เลือกทีมไหนดี? 5 ออปชั่นหาก มาร์คัส แรชฟอร์ด อำลา แมนยู

เลือกทีมไหนดี? 5 ออปชั่นหาก มาร์คัส แรชฟอร์ด อำลา แมนยู
แมนยูไนเต็ด อาจจำเป็นต้องขาย มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกไปในช่วงปี 2025 เพื่อหาเงินทุนสำหรับการเสริมทัพสำหรับการสร้างทีมในยุค รูเบน อโมริม

เมื่อเร็วๆ นี้มีรายงานจากสื่อหลายสำนักในเมืองผู้ดีระบุว่า แมนยู พยายามที่จะปรับปรุงงบการเงินสโมสรให้มีความสมดุล เพราะพวกเขามีเป้าหมายในการหาเงินทุกเพื่อเซ็นสัญญานักเตะใหม่ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เดือนมกราคมที่จะถึงนี้ และในอนาคต

นั่นหมายความว่า "ปีศาจแดง" จำเป็นต้องขายนักเตะออกไปหลายคน โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อของ แรชฟอร์ด ซึ่งสโมสรพร้อมพิจารณาทันทีหากได้รับข้อเสนอจำนวน 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,760 ล้านบาท) 

แน่นอนว่าตัวเลขดังกล่าวถือว่าน้อยมากหากเทียบกับค่าตัวของ "แรชชี่" ที่ถูกประเมินเอาไว้เมื่อ 18 เดือนก่อนซึ่งเขาโชว์ฟอร์มกระซวกตาข่ายได้ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพเมื่อฤดูกาล 2022/2023 ด้วยผลงาน 30 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ โดยว่ากันว่าตอนนั้น แรชฟอร์ด มีมูลลค่าประมาณ 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) 

อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจเก็บเด็กปั้นของสโมสรรายนี้เอาไว้ พร้อมกับมอบสัญญาใหม่ที่มีค่าเหนื่อยมหาศาล แต่การเสี่ยงครั้งนั้นคือความผิดพลาดมหันต์ เพราะนักเตะโชว์ฟอร์มไม่ออก และทำได้แค่ 15 ประตูจากการเล่น 66 เกมนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลที่ผ่านมา 

แน่นอนว่าเมื่อมีการเปลี่ยนกุนซือเป็น อโมริม สโมสรจำเป็นต้องมีการเสริมทัพ และมันไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นถ้าหากทีมตัดสินใจที่จะขาย แรชฟอร์ด จริงๆ ไม่ว่าจะช่วงเดือนม.ค. หรือตอนซัมเมอร์ปี 2025 แล้วนักเตะจะย้ายไปทีมไหน ลองไปพิจารณากันดีกว่า 

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

"เปแอสเช" มีข่าวกับ แรชฟอร์ด มานานแล้ว และการย้ายไปเล่นให้กับยอดทีมแห่งศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส น่าจะเป็นอะไรที่เหมาะเจาะลงตัว เพราะนั่นจะทำให้เขามีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และยังได้ลุ้นแชมป์ในทุกรายการที่ดินแดนน้ำหอม นอกจากนี้จะทำให้นักเตะไม่ต้องตกเป็นที่จับจ้องเหมือนตอนอยู่ในอังกฤษด้วย

แรชฟอร์ด ไม่ใช่นักเตะชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ประโยชน์จากการย้ายไปเล่นในลีกใหญ่บนแผ่นดินยุโรป ก่อนหน้านี้ เจดอน ซานโช่ ก็ฟอร์มกลับมาเจิดจรัสช่วงที่ย้ายกลับไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อช่วงกลางฤดูกาลที่ผ่านมา หลังต้องพบกับช่วงเวลายากลำบากในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

ขณะที่ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นตอนที่เล่นให้ เอซี มิลาน และยังถูกเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ฉะนั้นการย้ายไปเล่นออกดินแดนบ้านเกิด น่าจะทำให้ แรชฟอร์ด มีสมาธิกับเกมฟุตบอลมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ แซงต์-แชร์กแมง กลายเป็นทีมคนหนุ่มหลังพวกเขาเสียนักเตะสำคัญอย่างเช่น เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แน่นอนว่าการขาดนักเตะชั้นยอดทำให้ทีมโชว์ฟอร์มไม่โดดเด่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฉะนั้นพวกเขาจึงต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์เข้ามาเติมเต็มทำให้ขุมกำลังมีความสมบูรณ์แบบ

อาร์เซน่อล

สำหรับ อาร์เซน่อล เป็นทีมที่มองหานักเตะพลังหนุ่มเข้ามาเสริมทัพตลอดในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ยกตัวอย่างกรณีของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ตอนย้ายจากไบรท์ตัน มาเล่นกับ "ปืนใหญ่" เมื่อเดือนมกราคม 2023 เขาอายุ 28 ปีแล้ว

นอกจากนี้พวกเขายังเซ็นสัญญากับ จอร์จินโญ่ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งทั้งสองคนถือเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ และนั่นคือเหตุผลที่ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม ต้องการเซ็นสัญญากับนักเตะแบบนี้เพื่อช่วยประคับประคองทีมพลังหนุ่มของเขา 

แรชฟอร์ด ผ่านการเล่นเกมระดับสูงมาแล้วมากกว่า 400 แมตช์  แถมอายุก็เพิ่ง 27 ปี ดังนั้นถ้า อาร์เตต้า รู้สึกว่าเขาสามารถดึงศักยภาพที่แท้จริงของเด็กปั้นแมนยูไนเต็ด ก็อาจจะกระตุ้นบอร์ดบริหารให้ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินก็ได้

การย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล นั่นหมายความว่านักเตะจะต้องเจอกับการเล่นที่แตกต่าง แต่ก็น่าจะทำให้ แรชฟอร์ด ทำผลงานได้ดีขึ้น อย่าลืมว่า อาร์เตต้า ถือเป็นหนึ่งในโค้ชที่เก่งมากๆ ในการเค้นศักยภาพของนักเตะออกมา 

อัล-ฮิลาล

แชมป์ซาอุดี โปรลีก อย่าง อัล-ฮิลาล ต้องการที่จะเสริมทัพเพื่อที่จะทำให้ทีมมีลุ้นที่จะป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยปัจจุบัน อัล-อิตติฮัด รั้งตำแหน่งจ่าฝูงหลังลงแข่งไป 13 เกม นั่นทำให้แชมป์เก่าจำเป็นต้องเสริมทัพเพื่อที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน อัล-ฮิลาล กำลังลุ้นให้ เนย์มาร์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ โดยคาดว่าน่าจะช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของซีซั่นี้ แต่กระนั้นอนาคตของนักเตะก็ไม่แน่นอน เพราะมีรายงานว่าเขาอาจจะย้ายทีมก็ได้

ช่วงที่ผ่านมา สตาร์ชาวบราซิเลียน ตกเป็นข่าวว่าอาจจะกลับไปเล่นร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ อินเตอร์ ไมอามี่ ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนั้นการหาสตาร์คนใหม่เพื่อมาช่วยทีมจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

แรชฟอร์ด น่าจะสามารถทดแทน เนย์มาร์ ได้ แต่คำถามสำคัญก็คือเขาอยากจะย้ายมาโกยเงินในลีกประเทศซาอุดีอาระเบียหรือเปล่า เพราะถ้าหากตัดสินใจพลาดนั่นอาจส่งผลกระทบกับโอกาสในการติดทีมชาติอังกฤษด้วย 

บาเยิร์น มิวนิค

หนึ่งในสโมสรที่แสดงความสนใจอยากได้ แรชฟอร์ด นั่นก็คือ บาเยิร์น มิวนิค เพราะทีมกำลังต้องการสร้างแนวรุกใหม่ทดแทนของเดิมที่กำลังโรยรา ขณะที่ ลีรอย ซาเน่ กับ โธมัน มุลเลอร์ จะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย 

ถ้าหากทัพ "เสือใต้" ต้องขาดนักเตะอย่าง ซาเน่ และ มุลเลอร์ นั่นคงทำให้กุนซือแว็งซ็องต์ กอมปานี จำเป็นต้องหาผู้เล่นที่มีศักยภาพและประสบการณ์เข้ามาเสริมทัพ แน่นอนว่าชื่อของ แรชฟอร์ด ก็คงอยู่ในเป้าหมายของเขาเช่นกัน

ลองนึกภาพถ้า "แรชชี่" มีโอกาสได้เล่นร่วมกับ แฮร์รี่ เคน นั่นคงทำให้แนวรุกของ บาเยิร์น อันตรายมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน กัปตันทีมชาติอังกฤษ อาจจะช่วยให้ แรชฟอร์ด กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งก็ได้ 

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

มีทางเลือกไม่มากนักถ้า แรชฟอร์ด ตัดสินใจจะอยู่เล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป แต่ สเปอร์ส อาจเป็นหนึ่งในออปชั่นที่น่าสนใจ เนื่องจากพวกเขาต้องเตรียมความพร้อมหาก ซน ฮึง-มิน กัปตันทีมตัดสินใจอำลาสโมสรเมื่อหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ 

แน่นอนว่า "ไก่เดือยทอง" คงต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการโน้มน้าวให้ กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ขยายสัญญาใหม่กับต้นสังกัด ขณะเดียวกัน "อาซน" ก็ยังคงแฮปปี้กับการเล่นให้ สเปอร์ส 

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ซน ฮึง-มิน รู้สึกผิดหวังจากการที่สโมสรไม่ยอมยื่นข้อเสนอระยะยาวให้ นั่นอาจเป็นฉนวนเหตุที่ทำให้เขาจำเป็นต้องคิดใหม่เกี่ยวกับอนาคตในช่วงท้ายของอาชีพพ่อค้าแข้ง

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สเปอร์ส ต้องมีการวางแผนเผื่อเอาไว้ และการพิจารณาดึง แรชฟอร์ด มาร่วมทีมก็ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีถ้าต้องนำมาแทนที่ ซน ฮึง-มิน 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport