เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนซิตี้ ยืนยันไม่ได้มีปัญหาบาดหมางกับ เควิน เดอ บรอยน์ หลังถูกกูรูตั้งข้อสังเกตไม่ส่งเพลย์เมคเกอร์ลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างน่าสงสัย
กวาร์ดิโอล่า ใช้งาน เดอ บรอยน์ เป็นตัวสำรองตลอดห้าเกมหลังรวมถึงนัดล่าสุดที่ออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 2-0 ด้วยทั้งๆที่กองกลางทีมชาติ เบลเยี่ยม หายเจ็บแล้ว
นับตั้งแต่ปราศจาก เดอ บรอยน์ ออกสตาร์ต ส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า มีผลงานสุดเลวร้ายไม่ชนะนานถึงเจ็ดนัดติดต่อกันในทุกรายการ และทำให้บรรดาคอมเมนเตเตอร์มองว่าทั้งสองมีปัญหากันโดยเฉพาะกองกลางคนสำคัญกำลังจะหมดสัญญาหลังจบซีซั่นนี้
"มีความขัดแย้ง" ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กล่าวกับ สกาย สปอร์ตส์ ขณะที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เอ่ยว่า "มีบางอย่างผิดปกติ" เช่นเดียวกับ แกรี่ เนวิลล์ ที่ระบุว่า "สถานการณ์แปลกประหลาด"
อย่างไรก็ดี นายใหญ่สแปนิชระบุว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับ เดอ บรอยน์ พร้อมยันนักเตะกระหายกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง และมีโอกาสเป็นไปได้ในเกมต้อนรับ ฟอเรสต์ วันพุธนี้
"ผู้คนบอกว่าผมมีปัญหากับ เควิน คุณคิดว่าผมไม่อยากส่ง เควิน ลงเล่นหรือ? ผมไม่อยากให้ เควิน เล่นหรือ? ไม่เลย" กวาร์ดิโอล่า เอ่ย
"เขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถมากที่สุดในพื้นที่สุดท้าย ผมไม่ต้องการสิ่งนี้หรือ? ผมมีปัญหาส่วนตัวกับเขาหรือหลังจากเก้าปีที่อยู่ด้วยกัน?"
"เขาช่วยให้ผมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสรนี้ แต่เขาเจ็บไปห้าเดือนเมื่อซีซั่นก่อน และสองเดือนในซีซั่นนี้"
"เขาอายุ 33 ปี เขาจำเป็นต้องใช้เวลาเรียกฟอร์มสุดยอดกลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไปเหมือนซีซั่นก่อน เขากำลังพยายาม และเขารู้สึกดีขึ้น ผมกระหายสิ่งที่ดีที่สุดจากเขา"
กวาร์ดิโอล่า เสริมถึงมิดฟิลด์คนสำคัญที่ไม่ได้เล่นเป็นตัวจริงนับตั้งแต่บาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดบู๊กับ อินเตอร์ มิลาน วันที่ 18 ก.ย.ว่า "ผมอยากให้ เควิน มีอายุ 26 หรือ 27 ปีเช่นเดียวกับตัวเขาเอง แต่เขาไม่ได้มีอายุแบบนั้นแล้ว"
"เขาบาดเจ็บ มันเป็นสิ่งที่สำคัญ และมันยาวนาน เขาจำเป็นต้องฟิตซะก่อน มันเป็นเรื่องปกติ"
"เขาเล่นหลายเกมใน 10 หรือ 11 ซีซั่น และผมรู้ว่าเขากระหายช่วยเรา เขามอบความสมดุลย์ให้เรา แต่อย่างที่ผมบอกเสมอว่าเขาไม่อาจแก้ปัญหาให้ทีมได้โดยลำพังเช่นเดียวกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่แก้ปัญหาให้เราด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้ เราต้องรุกและรับด้วยกันเป็นทีม"
"เราต้องการนักเตะกลับมาอย่างดีที่สุด หวังว่าความมั่นใจจะกลับคืนมาในไม่ช้า"