หลังจากที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย หมดภารกิจในการทำงานกับ แมนยู แต่ผลงานที่ทำเอาไว้โดดเด่นมาก ทำให้มีหลายทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สนใจอยากใช้บริการ
ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์นี้ ฟาน นิสเตลรอย หวนกลับมาทำงานให้ "ผีแดง" ในฐานะผู้ช่วยโค้ชของ เอริค เทน ฮาก แต่หลังจากกุนซือเพื่อนร่วมชาติโดนปลด บอร์ดบริหารตัดสินใจดัน "น้ารุด" ขึ้นมารั้งบังเหียนชั่วคราว
ผลงานของ ตำนานดาวยิงทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือว่าโดดเด่นมากๆ เมื่อคุมทีม 4 เกม ชนะ 3 เสมอ 1 แต่ที่โดดเด่นก็คือแนวทางการเล่นของทีมซึ่งสาวก "เร้ด อาร์มี่" ชื่นชมมากๆ ว่าสามารถนำจิตวิญญาณของ "เร้ด เดวิลส์" กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตา เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วม และบอร์ดบริหาร หวาดหวั่นว่า ฟาน นิสเตลรอย จะเดินตามรอย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำให้พวกเขาเลือกที่จะแต่งตั้ง รูเบน อโมริม เข้ามาทำหน้าที่นายใหญ่ถาวร
แม้หลายคนอยากให้ ฟาน นิสเตลรอย อยู่ทำงานกับ อโมริม แต่กุนซือชาวโปรตุกีสมีทีมงานของเขาอยู่แล้ว ขณะที่ "น้ารุด" วัย 48 ปี ก็พร้อมที่จะออกเดินทางใหม่ในอาชีพเฮดโค้ชเช่นกัน และนั่นทำให้มีรายงานว่า 5 สโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี สนใจอยากได้ตัวเขาไปกุมบังเหียน
1. วูล์ฟส์
ก่อนหน้านี้ แกรี่ โอนีล เคยมีข่าวพัวพันกับตำแหน่งนายใหญ่แมนยูไนเต็ด นั่นส่งผลกระทบกับผลงานของเขากับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ และนั่นทำให้พวกเขาต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่ในโซนตกชั้น
ทัพ "หมาป่า" ทำผลงานได้ดีแต่ผลการแข่งขันไม่เป็นอย่างที่ต้องการ โดยเฉพาะในเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล รวมทั้งแมตช์ที่เสมอ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ คริสตัล พาเลซ
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วูล์ฟส์ คว้าชัยชนะเกมแรกของซีซั่นในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อไล่ทุบ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 กระนั้นสถานการณ์ของทีมก็ยังไม่ดีเพราะรั้งอันดับรองบ๊วยมีแค่ 6 คะแนนเท่านั้น
ขุมกำลังของ วูล์ฟส์ ดีเกินกว่าที่จะต้องหนีตกชั้น และน่าจะขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ดีกว่าที่ 19 และแน่นอนว่าด้วยศักยภาพของ ฟาน นิสเตลรอย ทำให้เขากลายเป็นเต็งหนึ่งถ้าหาก โอนีล โดนปลดออกจากตำแหน่ง
2. คริสตัล พาเลซ
โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ นำทีมทำผลงานได้กระเตื้องเมื่อเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้สำเร็จ แต่อยู่ดีๆ ฟอร์มของพวกเขาก็ดันสะดุดทั้งเสมอ วูล์ฟส์ และตามด้วยแฟ้ ฟูแล่ม ในเกมล่าสุดก่อนพักเบรกทีมชาติ
กุนซือชาวออสเตรีย เข้ามารับงานแทน รอย ฮ็อดจ์สัน เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และสามารถนำทีมอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในฤดูกาลปัจจุบันของ "ดิ อีเกิ้ลส์" ค่อนข้างน่าผิดหวัง และนั่นทำให้เขาเสี่ยงที่จะตกจากเก้าอี้นายใหญ่เช่นกัน
สถานการณ์ของ กลาสเนอร์ ก็เหมือนกับ โอนีล เพราะขาเก้าอี้เริ่มสั่นคลอน เนื่องจากอันดับของทีมอยู่ในโซนตกชั้นมีเพียง 7 คะแนนเท่านั้น แต่ก็ห่างจาก อิปสวิช ทาวน์ ที่อยู่ในโซนปลอดภัยเพียง 1 แต้ม
ถ้าหาก นายใหญ่วัย 50 ปีไม่สามารถนำ พาเลซ ขยับจากโซนท้ายตารางขึ้นไปสู่กลางตารางได้ งานนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เขาอาจจะต้องหางานใหม่ และการเลือก ฟาน นิสเตลรอย มาคุมทัพอาจจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ
กระนั้น "น้ารุด" ก็อาจต้องคิดหนัก เพราะกรณีนี้ก็เหมือนกับ วูล์ฟส์ เนื่องจากทีมสุ่มเสี่ยงจะตกชั้น และถ้าหากเขาไม่สามารถพาทีมอยู่รอดได้ มันอาจจะส่งผลต่อเครดิตของเจ้าตัว แต่ถ้ามองอีกมุมนี่คืองานที่ท้าทาย เนื่องจากถ้าสามารถนำทีมไม่ตกชั้น ฟาน นิสเตลรอย จะได้รับการยกย่องเป็นทวีคูณ
3. เอฟเวอร์ตัน
การเริ่มต้นฤดูกาลที่แสนย่ำแย่ของ เอฟเวอร์ตัน ทำให้ตอนนี้เริ่มมีกระแสความไม่ปลื้มผลงานของ ฌอน ไดซ์ มากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อมองดูอันดับบนตารางลีกในซีซั่นนี้
ทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ฟอร์มกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน โดยเฉพาะ 3 เกมหลังสุดก่อนช่วงฟีฟ่าเดย์ เมื่อพวกเขาสะกดคำว่าชนะไม่เป็น และนั่นทำให้ทีมรั้งอยู่อันดับ 16 มี 10 แต้มเท่ากับ อิปสวิช
จากสถานการณ์ในเวลานี้ เอฟเวอร์ตัน จำเป็นต้องพลิกสถานการณ์ให้ได้เร็วๆ ที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นอนาคตของ ไดซ์ อาจจะเหมือนกับ เทน ฮาก ที่จะต้องกลับบ้านไปเปิดหนังสือพิมพ์เพื่อหาตำแหน่งงานใหม่
ถ้าหาก เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจปลด ไดซ์ แน่นอนว่าคนที่พวกเขาหมายตาก็คงหนีไม่พ้น ฟาน นิสเตลรอย เพราะผลงานตอนคุม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ แมนยูไนเต็ด เป็นสิ่งที่การันตีกึ๋นของเขาได้เป็นอย่างดี
4. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สถานการณ์ของ จูเลน โลเปเตกี ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับ ฌอน ไดซ์, แกรี่ โอนีล และ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เพราะใครจะไปคิดว่ากุนซือที่มีประสบการณ์แบบนี้จะทำให้ "ขุนค้อน" ตกอยู่ในฟอร์มที่น่าผิดหวังขนาดนี้
กุนซือชาวสแปนิช ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาทำงานแทน เดวิด มอยส์ ช่วงซัมเมอร์นี้ พร้อมความคาดหวังว่าจะนำ เวสต์แฮม ทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากประสบการณ์ของ โลเปเตกี การันตีว่าเขาเป็นเฮดโค้ชที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
อย่างไรก็ตามผลงานของ เวสต์แฮม ในช่วงแรกไม่ดีเอาซะเลย แต่ค่อยๆ กระเตื้องขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ทีมขยับไปอยู่อันดับ 14 มี 12 คะแนน แต่กระนั้นก็ห่างโซนตกชั้นเพียง 5 แต้มเท่านั้น
ดังนั้นอนาคตของ โลเปเตกี ก็ไม่ค่อยแน่นอน และถ้าหากมีการปรับเปลี่ยนเฮดโค้ชจริงๆ ชื่อของ ฟาน นิสเตลรอย ก็เป็นหนึ่งในกุนซือที่น่าสนใจ เพราะด้วยสไตล์การทำทีม และการเป็นกุนซือรุ่นใหม่ อาจจะช่วยกระตุ้นฟอร์มแข้ง "เดอะ แฮมเมอร์ส" ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นก็ได้
5. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
แฟนบอลหลายคนอาจไม่ค่อยเชื่อว่า สเปอร์ส จะเปลี่ยนกุนซือ แต่ถ้าหากมองผลงานของ แอนจ์ ปอสเตโคกลู ในช่วงที่ผ่านมา ต้องบอกว่าไม่ค่อยคงเส้นคงวา และนั่นทำให้ทีมไม่ได้ผลการแข่งขันที่เหมาะสมในบางแมตช์
ทัพ "ไก่เดือยทอง" ฟอร์มหรูเหลือเกินในเกมไล่ต้อน แมนยูไนเต็ด แต่หลังจากนั้นผลงานก็ลุ่มๆ ดอนๆ โดยเฉพาะการแพ้ คริสตัล พาเลซ และ อิปสวิช รวมทั้งแพ้ ไบรท์ตัน ทั้งๆ ที่ครึ่งแรกนำสองประตู แต่สุดท้ายแพ้ 3-2 นั่นทำให้พวกเขามี 16 คะแนน รั้งอันดับ 10 ในตารางลีก
ถ้าหากมองอย่างเป็นการ ปอสเตโคกลู ยังสามารถยกระดับฟอร์มของ สเปอร์ส ได้ เนื่องจากขุมกำลังในทีมถือว่ายังคงแข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากเขาไม่สามารถกระตุ้นผลงานของทีมได้ นั่นคงทำให้ แดเนี่ยล เลวี่ เจ้าของทีมอาจจำเป็นต้องขบคิดเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือ
แม้ว่า ฟาน นิสเตลรอย จะเป็นนักเตะที่มักจะยิงประตูใส่ สเปอร์ส สมัยที่ยังค้าแข้ง แต่เมื่อเขาเปลี่ยนสถานะเป็นโค้ช ความสามารถของ "พี่ม้า" คงทำให้ เลวี่ พร้อมจะส่งเทียบเชิญเพื่อเข้ามาทำงานแทน "ลุงแอนจ์" !!!
ทอมเม้ง