แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส! 5 ประเด็นเรือใบกู่ไม่กลับ-เกมหน้าฉะ ลิเวอร์พูล

แมนซิตี้ พบ สเปอร์ส! 5 ประเด็นเรือใบกู่ไม่กลับ-เกมหน้าฉะ ลิเวอร์พูล
แมนซิตี้ แชมป์ พรีเมียร์ลีก ออกอาการร่อแร่หนักขึ้นทุกทีจนทำท่าว่าไม่น่าจะป้องกันแชมป์ในซีซั่นนี้ได้แล้วหลังโดน สเปอร์ส บุกมาทุบถึงรัง 4-0 ในการทำศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้่ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พ.ย.โดยทีมเงินถังเพิ่มผลงานสุดเลวร้ายไม่เลิกกับการแพ้ห้านัดรวดในทุกรายการก่อนเจองานช้างเกมหน้าต่ออีกด้วยการบุกไปเยือน ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง

1. เรือใบเปลี่ยนโผตัวจริงสามตำแหน่ง


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือทีม แมนฯ ซิตี้ สลับโผนักเตะตัวจริงสามรายจากเกมบุกไปแพ้ ไบรท์ตัน 2-1 หลังตัดสินใจต่อสัญญาใหม่อีกสองปี

เรือใบสีฟ้า ขาด มาเตโอ โควาซิช ที่บาดเจ็บ และดร็อป จาห์ไม ซิมพ์สัน พิวซีย์ กับ มาเตอุส นูเนส ไปนั่งข้างสนามโดยมี จอห์น สโตนส์ , แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ มานูเอล อาคันจี คัมแบ็ค

อย่างไรก็ดี เจ้าบ้านซึ่งแพ้ตลอดสี่เกมหลังของทุกรายการมีสองดาวดัง แจ็ค กรีลิช กับ เควิน เดอ บรอยน์ รอเรียกตัวลงเล่นอยู่ในซุ้ม

2. ไก่ไร้ เบนตานกูร์ เริ่มชดใช้โทษแบน


สเปอร์ส ซึ่งมีผลงานแย่ไม่แพ้กันจากการปราชัยในสองเกมหลังโรเตชั่นนักเตะตัวจริงสามตำแหน่งเช่นกันจากเกมลีกนัดแพ้ อิปสวิช คารัง 2-1

เกมนี้ ไก่เดือยทอง ไม่มี โรดรีโก้ เบนตานกูร์ กองกลางทืมชาติ อุรุกวัย ซึ่งเริ่มต้นชดใช้โทษแบนเจ็ดนัดเป็นเกมแรกข้อหาเหยียดเชื้อชาติ ซน ฮึง มิน เพื่อนร่วมทีม

นอกจากดาวเตะละตินที่ถูกแทนที่โดย อีฟส์ บิสซูม่า แล้ว ทีมเมืองกรุงปราศจาก คริสเตียน โรเมโร่ ที่เดี้ยงจากการลงเล่นให้ทีมชาติ อาร์เจนติน่า โดยมี เบน เดวิส ถูกส่งลงสนาม ขณะที่ เบรนแนน จอห์นสัน เสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ เจมส์ แมดดิสัน 

3. แมดดิสัน แผลงฤทธิ์ฉลองวันเกิด


ก่อนเกมบู๊กับแชมป์เก่า แอนจ์ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ สเปอร์ส ระบุกับสื่อว่าเลือกส่ง แมดดิสัน ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อนหน้า จอห์นสัน จากการพิจารณาความสดของนักเตะ

และในที่สุด มิดฟิลด์ทีมชาติ อังกฤษ ไม่ทำให้เจ้านายผิดหวังจากการแผลงฤทธิ์ซัดคนเดียวสองเม็ดพาทีมออกนำเจ้าบ้านอย่างน่าช็อกพร้อมทั้งเป็นการฉลองวันเกิดอายุครบ 28 ปีให้กับตัวเองได้อย่างสุดวิเศษ (เกิด 23 พ.ย.1996)

จากการสอยตาข่าย เรือใบสีฟ้า ได้สำเร็จ แมดดิสัน กลายเป็นนักเตะคนแรกของ สเปอร์ส ที่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดในวันเกิดนับตั้งแต่ คริสเตียน เอริคเซ่น ที่กระซวกประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ฉลองวันเกิดได้เช่นกันเมื่อเดือนก.พ.2016

และที่สำคัญ เป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยที่สตาร์ทีมชาติ เดนมาร์ค ยิงประตูใส่ แมนฯ ซิตี้ ได้ในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

หลังซัดได้สองประตู แมดดิสัน มีผลงานเบิกทวาร แมนฯ ซิตี้ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้รวม 4 ประตูแล้ว เป็นรองนักเตะแค่สองรายคือ เวย์น รูนีย์ กับ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ยิงได้ 6 และ 5 ประตูตามลำดับ

นอกจากนี้ หลังเกมในครึ่งแรกจบลงโดย แมนฯ ซิตี้ ตามหลัง 2-0 นับเป็นครั้งแรกในเกมลีกที่ เรือใบสีฟ้า ตกเป็นรองทีมเยือนสองเม็ดต่อจากเกมเฝ้าบ้านไล่หลัง ไก่เดือยทอง ใน 45 นาทีแรกเช่นกันด้วยสกอร์  4-2 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2023

4. ปอร์โร่ ทำแสบกับทีมเก่า


เริ่มครึ่งหลัง กวาร์ดิโอล่า ขยับส่ง นาธาน อาเก้ ลงเล่นแทน สโตนส์ หมายขันเกมรับให้แข็งแกร่งมากขึ้น แต่มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเนื่องจากเจ้าบ้านเสียประตูเพิ่มอีกในนาทีที่ 53 จากการซัลโวของ เปโดร ปอร์โร่

เท่ากับว่ากองหลังทีมชาติ สเปน พังประตูอดีตต้นสังกัดได้อย่างแสบสันต์เนื่องจากเขาย้ายจาก จีโรน่า มาร่วมทีม เรือใบสีฟ้า แต่ไม่เคยได้ลงเล่นเลยแม้แต่เกมเดียวระหว่างปี 2019-2022 และถูกส่งให้ บายาโดลิด กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยืมตัวก่อนที่พ่อค้าแข้งสแปนิชจะเซ็นสัญญาอย่างถาวรกับแชมป์ลีกเมืองฝอยทองแล้วหวนคืนสู่ พรีเมียร์ลีก อีกรอบภายใต้สีเสื้อของ สเปอร์ส ในเดือนม.ค.2023

หลังพ่าย สเปอร์ส ยับเยินคารัง แมนฯ ซิตี้ เสียสถิติไม่แพ้เกมเหย้าติดต่อกันทุกรายการ 52 นัดจนได้ (ชนะ 43 เสมอ 9 ) โดยเกมที่ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกโทษถือเป็นผลเสมอหลังจากหนสุดท้ายที่พวกเขาแพ้คาบ้านเป็นเกมลีกนัดพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2022

จากความพ่ายแพ้เป็นเกมที่ห้าติดต่อกัน มันฟ้องให้เห็นว่า เรือใบสีฟ้า ไม่อาจขาด โรดรี้ ได้โดยมีสถิติเผยว่าทีมเงินถังปราชัยมากถึง 33% และแพ้แค่ 2.6% หากมีสตาร์ทีมชาติ สเปน ลงสนาม

และที่สำคัญ หาก ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมวันอาทิตย์นี้ได้ หงส์แดง จะโกยแต้มหนี แมนฯ ซิตี้ เป็นแปดแต้ม และมันจะขยับเป็น 11 แต้มหากทีมของ อาร์เน่อ สล็อต มีชัยเหนือแชมป์เก่าในเกมหน้าที่ทั้งสองทีมจะบู๊กันใน แอนฟิลด์ วันที่ 1 ธ.ค.

5. เป๊ป เพิ่มสถิติสุดเลวร้าย


ก่อนหน้าเกมเปิดบ้านดวลกับ สเปอร์ส กวาร์ดิโอล่า มีสถิติย่ำแย่ที่สุดในอาชีพกุนซือโดยเป็นครั้งแรกที่เขาคุมทีมแพ้รวดสี่นัดติดต่อกันในทุกรายการ

หลังจบเกมโดน ไก่เดือยทอง ขยี้แหลก 4-0 นอกจากกุนซือเลือดกระทิงดุจะแพ้เพิ่มเป็นห้านัดติดต่อกันแล้วยังเป็นครั้งแรกในฐานะกุนซือ เรือใบสีฟ้า ด้วยที่เขาพาทีมปราชัยคาสังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยมากที่สุดแม้ แมนฯ ซิตี้ จะเคยแพ้คารัง 5-1 ให้กับ อาร์เซน่อล ในเดือนก.พ.2003 แต่ยุคนั้นพวกเขายังใช้งานสนาม เมน โร้ด แห่งเดิม

สำหรับ กวาร์ดิโอล่า สกอร์แพ้ 4-0 เป็นสถิติที่แย่ที่สุดของเขาในฐานะผู้จัดการทีมเช่นเดียวกับที่เขาเคยแพ้ เอฟเวอร์ตัน 4-0 ในปี 2017 และแพ้ บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์เดียวกันในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2016 รวมทั้งสมัยคุมทีม บาเยิร์น พ่าย เรอัล มาดริด ในปี 2014

นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังเป็นแชมป์ลีกอิงลิชรายแรกที่แพ้ห้านัดรวดทุกรายการด้วยต่อจากที่ เชลซี เคยมีมลทินในเดือนมี.ค.1956 โดยปีนั้น สิงห์บลูส์ จบอันดับที่ 16 ของตารางลีก

ขณะเดียวกัน แน่นอนว่า สเปอร์ส เป็นทีมที่สร้างความเจ็บแสบให้กับกุนซือสกินเฮดมากที่สุดชนิดที่ไม่มีทีมไหนทำได้เสมอเหมือนเนื่องจากเป็นเกมที่ 7 แล้วใน พรีเมียร์ลีก ที่เขาแพ้ ไก่เดือยทอง (รวมทุกรายการแพ้ 9 นัด) และเสียประตูให้ทีมเมืองกรุงในเกมลีกมากที่สุดเช่นกันรวมเป็น 26 ประตูแล้ว

ก่อนหน้านี้ แมนฯ ซิตี้ เคยแพ้ห้านัดรวดในทุกรายการมาแล้วเมื่อเดือนเม.ย.2006 สมัยที่ สจ๊วร์ต เพียร์ซ คุมทีม และเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแพ้เกม พรีเมียร์ลีก สามนัดรวดต่อจากที่ มานูเอล เปเยกรินี่ เคยเป็นนายใหญ่เมื่อเดือนมี.ค.2016

เรือใบสีฟ้า แพ้ ไก่เดือยทอง แบบขาดลอย 4-0 ทั้งๆที่มีโอกาสยิงประตูมากถึง 23 ครั้งซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ของพวกเขาสำหรับแมตช์ที่คลำเป้าไม่ได้ต่อจากเกมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อเดือนมี.ค.2021


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport