ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤูดูกาล 2024/25 ถึงตอนนี้แต่ละทีมเตะกันมา 11 นัดแล้ว ซึ่งก็คงไม่ผิดนัก หากบอกว่าผ่านโค้งแรกของการแข่งขันเรียบร้อย และถึงแม้ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล แต่อย่างน้อยก็พอจะพูดได้ว่า ใครทำผลงานได้ดี เสมอตัว หรือน่าผิดหวัง และนี่คือผลสอบของบรรดาทีมในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์" หลังผ่านโค้งแรกของฤดูกาล ซึ่งพิจารณาจากผลงานในลีกเท่านั้น
- ลิเวอร์พูล (อันดับ 1 : 28 คะแนน)
ก่อนเปิดฤดูกาล แม้แต่แฟนบอล "หงส์แดง" เอง ก็ไม่กล้าคิด ไม่กล้าหวังสูงถึงการลุ้นแชมป์ แบบว่าแค่ติดท็อปโฟร์ได้ก็หรูมากๆ แล้ว หลังจากที่ตำแหน่งกุนซือเปลี่ยนมือจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดโค้ชชาวเยอรมัน มาเป็น อาร์เนอ สล็อต ที่ ณ ตอนนั้นหลายคนไม่รู้จักด้วยซ้ำ ว่าเป็นใคร มาจากไหน แต่ปัจจุบัน หลังจากเตะมา 11 นัด ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล รั้งจ่าฝูง ด้วยสถิติชนะ 9, เสมอ 1, แพ้ 1 แถมโกยคะแนนทิ้งห่างอันดับสองถึง 5 แต้ม ถือว่ามาดีกว่าที่คิดไว้มาก ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ สล็อต ที่เข้ามาสานต่องานจาก คล็อปป์ ได้ดีเยี่ยม ต่อให้สไตล์การเล่นไม่ดุดัน ไม่เร้าใจ และไม่ยิงโหดเหมือนเดิม แต่นั่นก็แลกมาด้วยการเล่นที่แน่นอนขึ้น เน้นผลงานแข่งขันได้ เซฟพลังงาน และเสียประตูยากมาก
เกรด : A
++++++++++
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 2 : 23 คะแนน)
แชมป์เก่ากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตก และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังแพ้รวดใน 2 เกมหลังสุด ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาขาดผู้เล่นแกนหลักหลายคนด้วย แต่ข้อดีคือ ต่อให้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มแกว่ง แต่ก็ยังสามารถรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง ซึ่งนี่แหละคือความอันตรายของ "เรือใบสีฟ้า" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พวกเขาก็พร้อมจะเดินหน้าเก็บคะแนนชนิดเป็นกอบเป็นกำเช่นกัน
เกรด : B
++++++++++
- เชลซี (อันดับ 3 : 19 แต้ม)
ต้องยกความดีความชอบให้กับกุนซือ เอ็นโซ มาเรสก้า ที่เข้ามาปรับเปลี่ยน เชลซี จนกลายเป็นทีมที่ดีและน่าดูอีกครั้ง หลังจากที่ฤดูกาลก่อนจบอันดับหก ภายใต้การทำทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ดังนั้นการที่ตอนนี้บินสูงอยู่อันดับสาม ถือว่าดีเกินคาด และ 11 เกมที่ผ่านมา เจอทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล มาแล้วด้วย ถึงแม้ไม่สามารถเอาชนะทีมเหล่านี้ได้ (เสมอ 2, แพ้ 2) แต่ก็ถือว่าพวกเขาสู้ได้ดีทุกเกม
เกรด : B+
++++++++++
- อาร์เซน่อล (อันดับ 4 : 19 แต้ม)
จริงๆ แล้วทีมรองแชมป์เก่าของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ถือว่าออกตัวได้ดีมาก โดยชนะ 5 จาก 7 เกมแรก แถมไร้พ่าย แต่ 4 เกมหลังสุด ช็อตไปดื้อๆ ไม่มีชัยชนะเลย (เสมอ 2, แพ้ 2) ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ตอนนี้พวกเขามีคะแนนตามหลังจ่าฝูงถึง 9 แต้ม เรียกว่าลุ้นแชมป์เหนื่อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นมันจึงสำคัญมากๆ ที่พวกเขาจำเป็นต้องกลับมาคว้าชัยแบบรัวๆ หลังพ้นเบรกทีมชาติรอบนี้
เกรด : C+
++++++++++
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อันดับ 10 : 16 คะแนน)
สามวันดี สี่วันไข้ นี่แหละคือ สเปอร์ส ซีซั่นนี้ ใครจะคิดว่า ทีมที่ทำประตูมากสุดในลีกตอนนี้ (23 ลูก) และมีผลต่างประตูได้-เสีย ดีสุดอันดับสอง (+10) กลับอยู่แค่อันดับสิบ ซึ่งมันเป็นสถิติที่สามารถบ่งบอกอะไรได้บางอย่าง นั่นก็คือ เกมไหนที่เล่นดี ก็ดีน่าใจหาย แถมชนะคู่แข่งแบบขาดลอย แต่วันใดที่หลุดฟอร์ม ก็แพ้ดื้อๆ โดยที่ไม่สนว่าคู่แข่งเป็นใคร อย่างในเกมล่าสุดที่ดันพลิกล็อกพ่าย อิปสวิช ทาวน์ คาบ้าน 1-2 ทั้งที่เกมก่อนหน้าเปิดบ้านถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-1 ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ 11 เกมที่ผ่านมา พวกเขามีสถิติชนะ 5, เสมอ 1, แพ้ 5 ถือเป็นฟอร์มที่เอาแน่เอานอนไม่ได้สำหรับทีมของโค้ช แอนจ์ ปอสเตโคกลู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเขามีคะแนนห่างจากท็อปโฟร์แค่ 3 แต้มเท่านั้น
เกรด : C
++++++++++
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 13 : 15 คะแนน)
สาวก "เร้ด อาร์มี่" หลายคนรู้ดีว่า แมนยู ชุดปัจจุบัน ยังไม่ดีพอก้าวขึ้นไปเป็นทีมลุ้นแชมป์ แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่า ทีมจะลงไปอยู่ที่อันดับ 13 หลังผ่านพ้นไป 11 นัด แถมฟอร์มการเล่นก็ไม่น่ารื่นรมย์ แม้แต่เกมที่พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะได้ ก็ได้แต่หวังว่า รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ชาวโปรตุกีส ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่แทน เอริค เทน ฮาก จะสามารถช่วยพลิกสถานการณ์ได้ หลังจากที่ฟอร์มเริ่มดูดีขึ้นในช่วงที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย คุมทีมชั่วคราว
เกรด : C
Subinho