นชมอย่างเต็มที่นอก โอลด์ แทรฟฟอร์ด และยังคงเป็นหนึ่งในกองกลางที่ถูกมองข้ามมากที่สุดของอังกฤษ

1. เดนิส เออร์วิน (แมนฯ ยูไนเต็ด, วูล์ฟแฮมป์ตัน)

เดนิส เออร์วิน (แมนฯ ยูไนเต็ด, วูล์ฟแฮมป์ตัน)

เออร์วิน เป็นแบบอย่างของความสม่ำเสมอและความน่าเชื่อถือ แต่เขาไม่เคยถูกพูดถึงในระดับเดียวกับตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เลย ฟูลแบ็คชาวไอริชลงเล่นให้กับ ปีศาจแดง มากกว่า 500 เกม คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 7 สมัย แต่หลายครั้งก็ยังคงถูกมองข้าม โดยเฉพาะจากเพื่อนร่วมทีมที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่า

ความมั่นคงในแนวรับ ความเป็นผู้นำ และความสามารถในการทำประตูจากลูกฟรีคิก ทำให้เขาเป็นหนึ่งในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แม้จะมีอาชีพที่น่าเหลือเชื่อ แต่เขาก็ไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเท่าที่ควร ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport