นับเป็นผลงานเกมบุกที่ยังน่าผิดหวังสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากล่าสุดบุกไปเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 0-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา
เกมดังกล่าวทำให้เท่ากับว่าตอนนี้ แมนยูไนเต็ด ทำประตูในลีกไม่ได้ 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว แถมพวกเขายังเพิ่งยิงในลีกได้แค่ 5 ลูกเท่านั้นด้วยจากการลงเล่นในลีก 7 นัดแรกของซีซั่น
ในหน้าประวัติศาสตร์ของ แมนยูไนเต็ด มันเคยมีเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นที่พวกเขาทำประตูกับการเล่นใน 7 นัดแรกของลีกสูงสุดได้น้อยกว่าซีซั่นปัจจุบัน นั่นคือฤดูกาล 1972-73 โดยตอนนั้นลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ชื่อ ดิวิชั่น 1 อยู่เลย
ย้อนความสักหน่อยว่าซีซั่นนั้น แมนยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยการมี แฟร้งค์ โอฟาร์เรลล์ เป็นผู้จัดการทีม ขณะที่ภายในทีมก็ยังมีทั้ง จอร์จ เบสต์, เดนิส ลอว์ และ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน คอยช่วย แต่นัดแรกของฤดูกาลพวกเขาก็พังไม่เป็นท่าเมื่อแพ้ อิปสวิช ทาวน์ 1-2 คาบ้านของตัวเอง โดยคนที่ทำประตูให้ทีมในวันนั้นคือ ลอว์
เกมถัดมา ทีมของ โอฟาร์เรลล์ ก็ยังไม่ฟื้นเมื่อออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 ขณะที่ในนัดที่ 3 ของฤดูกาลพวกเขาก็กลับจากการเยือน เอฟเวอร์ตัน พร้อมกับการปราชัยด้วยสกอร์ 0-2 เหมือนกัน ส่วนในนัดที่ 4 ของฤดูกาล แมนยูไนเต็ด ได้กลับมาเล่นในบ้านเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ทำได้เพียงเสมอ 1-1 โดยได้ประตูจาก เบสต์
สำหรับเกมลีกนัดที่ 5 ของฤดูกาล แมนยูไนเต็ด ก็ยังได้เล่นในบ้าน แต่ก็ทำได้เพียงเสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 ขณะที่นัดต่อมาพวกเขารับการมาเยือนของ เชลซี แต่ก็ได้เพียง 1 แต้มจากสกอร์ 0-0
พอถึงเกมลีกนัดที่ 7 ของฤดูกาล แมนยูไนเต็ด ต้องไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในช่วงต้นเดือนกันยายน ปี 1972 และพวกเขาก็ได้ผลเสมอ 2-2 กลับบ้าน นั่นเท่ากับว่า 7 นัดแรกของฤดูกาลนั้น แมนยูไนเต็ด ทำประตูในลีกได้แค่ 4 ลูกเท่านั้น
ผลงานดังกล่าวถือว่าน่าตกใจอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า 1 ฤดูกาลก่อนหน้านั้นทีมของ โอฟาร์เรลล์ ยังมีเกมบุกที่โดดเด่นอยู่เลยจากการยิงในลีกไป 69 ลูก แถมซีซั่นนั้นพวกเขายังเป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของลีกอีกต่างหาก พร้อมกับจบด้วยการเป็นอันดับ 8 ของตารางคะแนน
หลังจากทำได้แค่เจ๊ากับ เวสต์แฮม แล้วนั้น ทีมของ โอฟาร์เรลล์ ยังแพ้ โคเวนทรี ซิตี้ 0-1 กับพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 ด้วย โดยที่ โอฟาร์เรลล์ ยังได้อยู่ในตำแหน่งต่ออีกพักใหญ่ก่อนที่จะโดนปลดในวันที่ 19 ธันวาคม ปี 1972 หลังจากทีมแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-5 ส่วนคนที่เข้ามาคุมทีมแทนคือ ทอมมี่ ด็อคเฮอร์ตี้
ท้ายที่สุดแล้วฤดูกาลนั้น แมนยูไนเต็ด จบด้วยการเป็นเพียงอันดับ 18 ของลีก จากการเก็บไป 37 คะแนน มากกว่า คริสตัล พาเลซ ทีมในอันดับ 21 ซึ่งเป็นโซนตกชั้นแค่ 7 แต้มเท่านั้น ส่วนดาวซัลโวสูงสุดของพวกเขากับการเล่นเกมลีกในฤดูกาลนั้นก็คือ ชาร์ลตัน ที่ทำได้เพียง 6 ลูก
หลังจากนี้คงต้องจับตาดูกันว่า แมนยูไนเต็ด จะมีทั้งเกมรุกและผลงานที่ดีขึ้นหรือไม่ และหากทำไม่ได้แล้วนั้น เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมของพวกเขาก็อาจจะต้องเจอโชคชะตาแบบเดียวกับ โอฟาร์เรลล์ ก็ได้
- เด็กเกร็ดบอล -