แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเอาเหล่าสาวกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อออกสตาร์ตซีซั่น 2022/23 ได้อย่างน่าช็อคด้วยการแพ้ให้กับทีมรองบ่อนทั้ง ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกมที่โดน เดอะ บีส์ ขยี้เละ 4-0 ส่งผลให้ เอริค เทน ฮาก ถูกตั้งข้อสงสัยว่าคงไม่แคล้วเป็นผู้จัดการทีมอีกรายที่ไม่อาจพา ผีแดง ฟื้นจากความตกต่ำได้แน่
อย่างไรก็ดี ในอีกสี่เกมต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการเก็บได้ 12 แต้มเต็มทั้งเกมเปิดบ้านพิชิต ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ได้อย่างน่าประทับใจ
และที่สำคัญ กุนซือดัตช์ตัดสินใจดร็อปสองขุนพลขาใหญ่ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวซัลโวอันดับหนึ่ง และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมให้นั่งเป็นตัวสำรองจนทำให้ทีมมีผลงานดีขึ้นทันตาเห็น
"มันได้ผล ผมจำได้ว่าผู้คนบอกว่าเขาทำให้นักเตะวิ่งกันทั้งทีม" แกรี่ เนวิลล์ กูรูคนดังเอ่ยกับ สกาย สปอร์ตส์ หลังจบเกมที่ ผีแดง สยบ ปืนโต 3-1
ด้าน รอย คีน คอมเมนเตเตอร์อีกรายเอ่ยว่า "หากคุณจำสิ่งที่ผู้จัดการทีมทำหลังเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ได้ เขาร่วมวิ่งกับนักเตะด้วยในวันรุ่งขึ้นหลังจากพวกเขาไม่วิ่งเลยในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด"
"เขาตัดสินใจครั้งสำคัญว่า "หากพวกนายต้องการเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พวกนายก็จำเป็นต้องวิ่ง"
ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเล่นกันได้อย่างเข้าฝักแล้ว และนี่คือ 10 สถิติที่น่าประทับใจของพวกเขาหลังได้ เทน ฮาก มากุมบังเหียน
1.แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาระเบิดฟอร์มกำชัยในลีกได้สี่นัดรวดหลังจากออกสตาร์ตได้อย่างเลวร้าย และมันเป็นผลงานชนะรวดที่ดีที่สุดในห้าลีกใหญ่ของยุโรปตอนนี้ซึ่งเทียบได้กับ เรอัล มาดริด แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก และ มาร์กเซย์ ทีมใน ลีกเอิง
2.แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแค่ทีมที่สามในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ชนะรวดสี่นัดหลังแพ้ในสองนัดแรกเช่นเดียวกับ สเปอร์ส ในซีซั่น 2011/12 และ อาร์เซน่อล ในซีซั่น 2018/19
3.มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูในสี่เกมหลังของเขาใน พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า 26 เกมก่อนหน้านี้ที่เจ้าตัวลงสนามซะอีก (เกมกับ อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล) และน้อยกว่าจำนวนประตูทั้งหมดที่เขาทำได้เมื่อซีซั่นก่อนแค่ลูกเดียวเท่านั้น
4.ชัยชนะสี่นัดรวดเป็นผลงานที่ดีที่สุดของสโมสรนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2021 ซึ่งพวกเขาเคยกำชัยในเกมลีกได้ห้านัดรวด (แมนฯ ซิตี้ , ไบรท์ตัน , เวสต์แฮม , สเปอร์ส และ เบิร์นลีย์) จนทำให้ทีมได้อันดับรองแชมป์ในซีซั่นนั้น
5.อาจไม่ใช่สถิติที่น่าปลื้มเท่าไหร่เนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ใบเหลืองมากที่สุด 20 ใบแล้ว และไม่มีนักเตะคนไหนทำฟาวล์มากไปกว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (15) อีกทั้งไม่มีทีมไหนทำฟาวล์เฉลี่ยต่อเกมมากไปกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน (12.5) แต่มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักสู้ และการเล่นด้วยความก้าวร้าวอย่างที่ คีน กับ เนวิลล์ พร่ำบ่นว่าอดีตสโมสรของเขาไม่เหลือสิ่งที่ว่านี้เลยเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
6.อันโตนี่ เป็นนักเตะชาว บราซิล คนที่ 100 ที่ได้ลงบู๊เกม พรีเมียร์ลีก และเขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในเกมประเดิมสนาม และเป็นขุนพล เร้ด เดวิลส์ รายที่ 19 ที่สอยตาข่ายได้ในการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดแรกเช่นเดียวกับ เวย์น รูนีย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย , เฟเดริโก้ มาเคด้า และ นิค พาวว์ เป็นอาทิ
7.ในเกมบู๊กับ อาร์เซน่อล คริสเตียน เอริคเซ่น มีผลงานที่โดดเด่นที่สุดในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จากการแอสซิสต์ (1) ,สัมผัสบอล (56) , ผ่านบอล (42) , สร้างโอกาส (3) และวิ่งคุมพื้นที่ได้มากเป็นอันดับสอง (11.2 กม.)
8.แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะสี่เกมหลังสุดโดยเสียประตูไปแค่สองลูกจากการจับ ราฟาแอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กัน ขณะที่พวกเขาเสียไปมากถึงหกประตูในสองเกมแรกจากการส่ง แม็กไกวร์ ลงบู๊
9.แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอยู่ในอันดับ 11 เท่านั้นของเปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ย (48.9%) และอยู่ในอันดับ 12 ของการผ่านบอลสำเร็จ (78.4%) พวกเขาได้ครองบอลแค่ 30% ในเกมต้อนรับ ลิเวอร์พูล และ 40% ในเกมต้อนรับ อาร์เซน่อล แต่เป็นฝ่ายกำชัยได้ทั้งสองเกมโดยสถิติดังกล่าวสวนทางกับที่ เทน ฮาก สร้างผลงานเอาไว้กับ อาแจ็กซ์ โดยสิ้นเชิง มันจึงชี้ให้เห็นว่านายใหญ่ดัตช์มีกลยุทธ์มากพอต่อการหาช่องทางทำให้ทีมคว้าชัยชนะ
10.เทน ฮาก มีผลงานพาทีมซิวชัย 66% จากการคุมทีมลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก หกนัดแรกในฐานะผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ขณะที่ ราลฟ์ รังนิก มีเปอร์เซนต์พาทีมชนะหกนัดแรก 50% , โอเล่ กุนนาร์ โซลชา 100% , โชเซ่ มูรินโญ่ 66% เช่นกัน ด้าน หลุยส์ ฟาน กัล ชนะนัดเดียวจากหกนัดแรก (16%) ส่วน เดวิด มอยส์ ชนะสี่จากหกนัดแรก (66%)