เอริค เทน ฮาก จะได้คุมทีม แมนยู ต่ออีกนานแค่ไหน เชื่อเหลือเกินว่าสาวก เร้ด อาร์มี่ กำลังรอคำตอบนี้อย่างใจจดใจจ่อ
เข้าสู่ปีที่สามภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมชาว เนเธอร์แลนด์ แทนที่ ผีแดง จะมีผลงานแข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากนายใหญ่สกินเฮดได้รับการสนับสนุนให้จ่ายตลาดแบบไม่ยั้ง มันกลับกลายเป็นว่าทีมอสูรน่าจะพลาดการคว้าโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่สองติดต่อกัน
ว่ากันตามจริง เทน ฮาก ย้ายมาพา แมนฯ ยูไนเต็ด ตกต่ำอย่างน่าใจหายทั้งผลลัพธ์ที่เลวร้าย ทั้งฟอร์มการเล่นที่ไม่มีรูปทรง อีกทั้งการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ที่ไม่ตอบโจทย์
และหากใครที่คิดว่าเขาสมควรได้รับโอกาสให้ทำงานต่อ นี่คือ 10 เกมอัปยศที่อดีตโค้ชทีม อาแจ็กซ์ สร้างความอับอายขายหน้าให้กับสาวก ผีแดง
10. โคเปนเฮเก้น 4-แมนฯ ยูไนเต็ด 3 (8 พ.ย.2023)
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่น 2023/24 แต่ เทน ฮาก คุมทีมตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะทีมบ๊วยทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายที่แข็งแต่อย่างใด
ยกเว้น บาเยิร์น มิวนิค แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ไม่ยาก แต่รวมหกเกมกุนซือดัตช์พาทีมกำชัยได้แค่เกมเดียว และแพ้ถึงสี่เกม
หลังออกสตาร์ตแพ้สองเกมแรกให้กับ เสือใต้ ที่เมืองเบียร์ 4-3 และแพ้ กาลาตาซาราย คารัง 3-2 แมนฯ ยูไนเต็ด แก้ตัวในเกมต่อมาได้ด้วยการเฉือนชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 ที่ โรงละครแห่งความฝัน
กระนั้นก็ดี เกมต่อมาที่เมืองโคนม แมนฯ ยูไนเต็ด เสียท่าเป็นเกมที่สาม และทำได้แค่บุกไปเสมอ กาลาตาซาราย 3-3 ในเกมต่อมาก่อนโดน บาเยิร์น บุกมาสยบ 1-0 ในนัดสุดท้าย
9. เซบีย่า 3- แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (20 เม.ย.2023)
ในซีซั่นแรกของ เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด กุนซือดัตช์คุมทีมลงเล่นถ้วย ยูโรปาลีก ในฐานะทีมอันดับ 6 ของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน
เท่าที่เป็นไป อดีตนายใหญ่ อาแจ็กซ์ มีผลงานที่น่าประทับใจในเกมรอบแบ่งกลุ่มซึ่งเขาคุมทีมแพ้แค่เกมเดียว และได้เข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะทีมอันดับสองโดยมีแต้มเท่ากับ เรอัล โซเซียดาด แต่มีผลต่างประตูได้เสียด้อยกว่าหนึ่งลูก
สำหรับเกมในรอบน็อกเอาต์ เร้ด เดวิลส์ เปิดตัวอย่างเลิศหรูด้วยการเขี่ย บาร์เซโลน่า ตกรอบด้วยสกอร์รวม 4-3 ก่อนยำใหญ่ เรอัล เบติส 5-1 จากสองเกมของรอบ 16 ทีม แต่มาจอดป้ายในรอบแปดทีมให้กับ เซบีย่า
อันที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเข้ารอบไม่ด้อยไปกว่าทีมจากแดนกระทิงดุหลังจากทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่เกมนัดสอง ผีแดง ออกไปแพ้แบบหมดรูป 3-0
8. แมนฯ ซิตี้ 6- แมนฯ ยูไนเต็ด 3 (2ต.ค.2022)
คงจำกันได้ว่า เทน ฮาก เปิดตัวใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเลวร้ายโดย ปีศาจแดง แพ้รวดทั้งสองนัดแรกให้กับ ไบรท์ตัน 2-1 คารัง และออกไปโดน เบรนท์ฟอร์ด ยำใหญ่ 4-0
อย่างไรก็ดี นายใหญ่ชาวเมืองทิวลิปกู้ชื่อได้เยี่ยมด้วยการพาทีมชนะรวดในลีกสี่เกมต่อมาโดยเฉพาะการเปิดบ้านสยบ ลิเวอร์พูล 2-1 และถล่ม อาร์เซน่อล 3-1 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
จากผลงานที่ยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้แฟนบอล ผีแดง ตั้งความหวังว่าทีมรักจะเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ อริร่วมเมืองได้ซะที แต่เอาเข้าจริง เทน ฮาก พาทีมออกไปโดน เรือใบสีฟ้า ยำใหญ่ 6-3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังไม่ดีพอที่จะกระชากคู่ปรับร่วมเมืองให้หล่นจากบัลลังก์
7. แมนฯ ยูไนเต็ด 1- ฟูแล่ม 2 (24 ก.พ.2024)
อย่าว่าแต่ทีมในระดับท็อปเลย แม้แต่ทีมที่เล็กกว่า เทน ฮาก ก็พาทีมประสบกับความปราชัยบ่อยครั้ง
ในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน เทน ฮาก คุมทีมได้อย่างเลวร้ายโดย ผีแดง พ่ายเกมลีกมากถึง 5 นัดจาก 10 นัดแรกซึ่งตามทฤษฏีแล้วพวกเขาไม่มีทางคว้าแชมป์ได้ แถมการคว้าอันดับท็อปโฟร์ก็น่าจะจบเห่ตั้งแต่ต้น
เท่านั้นไม่พอ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีผลงานลุ่มๆดอนๆนับจากนั้นจวบจนเดือนก.พ.สถานการณ์ของทีมเริ่มส่อเค้าไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากการชนะสี่นัดติดต่อกัน
แต่แล้วช่วงคาบเกี่ยวปลายเดือนก.พ.และต้นเดือนมี.ค.ปีศาจแดง ออกทะเลอีกจนได้เมื่อแพ้สองเกมซ้อนให้กับ ฟูแล่ม 2-1 คารังก่อนออกไปโดน แมนฯ ซิตี้ สอนบอลอีกหน 3-1 ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาจบอันดับแปดซึ่งเป็นอันดับที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
6 .เบรนท์ฟอร์ด 4-0 แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (13 ส.ค.2022)
ย้อนกลับไปในต้นซีซั่นแรกของ เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกหน และปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมออกไปแพ้ เดอะ บีส์ ย่อยยับตั้งแต่ครึ่งแรก 4-0 หลังเสียท่าให้กับ ไบรท์ตัน 2-1 ในนัดเปิดซีซั่นส่งผลให้สาวก ปีศาจแดง ตั้งคำถามถึงฝีไม้ลายมือของกุนซือคนใหม่ตั้งแต่ไก่โห่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังแพ้ทีมของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตกเป็นทีมบ๊วยของตารางหลังปราชัยสองเกมแรกของซีซั่น
แต่อย่างที่บอก เทน ฮาก พลิกสถานการณ์ได้อย่างน่ายกนิ้วให้กับการพาทีมกำชัยสี่เกมรวด และทะยานสู่อันดับห้าของตารางก่อนบุกไปโดน แมนฯ ซิตี้ ขยี้ 6-3
5. แมนฯ ยูไนเต็ด 3-โคเวนทรี 3 ,ชนะการดวลลูกโทษ 4-2(21 เม.ย.2024)
ก่อนจะได้แชมป์ เอฟเอคัพ ซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบขายหน้าครั้งใหญ่เมื่อได้บู๊กับทีมรองบ่อนในนัดตัดเชือกที่ เวมบลีย์
ผีแดง ส่อแววได้เข้าชิงชนะเลิศไม่ยากเนื่องจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ,แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คลำเป้าให้ทีมนำห่าง 3-0 ในช่วงหนึ่งชั่วโมง แต่เป็นเหมือนหลายๆเกมที่พวกเขามักคุมสถานการณ์ได้ไม่ดีพอ และขยันก่อความผิดพลาดจนโดน ช้างกระทืบโรง ตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 90+5
หลังต่อเวลาพิเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด เร่งฟอร์มไม่ขึ้น และต้องอาศัยการดวลลูกโทษเข้าไปชิงดำกับ แมนฯ ซิตี้ จนเป็นเหตุผลที่ทำให้ เทน ฮาก ได้ทำงานต่อในซีซั่นนี้ทั้งๆที่หากกระเด็นตกรอบด้วยการพ่ายทีมสมันน้อย แมวเก้าชีวิตจากเมืองกังหันลมก็ไม่น่าจะได้อยู่ใน เธียเตอร์ ออฟ ดรีม อีกต่อไป
4. แมนฯ ยูไนเต็ด 0- บอร์นมัธ 3 (9 ธ.ค.2023)
การพ่ายทีมรองบ่อนคาบ้านไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอีกต่อไปสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ เทน ฮาก
อย่างซีซั่นก่อน กุนซือดัตช์โดน บอร์มัธ บุกมาสร้างความขายหน้าด้วยสกอร์มโหฬาร 3-0 จนทำให้แฟนบอลส่งเสียงโห่ใส่ทีมตัวเองอีกตามเคยหลังจบเกม
อย่างไรก็ดี นัดต่อมา เทน ฮาก สร้างความฮือฮาพาทีมออกไปแบ่งแต้มจาก ลิเวอร์พูล ได้ด้วยผลเสมอ 0-0 แต่จากนั้นทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะปกติเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปแพ้ เวสต์แฮม 2-0
3. แมนฯ ยูไนเต็ด 0- สเปอร์ส 3 (29 ก.ย.2024)
สดๆร้อนๆเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลให้ เทน ฮาก กระโดดขึ้นเป็นเต็งจ๋าที่จะโดนปลดอีกรอบเนื่องจากเขาพาทีมชนะไม่ได้สามเกมติดต่อกันในทุกรายการ
อันที่จริง ปีศาจแดง ได้รับข่าวดีไม่น้อยเนื่องจาก ซน ฮึง มิน กองหน้ากัปตันทีม ไก่เดือยทอง บาดเจ็บไม่อาจลงเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้
อย่างไรก็ดี แค่สามนาทีแรกตาข่ายของ ผีแดง ก็ขาดผึงอย่างไวในจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บุกตะลุยขึ้นหน้า แต่เสียการครองบอลจนโดนโต้กระทั่ง สเปอร์ส ออกนำ 1-0
และจากนั้นเกมก็ตกเป็นของทีมเยือนข้างเดียวชนิดที่ต้องบอกว่า ผีแดง รอดตายเหลือเชื่อตลอดครึ่งแรก แต่แล้วครึ่งหลังทีมจากลอนดอนกระซวกได้อีกสองตุง แถมว่ากันว่าพวกเขาน่าจะชนะสักหกเม็ดด้วยหากมีดาวยิงทีมชาติ เกาหลีใต้ ลงเล่นได้
กระทั่งล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับข่าวดีที่พอจะโล่งใจได้เนื่องจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส อุทธรณ์โทษแบนสามนัดจากการได้ใบแดงเป็นผลสำเร็จเนื่องจากเขาไม่ได้เข้าปะทะหนักใส่ เจมส์ แมดดิสัน
2. คริสตัล พาเลซ 4- แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (6 พ.ค.2024)
ก่อนออกไปเยือน อินทรีผงาดฟ้า ในโค้งสุดท้ายของซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ดชนะแค่ 2 นัดจาก 9 นัดในเกมลีกก่อนหน้านั้น
หลังทำได้แค่เฝ้าบ้านเสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1 เทน ฮาก สร้างความหงุดหงิดให้แฟน ผีแดง เพิ่มเติมในเกมที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ก่อนโดน อาร์เซน่อล บุกมาสยบ 1-0 ในเกมต่อมา
แม้สองนัดสุดท้าย เทน ฮาก จะคุมทีมเก็บได้หกแต้มเต็มนัดเฝ้าบ้านชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2 และออกไปทุบ ไบรท์ตัน 2-0 แต่ทุกอย่างสายเกินไปแล้วซึ่งทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อันดับ 8 จากสถิติแพ้เกมลีกมากถึง 14 นัด
1. ลิเวอร์พูล 7- แมนฯ ยูไนเต็ด 0 (5 พ.ค.2023)
แม้ซีซั่น 2022/23 เทน ฮาก จะพาทีมจบอันดับ 3 และได้แชมป์ คาราบาวคัพ แต่กุนซือดัตช์ไม่วายสร้างผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างแรงในเกมแดงเดือดที่ แอนฟิลด์
สกอร์ 7-0 สะท้อนให้เห็นว่า ผีแดง ยังตามหลัง หงส์แดง หลายก้าว และมันเป็นผลลัพธ์ที่ทำให้สาวก เร้ด อาร์มี่ ถูกเหล่า เดอะ ค็อป ล้อเลียนได้ตลอดชั่วชีวิต
จากฟอร์มที่สู้กันไม่ได้ทำให้นักวิจารณ์อย่าง แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลัง ผีแดง ระบุว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมอสูรอยากขอเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากมันเป็นสกอร์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ย่อยยับที่สุดนับตั้งแต่ปี 1931 และมันเทียบเท่าผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดตลอดกาลของสโมสร
หลังโดน หงส์แดง ยำใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมึนไม่หาย และเป๋ต่ออีกสองเกมทั้งเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 ในบ้านก่อนออกไปโดน นิวคาสเซิ่ล อัด 2-0
กระนั้นก็ดี ในซีซั่น 2021/22 ก่อนที่ เทน ฮาก จะเดินเข้าสู่ โรงละครแห่งความฝัน แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานอัปยศในเกมแดงเดือดเช่นกันเนื่องจากพวกเขาแพ้เกมลีกสองนัดด้วยสกอร์รวม 9-0 โดยนัดแรก หงส์แดง บุกมาคว้าชัย 5-0 ก่อนย้ำแค้นอีกเกมที่ แอนฟิลด์ ในช่วงท้ายซีซั่น 4-0