ราว 10 วันก่อนหน้านี้ บรรยากาศที่ แอนฟิลด์ เต็มไปด้วยความน่ากังวล
ลิเวอร์พูล โดน เอฟเวอร์ตัน แบ่งแต้มตอนทดเวลาบาดเจ็บ
ชนะ วูล์ฟส์ หวุดหวิดหายใจไม่ทั่วท้องจนสิ้นเสียงนกหวีดจบการแข่งขัน
ไล่ตามตีเสมอ แอสตัน วิลล่า ที่ มิดแลนด์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศมันเปลี่ยนไปสิ้นเชิง
หลังบุกซิวชัยที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อยอดด้วยเก็บคู่แข่งนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ
สองเกม สองชัย สองคลีนชีต
จากจะโดน อาร์เซน่อล ร่นเหลือ 5 กลายเป็นว่าจบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มไปเป็น 13 คะแนน
...
เกมคู่สุดท้าย พรีเมียร์ลีก ประจำวันพุธ เหมือนเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเจอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คาราบาวคัพ นัดชิงฯ
คำพูดจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ขอให้แฟนบอลสนุกไปด้วยกันแทนที่จะจมอยู่กับความกดดัน
และเปลี่ยน แอนฟิลด์ ให้เป็นความน่ากลัวต่อคู่แข่งในเกมที่เหลือต่อจากนี้
ครับ... เสียงเรียกร้องของกัปตันทีมคนนี้ได้รับการตอบรับล้นหลาม
รังเหย้า ลิเวอร์พูล อบอวลไปด้วยความคึกคัก
เดอะ ค็อป ร่วมกันส่งเสียงเชียร์ผลักให้ทีมชุดสีแดงเปิดเกมรุกตั้งแต่วินาทีแรก
นักเตะทุกคนรับรู้ได้ถึงพลังงานเหล่านั้น
พวกเขาเล่นด้วยความเข้มข้นชนิดที่ฝั่งทีมเยือนไม่สามารถต้านทานได้
บนหนังสือแมตช์เดย์สโมสร เฮดโค้ชอาร์เน่อ บอกไว้ว่า "เราไม่ได้แค่ต้องการให้พวกคุณฝัน แต่เราอยากให้พวกคุณฝัน"
"นี่คือสิ่งที่ทำให้สโมสรแห่งนี้พิเศษ เพราะมันจะกระตุ้นให้นักเตะและทีมงานทำทุกอย่างเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เพื่อเป็นทีมที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
ความฝันนั้นเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นอีก
เมื่อ อาร์เซน่อล บุก ซิตี้ กราวด์ แล้วได้แค่หนึ่งแต้ม
แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต่างร้องตะโกน "We’re gonna win the league." และยิ่งกังวาลยิ่งขึ้นอีกเมื่อ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยิงประตูที่สอง
การร้องเรียกอย่างนั้นดำเนินไปจนสิ้นเสียงนกหวีด
ไม่มีความกังวลใด ๆ
ไร้ความกลัว มีเพียงความสุขแบบเอ่อล้น...
...
ไม่ใช่สร้างความลำบากในแง่กายภาพเท่านั้น
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามีผลกระทบทางจิตวิทยาก่อนที่ทั้งคู่จะกลับมาเจอกันอีกครั้งที่ เวมบลี่ย์
มีการพูด ถึงความหวังของ นิวคาสเซิ่ล สำหรับการยุติการไร้ถ้วยรางวัลในประเทศ 70 ปี
แต่วันที่ 16 มีนาคม มันก็เป็นวันสำคัญของ ลิเวอร์พูล ชุดนี้เช่นกัน
เพราะเป็นโอกาสที่พวกเขาจะคว้าแชมป์แรกในยุค อาร์เน่อ และหยิบจับความสำเร็จแรกก่อนจะเดินหน้าสู่การลุ้นอีกสองโทรฟี่
นักเตะ ลิเวอร์พูล อยากลบล้างความทรงจำจากปีก่อน ที่พวกเขาประเดิมหยิบถ้วย ลีก คัพ มาก็จริง แต่กลับไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความสำเร็จในรายการต่อ ๆ มา
ปัญหาผู้เล่นหมดพลัง นักเตะอ่อนล้า นำไปสู่การจบฤดูกาลและอำลา เจอร์เก้น คล็อปป์ ในแบบที่ยังมีอะไรค้างคาใจ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้เฮดโค้ชดัตช์ ลิเวอร์พูล ดูมีความพร้อมมากขึ้นสำหรับการแข่งขันแบบระยะยาว
การทิ้งห่างด้วยช่องว่างขนาดนี้ เปิดโอกาสให้ อาร์เน่อ สามารถโรเตชั่นลูกทีมได้ในบางนัดเพื่อมุ่งเน้นไปยัง แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลึก ๆ ได้
เมื่อถึงวันนั้นที่ เวมบลี่ย์ อาร์เน่อ ที่นั่งดูบนอัฒจันทร์ แอนฟิลด์ ข้าง ซิปเก้ ฮุลชอฟฟ์ จะกลับมาประจำข้างสนามอีกครั้ง
มันอาจไม่ง่ายเหมือนอย่างเกมนี้ แต่จากฟอร์มที่ออกมา ลิเวอร์พูล จะเดินลงสู่ เมกะ ลูกหนัง ด้วยความมั่นใจแบบเต็มร้อย ร้อยเปอร์เซ็นต์
#HOSSALONSO