นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ กุนซือทีม ฟอเรสต์ เผยเหตุผลถึงการเปลี่ยนให้ทีมหันมาเล่นระบบหลังสี่แทนหลังห้าในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านเสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อาร์เซน่อล จำเป็นต้องบุกมาชนะ ฟอเรสต์ เพื่อเก็บสามแต้มไล่ตาม ลิเวอร์พูล หลังจากพวกเขาแพ้คารังให้กับ เวสต์แฮม 1-0 ในเกมก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่อาจพิชิต เจ้าป่า ได้โดยทั้งสองฝ่ายเสมอกันแบบไร้สกอร์ และทำให้ทีม ปืนใหญ่ ตามหลัง ลิเวอร์พูล เพิ่มเป็น 13 แต้มเนื่องจาก หงส์แดง คว่ำ นิวคาสเซิ่ล ได้ 2-0 ที่ แอนฟิลด์ ในวันเดียวกัน
หลังเกมที่ ซิตี้ กราวด์ จบลง มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง เดอะ กันเนอร์ส ได้สอบถาม เอสปิริโต้ ซานโต้ นายใหญ่เจ้าบ้านในฐานะคอมเมนเตเตอร์ว่าทำไมเกมนี้ เจ้าป่า จึงเปลี่ยนมาเล่นหลังสี่ทั้งๆที่ปกติเขาคุมทีมในระบบหลังห้า หรือสามเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับสองวิงแบ็ค
ต่อกรณีดังกล่าว ผู้จัดการทีมโปรตุกีสระบุว่าเป็นเพราะทีมเมืองหลวงขาดกองหน้าทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ , กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ , กาเบรียบ เชซุส และ บูคาโย่ ซาก้า ที่บาดเจ็บ และหันมาใช้ มิเกล เมริโน่ กองกลางทีมชาติ สเปน สวมบทหัวหอกจำเป็น
"มันเป็นเพราะ อาร์เซน่อล ไม่มีกองหน้า พวกเขาไม่มีใครเล่นในตำแหน่งนั้น มันจึงไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องเน้นเกมรับ ดังนั้นเราจึงอัดแน่นแดนกลาง" เอสปิริโต้ ซานโต้ ระบุหลังจาก อาร์เซน่อล ออกอาการแผ่วปลายชนะแค่สองนัดจากห้านัดหลังในทุกรายการ
"ผมแฮปปี้กับแนวทางการเล่นของเรา พวกเขาเป็นทีมที่ดี เราต้องพยายามกันอย่างหนัก แต่เรามีเกมที่ดี เราเล่นกันได้อย่างแข็งแกร่ง"
"เราได้คลีนชีต เรามีโอกาสเช่นกัน แต่รวมแล้วมันเป็นไปในแง่บวก"
"พวกเขามีลูกเซ็ตพีซที่อันตราย แต่นักเตะทำได้ดี เราเตรียมตัวกันมาดี"