ไอแวน โทนี่ย์ ระเบิดฟอร์มลบความผิดหวังอดไปบอลโลก-เบรนท์ฟอร์ด จอมแสบของทีมเมืองแมนเชสเตอร์ เปิด 5 ประเด็นร้อน แมนฯ ซิตี้ แพ้คาบ้าน อดขึ้นจ่าฝูงอย่างน่าเสียดาย
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสนำทัพ "เรือใบสีฟ้า" แซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เป็นการชั่วคราว หลังเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เแพ้ เบรนท์ฟอร์ด ไปอย่างพลิกล็อก 1-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน
แมนฯ ซิตี้ ลงเตะไปแล้ว 14 นัดมี 32 คะแนน ขณะที่ อาร์เซน่อล ลงเล่นไป 13 เกม มี 34 คะแนน ก่อนที่ "ปืนใหญ่" จะออกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส คืนนี้ (02.45 น. ตามเวลาประเทศไทย)
จากชัยชนะของ เบรนท์ฟอร์ด ถึงรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม มี 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. เรือเสียแต้มในบ้านนัดแรก
เบรนท์ฟอร์ด กลายเป็นทีมแรกที่สามารถบุกมาเก็บคะแนนจาก แมนฯ ซิตี้ เวลาที่เล่นในเกม พรีเมียร์ลีก ที่รัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ฤดูกาลนี้ หลังก่อนหน้าลูกทีมของ เป๊ป คว้าชัยมาได้ทั้งหมด
"เรือใบสีฟ้า" ต้องหยุดสถิติคว้าชัยในบ้านเกมลีกไว้ที่ 7 เกมติดต่อกัน หลังเสียแต้มหนสุดท้ายก่อนหน้านี้คือเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
เกมนี้ต้องชม โธมัส แฟร้งค์ และนักเตะ เบรนท์ฟอร์ด ที่สามารถร่วมใจกันเก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จอย่างที่กุนซือของทีมกระตุ้นลูกทีมไว้ว่า พวกเขาสามารถเอาชนะได้ทุกทีมไม่ว่าจะเจอทีมเล็กหรือทีมใหญ่
2. โทนี่ย์ ยิง2ลูกลบความผิดหวัง
ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้า เบรนท์ฟอร์ด ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังไม่มีชื่ออยู่ใน 26 ขุนพลทีมชาติอังกฤษ ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน - 18 ธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม โทนี่ย์ ไม่ปล่อยให้ความผิดหวังมาทำเสียสมาธิในเกมนี้ แถมกลายเป็นการเพิ่มความมุ่งมั่นให้เจ้าตัวเสียอีก ก่อนเป็นคนโหม่งประตูให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 16 ก่อนมาบวกลูกที่สองของตัวเองในช่วงทดเจ็บ
ในฤดูกาลนี้ โทนี่ย์ ยิงใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 10 ประตู และเชื่อว่า ในช่วงเปิดตลาดนักเตะหน้าหนาวจะกลับมามีข่าวกับพวกทีมใหญ่ๆ อีกแน่นอน หลังช่วงซัมเมอร์เคยมีข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด อยากได้ไปล่าตาข่ายมาแล้ว
3. เบรนท์ฟอร์ด จอมแสบทีมเมืองแมนเชสเตอร์
ในฤดูกาลนี้ เบรนท์ฟอร์ด สร้างความเจ็บแสบให้กับสองทีมดังเมืองแมนเชสเตอร์ ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังตอนต้นซีซั่นเคยเปิดบ้านอัด "ปีศาจแดง" ขาดลอยถึง 4-0 มาแล้ว
นี่เป็นฤดูกาลที่สามที่ เบรนท์ฟอร์ด สามารถเอาชนะทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ในลีกสูงสุด หลังสองหนก่อนหน้าต้องย้อนไปถึงซีซั่น 1936/37 และ 1937/38 เลยทีเดียว
นอกจากนั้น เบรนท์ฟอร์ด ยังมีสถิติที่ยอดเยี่ยมใน พรีเมียร์ลีก คือถ้ายิงนำคู่แข่งไปก่อนจะไม่เคยกลับมาแพ้เลย หลังทำมาแล้ว 16 เกมติดต่อกัน (ชนะ 13 เสมอ 3)
4. โฟเด้น ซัดฉลองไปบอลโลกแต่สุดท้ายก็ต้องพบกับความปราชัย
ฟิล โฟเด้น ปีกคนเก่งของ แมนฯ ซิตี้ เป็นคนซัดประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเจ็บเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก และกลายเป็นลูกที่ 7 ของเจ้าตัวใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ แต่สุดท้ายทีมต้องพบกับความพ่ายแพ้
โฟเด้น เพิ่งมีชื่ออยู่ใน 26 นักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 และดาวเตะวัย 22 ปี ก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสจะเจิดจรัสแสงในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์
เป๊บ เคยกล่าวชม โฟเด้น ไว้ว่าสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นปีกหรือกองหน้า พร้อมทั้งยังมีคุณสมบัติที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพได้อีกด้วย
5. จอมมารบูโชว์ฟอร์มไม่ออก
เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าคนเก่งของ แมนฯ ซิตี้ ได้กลับมาลงเป็นตัวจริงในนัดนี้ หลังช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยสมบูรณ์ตั้งแต่บาดเจ็บข้อเท้าในเกมพบ ดอร์ทมุนด์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่วันที่เป็นใจของดาวเตะนอร์วีเจี้ยน หลังโอกาสเข้าทำประตูดูผิดจังหวะไปหมด ขณะที่การประสานงานกับ เควิน เดอ บรอยน์ ก็ไม่ลงล็อกเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
แม้จะยิงในนัดนี้ไม่ได้ แต่ ฮาลันด์ ยังนำโด่งเป็นดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก หลังทำไปแล้ว 18 ประตู ขณะที่ แฮร์รี่ เคน กองหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามมาห่างๆ ที่ 11 ประตู