ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับพวกพรี่ๆ อย่างจริงใจด้วยนะครับที่ ลิเวอร์พูล บุกมาเหยียบจมูก แมนยู ถึงถิ่นในศึกแดงเดือดพลางควักชัยชนะกลับออกไปด้วยสกอร์ที่ขาดลอยมโหฬาร 3-0
และต่อไปคือสิ่งที่เด็กผีอย่างผมอยากจะบอกมาก
1.ยอมรับครับว่าปีศาจแดงแพ้แบบ "สู้ไม่ได้"ย้ำอีกครั้งว่าสู้ไม่ได้เลยทุกเหลี่ยมมุม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการเล่น มาตรฐานการเล่น การวางกลยุทธ์ คุณภาพของผู้เล่น และผู้จัดการทีม รวมถึงความหื่นกระหายในชัยชนะ
ก่อนเกมทำใจล่วงหน้าแล้วว่าคงเป็นเกมที่เจ้าถิ่นชนะยาก แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นบอลคนละระดับขนาดนี้
แถวพระโขนงบ้านผมเรียก...เอาต์คลาสส์
2.นอกจากจะสู้ไม่ได้ แมนยู ยังอุดมด้วยความผิดพลาดแบบเดิมๆ ไม่รู้จักจำใส่กะโหลก
ก่อนโดนดอกแรก มันมีสัญญาณเตือนภัยแล้วนะครับว่าการเซ็ตเกมจากในแดนตัวเอง โดยให้มิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง กาเซมิโร่ เป็นตัวขึ้นเกมมันมีปัญหา
ดาวเตะสายพันธุ์แซมบ้ามีความเชื่องช้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อถูกผู้เล่นหงส์แดงรุมบีบและบดบี้พลางกดดันเข้าใส่ก็จะจ่ายบอลเสียง่ายๆ
แต่พลพรรคปีศาจแดงก็ยังจะตะบี้ตะบันยัดบอลเข้าไปตรงกลาง เช่นเดียวกับพยายามจะต่อบอลทำชิ่งเพื่อแก้เพรสส์ ทั้งที่คุณภาพการรับส่งบอลของตัวเองมันเข้าขั้นบัดซบ
แล้วก็พลาดจนได้ แถมพลาดแล้วก็ยังพลาดอีก และพลาดต่อ
3. กระนั้นจะไปโยนคามผิดให้ กาเซมิโร่ ว่าเป็นต้นเหตุแห่งการเสียประตูคนเดียวไม่ได้
เจอคู่แข่งที่น่าขามเกรงอย่าง ลิเวอร์พูล แทนที่จะให้ ค๊อบบี้ เมนู ถอยต่ำลงมายืนในระนาบเดียวกัน เพื่อคอยช่วยเหลือกัน ผู้เป็นกุนซือดันให้ 'ไอ้หนู' ขยับขึ้นสูงซะอย่างนั้น
เวลาโดนบีบ กาเซมิโร่ แทบไม่มีตัวเลือกในการจ่ายบอลให้ง่ายๆ
ประตูแรกที่เสียคือตัวอย่างชัดเจน เมื่อเขาพยายามรีบจ่ายบอลเร็วจังหวะเดียวให้ ค๊อบบี้ เมนู (ก่อนที่จะถูกคู่แข่งพุ่งเข้าหา) ขณะเดียวกับที่ ค๊อบบี้ เมนู ไม่อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะเล่น
4. ลิเวอร์พูล ยืนปิดพื้นที่ตรงกลางได้หนาแน่นจน แมนฯ ยูไนเต็ด พาบอลขึ้นไปข้างหน้าไม่ได้
ขณะที่พวกพรี่ๆ เขาจะจ้องหาจังหวะตัดบอลแล้วจู่โจมอย่างสายฟ้าฟาดทันทีอยู่แล้ว
มิเพียงเท่านั้น
เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ยังทรงประสิทธิภาพ คือทั้งรวดเร็ว แม่นยำ และเด็ดขาด
เมื่อมีโอกาสมักไม่พลาด
ในทางตรงกันข้าม
เกมรุกของ แมนยู ทำไมมันช่างต้วมเตี้ยมดีนักแล แถมจ่ายบอลเสียง่ายๆ และดื้อๆ โดยไม่จำเป็นต้องถูกบีบกดดันด้วยซ้ำ
ขอโทษนะครับ
นักเตะหงส์แดงแค่ยืนดูกันเฉยๆ เดี๋ยวทีมเจ้าบ้านก็จ่ายบอลเสียเอง เห็นแล้วน่าอนาถยิ่งนัก
5.ความปราชัยแบบพินาศสิ้นในการศึกครั้งนี้น่าจะช่วยให้กองเชียร์ของ เอริค เทน ฮาก ตาสว่างกันได้แล้วนะครับ
ทั้งการจัดตัวผู้เล่น การกำหนดรูปแบบการเล่น การวางแผน การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และโดยไม่เว้นแม้แต่การให้สัมภาษณ์ทั้งก่อน และหลังเกม มันไม่มีอะไรน่าชื่นใจเลยสักอย่างเดียว
แล้วมันตลกตรงที่คุณพี่เขาให้ลูกทีมเล่นแบบระมัดระวัง แต่ในการเล่นแบบกล้าๆ กลัวๆ นั้นกลับอัดแน่นด้วยความไม่ระมัดระวังอย่างจงหนัก
สุดท้ายก็เสียหลักพุ่งชนความบรรลัยให้แฟนบอลตัวเองต้องมาถูกหยามหยันอย่างน่าอับอายขายขี้หน้า
ถามจริงๆ มึงไม่สงสารพวกผมบ้างเลยเหรอครับ ???