อันโตนี่ พิเศษสุด! วิเคราะห์นักเตะที่ เอริค เทน ฮาก เสริมทัพ

อันโตนี่ พิเศษสุด! วิเคราะห์นักเตะที่ เอริค เทน ฮาก เสริมทัพ
แมนยู ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากในยุคเอริค เทน ฮาก โดยเฉพาะนักเตะที่เขาดึงตัวมาเสริมแกร่งซึ่งส่วนใหญ่แล้วทำผลงานไม่คุ้มกับเม็ดเงินที่สโมสรลงทุน !!

บอร์ดบริหาร "ผีแดง" ทุ่มเงินให้ เทน ฮาก จับจ่ายใช้สอยเพื่อสร้าง แมนยู ให้กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยตลอดช่วงตลาดพ่อค้าแข้ง 3 ซัมเมอร์ที่ผ่านมา พวกเขาควักกระเป๋าไปกว่า 600 ล้านปอนด์ (ราว 26,400 ล้านบาท) แต่คำถามก็คือเงินจำนวนดังกล่าวได้ตอบแทนกลับมาคุ้มค่าหรือเปล่า ?

 ซีซั่นแรกของ เทน ฮาก สามารถนำ แมนยูไนเต็ด คว้าอันดับ 3 ในลีก แต่พวกเขาร่วงกราวรูดไปอยู่อันดับ 8 ในฤดูกาลที่สอง พร้อมกับเงินลงทุนเกือบ 200 ล้านปอนด์ (ราว 8,800 ล้านาบาท) ในช่วงซัมเมอร์ แต่ทีมแทบไม่มีการพัฒนาอะไรเลย 

 ในฤดูกาลที่สามของ กุนซือชาวดัตช์ สโมสรหล่นไปอยู่อันดับ 13 ในตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มี 7 คะแนนห่างจากโซนตกชั้นแค่ 4 แต้มเท่านั้น แถมในช่วงนี้ทีมต้องเจอกับโปรแกรมค่อนข้างหนัก ซึ่งคงทำให้ เทน ฮาก มีงานสุดหินในการฉุด แมนยู ขึ้นจากหลุมให้ได้

 สำหรับนักเตะราวๆ 21 รายที่ เทน ฮาก ดึงตัวมาเสริมแกร่งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ละคนทำผลงานเป็นยังไง และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หรือเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต แต่กระนั้นมีบางรายเหมือนจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำด้วย

ประสบความสำเร็จ

 เทน ฮาก โดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการเซ็นสัญญานักเตะ แต่อย่างน้อยๆ มีอยู่ 2 รายที่ถือว่าประสบความสำเร็จนั่นก็คือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ อ็องเดร โอนาน่า ที่ถือว่าเข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับ "เร้ด เดวิลส์" อย่างแท้จริง

 มาร์ติเนซ อาจจะเจอช่วงเวลายากลำบากในตอนแรกก็ตาม เพราะ แมนยู แพ้ 2 เกมแรกในยุคที่ เทน ฮาก กุมบังเหียน แต่หลังจากนั้นนักเตะเริ่มปรับตัวกับลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้ และกลายเป็นว่าเขาคือผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ ซึ่งผลงานของ "ผีแดง" ดร็อบทันทีเมื่อไม่มี สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ คุมแนวรับ

 ส่วน โอนาน่า ช่วงแรกก็เจอกับความยากลำบาก แต่หลังจากนั้นก็โชว์ฟอร์มเหนียวหนับมาตลอด แม้อาจจะมีฟอร์มหลุดไปบ้าง แต่ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าถ้าไม่มี โกลชาวแคเมอรูน บอกเลยว่า แมนยู อาจแพ้ยับ ยกตัวอย่างแมตช์แพ้ สเปอร์ส คาบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นต้น 

มีอนาคตแต่ต้องใช้เวลา

 ในกรณีนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ราสมุส ฮอยลุนด์ โดยหัวหอกชาวเดนมาร์กถูกดึงตัวมาร่วมทัพด้วยราคา 64 ล้านปอนด์ (ราว 2,816 ล้านบาท) โดยสาวก "เร้ด อาร์มี่" คาดหวังว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่จะช่วยให้แนวรุกของทีมอันตรายยิ่งขึ้น

 น่าเสียดายที่ ฮอยลุนด์ ต้องเจอกับปัญหาบาดเจ็บเล่นงานในช่วงแรกหลังย้ายมาจาก อตาลันตา ช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ขณะที่ในฤดูกาลนี้นักเตะเจอโรคเดี้ยงตามหลอนจนพลาดลงสนามในช่วงต้นซีซั่น 

 อย่างไรก็ตาม ฮอยลุนด์ เพิ่งอายุ 21 ปี และถือเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูได้เยอะให้กับสโมสรด้วยจำนวน 16 ลูกเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา แม้จะลงเล่นไม่ถึง 3,000 นาทีในทุกรายการ นั่นแสดงให้เห็นว่าหากเขาฟิตสมบูรณ์น่าจะยิงประตูได้มากกว่านี้ 

ซื้อมาเพื่อใช้งานระยะสั้น

 ไม่ใช่ทั้งหมดที่ เทน ฮาก เซ็นสัญญามาเพื่อโปรเจกต์ระยะยาว โดยนักเตะอย่าง จอนนี่ อีแวนส์ และ มาร์เซล ซาบิเซอร์ ซึ่งสามารถปรับตัวกับทีมได้เลยหลังย้ายมาร่วมทีมเพื่อเข้ามาช่วยเสริมกำลังในช่วงที่ทีมมี

ปัญหานักเตะบาดเจ็บเยอะ 

 อีกหนึ่งในที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็คือ คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งย้ายมาเล่นแบบฟรีเอเจนต์ แต่ถึงนักเตะจะทำผลงานได้ค่อนข้างสอบผ่าน กระนั้นเขาก็ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากว่าจะโดนลอยแพหรือไม่ใช่ช่วงซัมเมอร์นี้ แม้สุดท้ายนักเตะจะได้ไปต่อก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงแค่ยางอะไหล่เท่านั้น

 สำหรับนักเตะรายที่ 4 ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรมากนัก นั่นก็คือ กาเซมีโร่ โดยเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นสำหรับการทำงานร่วมกับ เทน ฮาก ในซีซั่นแรก แต่หลังจากนั้นก็โดนดร็อปเพราะฟอร์มหลุด และคาดว่าคงไม่ใช่ตัวหลักของทีมในอนาคต 

อย่าเพิ่งรีบตัดสินเร็วเกินไป

 สำหรับนักเตะที่อยู่ในกลุ่มนี้คงหนีไม่พ้น โจชัว เซิร์กซี เพราะนี่คือกองหน้าที่แฟนบอลคาดหวังเอาไว้สูงมาก เนื่องจากฟอร์มที่สร้างเอาไว้กับ โบโลญญ่า มันช่างโดดเด่นเหลือเกิน แถมเปิดซีซั่นก็ซัดประตูชัยให้กับทีมชนะ ฟูแล่ม ด้วย 

 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาก็ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกเลย แถมฟอร์มการเล่นก็แทบไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับทีม กระนั้นหากมองแบบเป็นกลางนี่เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่เดือน ด้วยเหตุนี้อย่าเพิ่งรีบตัดสินว่า ดาวเตะชาวดัตช์ ล้มเหลว เช่นเดียวกับ เลนี่ โยโร่ กองหลังดาวรุ่ง ที่ยังไม่ได้โชว์ฟอร์มในเกมอย่างเป็นทางการเนื่องจากได้รับบาดเจ็บหนัก

 ในกรณีของ นุสแซร์ มาซราวี ต้องบอกเลยว่าเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ขณะที่ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ ยังไม่อยู่ในฟอร์มเก่งแต่ก็ต้องให้เวลาในการปรับตัว กระนั้นด้วยผลงานแบบนี้ ถ้าหาก โยโร่ หายเจ็บ คงต้องมาลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก 

 ขณะที่รายที่ 5 ในกลุ่มนี้ก็คือ มานูเอล อูการ์เต้ โดยเขาลงตัวจริงแค่เกมเดียวในลีกนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่นักเตะเพิ่งโดน มาร์โก แวน บาสเท่น ตำนานหัวหอกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตราหน้าว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า กระนั้นนั่นอาจเป็นคำพูดที่ตัดสินเขาเร็วเกินไปหน่อย 

น่าผิดหวังเหลือเกิน

 บางครั้งการเซ็นสัญญาที่ไม่ประสบความสำเร็จมันสามารถเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างกรณีของ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ กองหน้าร่างยักษ์ชาวดัตช์ กับ โซฟียาน อัมราบัต กองกลางโมร็อกโก ซึ่งทั้งคู่ถูกยืมตัวมาเล่น และมีลุ้นที่จะได้เซ็นสัญญาถาวร แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ผ่านการทดสอบ

 ส่วนนักเตะรายแรกที่ เทน ฮาก เซ็นสัญญาก็คือ ไทเรลล์ มาลาเซีย ต้องเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน โดยนักเตะได้รับบาดเจ็บจนไม่ได้เล่นกับทีมทั้งซีซั่น 2023/2024 และในซีซั่นนี้สถานการณ์ยังคงเหมือนเดิม โดยไม่รู้ว่านักเตะจะกลับมาช่วยทีมได้เมื่อไหร่

 ผู้เล่นอีกรายที่มักจะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนนั่นก็คือ เมสัน เมาท์ ซึ่งผลงานยังไม่เข้าตานับตั้งแต่ย้ายจาก เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 โดย อดีตดาวเตะ "สิงห์บลูส์" ถูกดึงตัวมาร่วมทัพด้วยราคา 55 ล้านปอนด์ (ราว 2,420 ล้านบาท) แถมมีประสบการณ์ทั้งในลีก และทีมชาติ แต่ก็ไม่ได้ผลิตผลงานได้ดีเด่สมกับได้รับเสื้อหมายเลข 7 เลย 

แทบไม่สร้างประโยชน์

 นายใหญ่หัวใส เคยเซ็นสัญญาระยะสั้นกับนักเตะบางคนมาร่วมทัพ แต่พวกเขาแทบไม่ได้ลงเล่นเลย ทั้ง แจ็ค บัตแลนด์, มาร์ติน ดูบราฟก้า และ เซร์คิโอ เรกีลอน โดยทั้งหมดย้ายมาเล่นแบบยืมตัว แต่แฟนผีโปรเจกต์แทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีพวกเขาอยู่ในทีม

 สำหรับผู้เล่นอีกรายที่อยู่ในกลุ่มนี้และยังคงอยู่ในสโมสรก็คือ อัลตาย บายินดีร์ ซึ่งเป็นนักเตะชาวตุรกีคนแรกที่เซ็นสัญญากับ แมนยู ตอนที่ย้ายมาจาก เฟเนร์บาห์เช่ แต่แทบไม่ได้มีโอกาสลงไปเฝ้าเสาให้กับสโมสรเลย

 บายินดีร์ ได้มีโอกาสเดบิวต์ในแมตช์ปะทะ นิวพอร์ต เคาน์ตี้ เกมเอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และได้เฝ้าเสาตัวจริงในเกม คาราบาว คัพ ฤดูกาลนี้ที่ชนะ บาร์นลี่ย์ กระนั้นหาก โอนาน่า ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบน คงยากที่จะได้เห็นเขาลงสนามมากกว่านี้ 

คนนี้พิเศษสุด

 สำหรับ อันโตนี่ ต้องจับอยู่ในประเภทคนสุดพิเศษ เพราะหากพิจารณาจากเม็ดเงินที่ทีมทุ่มลงไปถึง 86 ล้านปอนด์ (ราว 3,784 ล้านบาท) กับผลงานที่สร้างเอาไว้กับทีม ต้องบอกเลยว่า ดาวเตะชาวบราซิเลียน ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี

 มากกว่า 2 ปีที่เป็นนักเตะ แมนยูไนเต็ด เจ้าตัวซัดไปแค่ 12 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ เฉลี่ยแล้ว อันโตนี่ มีส่วนเกี่ยวข้อง 1 ประตูในทุกๆ 301 นาที หรือ 1 ลูกทุกๆ 393 นาทีถ้าหากนับเฉพาะพรีเมียร์ลีกอย่างเดียวเท่านั้น นี่คือผลงานของผู้เล่นที่แพงเป็นอันดับ 2 ในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร !

  "เดอะ หมุน" ทำผลงานไม่คุ้มกับเม็ดเงินที่ แมนยู ทุ่มลงไปเลย และตอนนี้เขาก็ไม่ใช่นักเตะตัวหลักของสโมสรอีกต่อไปแล้ว แม้เจ้าตัวจะมุ่งมั่นที่จะเรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่ดูยังไงก็ไม่มีวี่แววที่จะได้เห็นสิ่งนั้นเลย

     ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport