ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ เปิดหัวด้วยเกม เอฟเวอร์ตัน พบ แมนยูไนเต็ด ที่กูดิสัน พาร์ค โดยพวกเขาอยู่ในอันดับ 14 กับ 15 ตามลำดับ แต่ฟอร์มในพักหลังนั้นสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงจากการที่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กำลังฮอตสุดขีด
แน่นอนว่าหนึ่งในไฮไลต์ของเกมนี้คือการที่ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน จะได้เจอกับ แมนยูไนเต็ด หลังจากเคยไปรับงานกุนซือของที่นั่นในฐานะทายาทของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งเราก็จะมากล่าวถึงเกร็ดที่น่าสนใจก่อนถึงเกมนัดนี้กัน
- ฝันร้ายของ ทอฟฟี่
แม้ว่าในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แมนยูไนเต็ด จะมีผลงานไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่นัก แต่เชื่อหรือไม่ว่าจากการเจอกันในลีก 5 นัดหลังสุด เอฟเวอร์ตัน เป็นฝ่ายแพ้ทั้งหมด ซ้ำร้ายถ้านับเฉพาะ 4 เกมที่ผ่านมาพวกเขาก็ยังทำประตูใส่ "ปีศาจแดง" ไม่ได้เลยด้วย
ถ้าหากเกมในวันเสาร์นี้มันได้บทสรุปแบบเดิมอีก มันก็จะทำให้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งปี 1960 ที่ เอฟเวอร์ตัน แพ้คู่แข่งในลีกถึง 5 นัดติดต่อกันในสภาพที่เจาะตาข่ายไม่ได้แม้แต่หนเดียว โดยทีมสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่ทำแบบนั้นใส่พวกเขาได้คือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
สำหรับ แมนยูไนเต็ด เองนั้น พวกเขาก็มีลุ้นบุกไปชนะได้ถึง กูดิสัน พาร์ค ในเกมลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ปี 2007 หลังจากตอนเดือนตุลาคม ปี 2022 เคยกลับมาพร้อมกับสกอร์ 2-1 ส่วนซีซั่นที่แล้วไปเก็บชัยที่นั่นได้ 3-0
- เจ้าบ้านสุดคม
อย่างที่รู้กันว่า เอฟเวอร์ตัน กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ จนถึงขนาดที่ว่าในเกมลีก 5 นัดหลังสุดพวกเขายิงได้ถุง 12 ลูก มากกว่าที่ทำได้ในช่วง 16 เกมก่อนหน้านั้นซะอีก จากการที่ช่วงนั้นทำได้เพียง 11 ประตู
ไม่เพียงแค่นั้น ถ้านับเฉพาะการเล่นเกมลีกที่ กูดิสัน พาร์ค ในช่วง 3 เกมที่ผ่านมา แล้วล่ะก็ เอฟเวอร์ตัน ยังทำได้อย่างน้อย 2 ลูกครบทุกเกมด้วย ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเคยยิงในบ้านได้ดีนานกว่าชุดปัจจุบันคือช่วงเดือนตุลาคม ปี 2017 จนถึงเดือนธันวาคมของปีเดียวกันที่เคยทำประตูในเกมเหย้านัดละ 2 ลูกในศึก พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 5 นัดรวด
- ทีมเยือนมีปัญหาแดนหน้า
ในทางตรงกันข้าม แมนยูไนเต็ด มีปัญหาเรื่องการทำประตูจนทำให้ในซีซั่นนี้พวกเขายิงในลีกไม่ได้ถึง 10 นัดเข้าไปแล้ว โดยมีเพียง เอฟเวอร์ตัน ที่เท้าบอดเยอะกว่าพวกเขาจากจำนวน 12 นัด แต่ผลงานที่เลวร้ายแบบนั้นส่วนใหญ่แล้วมันเกิดขึ้นในยุคของ ฌอน ไดช์ ไม่ใช่ภายใต้การทำทีมของ มอยส์
ผลงานดังกล่าวทำให้ตอนนี้ แมนยูไนเต็ด ทาบสถิติการทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ภายในฤดูกาลเดียวไม่ได้เยอะที่สุดหากนับเป็นจำนวนนัดเป็นที่เรียบร้อย โดยเท่ากับที่เคยทำเอาไว้ในฤดูกาล 2004-05 กับ 2015-16 และมันก็มีโอกาสสูงที่ แมนยูไนเต็ด ชุดนี้จะสร้างสถิติสุดเลวร้ายขึ้นมาแบบเดี่ยวๆ ได้
นอกจากนี้ ในเกมลีก 10 นัดหลังสุด แมนยูไนเต็ด ยังทำประตูในช่วงครึ่งแรกได้เพียง 1 ลูกเท่านั้น นั่นคือลูกจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในเกมที่เจอกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งนี่ถือเป็นการทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ในช่วงครึ่งแรกไม่ได้ติดต่อกันนานที่สุดของ แมนยูไนเต็ด หากนับเฉพาะเกมลีกด้วย
ขณะเดียวกัน ตอนนี้ แมนยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่มีอัตราการเปลี่ยนโอกาสการทำประตูให้เป็นสกอร์ได้จริงๆ น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ที่จำนวนเพียง 8.4% เท่านั้น โดยทีมที่ทำได้แย่กว่าพวกเขาคือ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนด้วยตัวเลข 7.9%
- พลังในบ้านของ มอยส์
มอยส์ สามารถนำทีมของตัวเองเอาชนะ แมนยูไนเต็ด ในเกมลีกนัดเหย้าได้ 2 เกมติดต่อกันแล้ว นั่นคือตอนเดือนพฤษภาคม ปี 2023 ที่พา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คว้าชัยไป 1-0 ตามด้วยเดือนธันวาคมของปีเดียวกันที่ "ขุนค้อน" พิชิต "ปีศาจแดง" 2-0 ส่วนเกมลีกนัดเหย้าครั้งล่าสุดในฐานะกุนซือ เอฟเวอร์ตัน ของเขานั้น เจ้าตัวเอาชนะ แมนยูไนเต็ด ได้เช่นกัน ได้แก่เกมที่จบลงด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2012
- เด็กเกร็ดบอล -