ลิเวอร์พูล เตรียมเจอกับปัญหาใหญ่หลังช่วงเบรกทีมชาติ เนื่องจาก ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก กองกลางชาวดัตช์ มีปัญหาบาดเจ็บ จากการรับใช้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
กราเฟ่นแบร์ก ได้ลงเล่นตัวจริงในแมตช์ที่แพ้ เยอรมนี 0-1 ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา และตอนนี้ยังไม่รู้ว่านักเตะมีอาการบาดเจ็บหนักมากแค่ไหน และสภาพร่างกายจะฟิตทันลงเล่นเกมลีกพบ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้ ได้หรือไม่
ในกรณีที่เลวร้ายนักเตะไม่สามารถลงสนามเกมบิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์นี้ได้ งานนี้ อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องเตรียมแผนสำรอง ในการหาคนมาทำหน้าที่แทน กราเฟ่นแบร์ก ในแผงกองกลาง
แม้ว่านักเตะคนนั้นจะไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มศักยภาพเท่ากับหรือมากกว่า กราเฟ่นแบร์ก แต่ต้องไม่ด้อยไปกว่า เพราะไม่อย่างนั้นอาจส่งผลกระทบกับฟอร์มโดยรวมของทีม ฉะนั้น โค้ชอาร์เน่อ น่าจะมี 3 ทางเลือกในการรับแท็กติกสำหรับแมตช์ที่แอนฟิลด์
1. ใช้งาน วาตารุ เอ็นโด
แน่นอนว่านี่คือการทดแทนตำแหน่งต่อตำแหน่งอย่างแท้จริง เพราะ วาตารุ เอ็นโด้ เป็นมิดฟิลด์ตัวรับโดยธรรมชาติ ดังนั้นการเลือกใช้งาน สตาร์ชาวญี่ปุ่น ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด
ที่สำคัญนักเตะสามารถแบกภาระในเกมรับเพื่อให้ โดมินิค โซโบซไล และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เล่นเกมรุกได้อย่างเต็มที่ แถมทั้งสามคนก็เคยเล่นร่วมกันบ่อยๆ ในซีซั่นที่ผ่านมา ดังนั้น เอ็นโด ถือเป็นคำตอบที่ดีในการรักษาสมดุลและโครงสร้างในแผงมิดฟิลด์ "หงส์แดง"
อย่างไรก็ตา สิ่งที่แฟนบอล "หงส์แดง" ค่อนข้างกังวลนั่นก็คือ ดาวเตะเลือดบูชิโด มักจะครองบอลนานจนทำให้ทีมเสียจังหวะ และบางครั้งก็เสียบอลง่ายเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับทีมโดยเฉพาะการสู้กับทีมใหญ่อย่าง เชลซี
2. ส่ง โกดี้ คักโป เล่นมิดฟิลด์
สำหรับตอนนี้สาวก "เดอะ ค็อป" ประทับใจผลงานของ คักโป ในตำแหน่งแนวรุกฝั่งซ้ายมากๆ แม้ว่าเขาจะเป็นตัวเลือกอันดับสองรองจาก หลุยส์ ดิอาซ ก็ตาม แต่ทุกครั้งที่ถูกเปลี่ยตัวลงมา สามารถสร้างความแตกต่างทางฝั่งซ้ายได้ตลอด
กระนั้น สตาร์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ สามารถที่จะเล่นในตำแหน่งกองกลางได้ โดยถ้าหากเขาต้องถูกจับลงมายืนในแผงมิดฟิลด์ นั่นหมายความว่า โซโบซไล จะถูกขยับลงไปยืนลึก เพื่อให้ คักโป ได้สร้างสรรค์เกม และรักษาเกมรุกที่อันตรายของทีมเอาไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา คักโป เคยถูก เจอร์เก้น คล็อปป์ ตำนานกุนซือชาวเยอรมัน จับไปเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์มาแล้ว แต่ผลงานไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ ฉะนั้นหาก อาร์เน่อ จะเลือกใช้แท็กติกนี้ ต้องสามารถดึงศักยภาพของเจ้าตัวออกมาให้ได้ ถ้าหากทำได้ถือเป็นการสร้างมิติในเกมรุกที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น
3. เคอร์ติส โจนส์
ต้องบอกว่านี่อาจเป็นทางเลือกท้ายๆ สำหรับโค้ชอาร์เน่อ เพราะ เคอร์ติส โจนส์ ยังไม่ค่อยได้รับความวางไว้ใจในการยืนตำแหน่งกองกลางตัวรับมากนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้
ด้วยเทคนิคของนักเตะถือว่าสามารถลงมายืนทดแทนกรณีที่ กราเฟ่นแบร์ก ไม่สามารถลงสนามได้ โดยหนึ่งในจุดเด่นของ โจนส์ ก็คือความสามารถในการครองบอลเหนียวแน่น และการจ่ายบอลที่ค่อนข้างแม่นยำ
กระนั้นจุดที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงก็คือฟอร์มการเล่นของ โจนส์ ที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ บางเกมผลงานดีใจหาย บางเกมฟอร์มร่วงกราวรูด ด้วยเหตุนี้หาก อาร์เน่อ จะเลือกใช้งานเขา คงต้องติวเข้มเรื่องแท็กติกเป็นพิเศษ
ทอมเม้ง