เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...
1. นักสถิติลูกหนัง Statman Dave รายงานว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 3 นัดแรก โดยสร้างโอกาสทองในการทำประตูไปแล้ว 3 ครั้ง ค่า xAG p90 (ความหวังได้ประตูต่อเกม) คือ 0.56 ซึ่งมากกว่า โม ซาล่าห์ (0.48), เควิน เดอ บรอยน์ (0.40) และบูกาโย่ ซาก้า (0.36) เสียอีก !!!
ก่อนคุณพี่เขาจะแสดงความเห็นว่า...
"เพราะโชคร้ายเลยยังทำแอสซิสต์ไม่ได้สักครั้ง"
2. ทีนี้มาดูโอกาสทองทั้ง 3 ครั้งที่ 'แรช' สร้างอย่างละเอียด
ครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมเปิดซีซั่นกับ ฟูแล่ม เขาบรรจงจ่ายถวายพานให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ทั้งที่จะยิงเองก็ได้ แต่ไอ้หนูการ์นาโช่ พลาดแบบไม่น่าเชื่อ
ต่อเมื่อดูภาพช้าอย่างตั้งใจ คุณจะพบว่า ดร.มาร์คัส จ่ายบอลย้อนหลัง ทำให้บอลติดขามากไปจนสับไกยิงไม่ถนัด
อีก 2 จังหวะเปิดป้อนต่อมาเกิดขึ้นในศึกแดงเดือดที่เขาวางบอลให้ โจชัว เซิร์คซี่ ยิงและโหม่งอย่างละครั้ง ทว่า "อาจารย์ดู๋" กลับทำหมูหกทั้ง 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม
ทั้ง 2 จังหวะนั้น เกิดขึ้นหลังหงส์แดงทิ้งห่างแบบขาดลอยพลางถอนตีนจากคันเร่งแล้ว
3. สถิติและตัวเลขไม่เคยโกหกใคร อันนี้เข้าใจ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ
บางครั้งมันก็หลอกลวงเราเช่นกัน
เหมือนกับที่ เควิน เดอ บรอยน์ เคยพูดเอาไว้นั่นแหละครับว่า...สถิติการผ่านบอลสำเร็จ หรือ 'pass accuracy' มันเอามาวัดความแม่นยำอะไรไม่ได้หรอก เพราะหลายต่อหลายจังหวะเป็นการผ่านบอลใกล้ๆ ผ่านออกด้านข้าง และผ่านคืนหลัง
ย้อนกลับไปในเกมแดงเดือด แมนยู ครองบอลมากกว่า ลิเวอร์พูล นะครับ คือ 52.8%
แต่สิ่งที่เราเห็นด้วยตาเปล่าคือพลพรรคปีศาจแดงไม่ได้ครองบอลบุกขย่มสักหน่อย ไอ้เปอร์เซ็นต์การครองบอลที่สูงกว่า มันมาจากการถ่ายบอลไป ถ่ายบอลอยู่ในแดนตัวเอง แถมมาเพิ่มสูงขึ้น ตอนที่ ลิเวอร์พูล นำห่าง แล้วถอยลงไปตั้งรับ 5555
เห็นไหมครับว่า 'สถิติ' กับ 'ตัวเลข' มันไม่ได้สะท้อนความจริงเสมอไป
4. กรีดตูดสาบานว่าผมไม่ได้มีอคติกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และวิพากษ์วิจารณ์ไปตามสิ่งที่เห็น แถมเห็นอย่างตั้งใจ ไม่ได้เห็นแบบผ่านๆ
ช่วง 'พรี-ซีซั่น' ดาวเตะวัย 26 ผู้นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น และเมื่อเปิดฤดูกาล ผมก็เห็นว่าเขาพยายามช่วยไล่บอล และลงมาช่วยเกมรับมากขึ้นจริง
เพียงแต่ฟอร์มการเล่นโดยรวมยังไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่
ปัญหาสำคัญยังอยู่ที่การตัดสินใจ
จังหวะที่ไหลให้ การ์นาโช่ แล้วย้อนหลังนิดๆ น่ะ ผมมองว่าเขาควรจะยิงเองมากกว่า เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่สามารถยิงเองได้เลย ไม่จำเป็นต้องจ่ายแล้ว
หรือในเกมแดงเดือดที่มีจังหวะเผชิญหน้ากับคู่แข่งแบบ 1 ต่อ 1 แทนที่จะกระชากหนี เขาดันม้วนกลับมาแล้วจ่ายคืนหลัง
ที่ตลกคือจังหวะ 1 ต่อ 2 ดันชอบมุด...ซะอย่างนั้น
5. ฟุตบอลบางทีมันก็บ้าๆ บอๆ แบบนี้นะครับ
บ่อยครั้งที่มันไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
ซีซั่นที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมผีเข้าผีออกจนแฟนบอลละเหี่ยใจ และจบด้วยการได้อันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ลีก แต่สุดท้ายดันคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ช่วยต่ออายุงานให้ เอริค เทน ฮาก
สิ่งที่เห็นจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก 3 นัดแรก หากว่ากันตรงๆ คือน่าผิดหวัง
ย้ำครับว่าน่าผิดหวัง แต่เขาดันมีค่า xAG ต่อเกมสูงกว่า โม ซาล่าห์ กับ เควิน เดอ บรอยน์
สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนั่นแหละครับ
ว่าจะเชื่อสายตาตัวเอง หรือเชื่อสถิติ ???