คุณวินัย แห่ง เชลซี ผู้ไม่รู้เรื่องบอลแต่ทำงานใหญ่กับทีมระดับโลก

คุณวินัย แห่ง เชลซี ผู้ไม่รู้เรื่องบอลแต่ทำงานใหญ่กับทีมระดับโลก
สถานการณ์ เชลซี กำลังเป็นที่จับตามองการแก้ปัญหาจากการที่มีนักเตะล้นทีมถึง 42 คน ลงทะเบียนได้ 25 (17+8) ส่งชื่อแข่งแมตช์เดย์ 20

เสี่ยท็อด โบห์ลี จะจัดการอย่างไรกับทีมก่อนตลาดปิด 30 ส.ค. ขณะที่ เอ็นโซ มาเรสก้า ประกาศลั่นยังไงก็จะทำงานกับนักเตะแค่ 21 คน นอกนั้นก็แล้วแต่ ใครไม่อยู่ในแผนงานก็แจ้งไว้แล้ว

รอเวลาย้ายออกหรือปล่อยยืม

ล่าสุด ลูกากู ก็ไป นาโปลี ที่มีลูกพี่เก่า อันโตนิโอ คอนเต้ ดูแล ย้ายแบบขายขาดไปเลย ไม่ต้องมายึกยักปล่อยยืม ราคา  £30 ล้าน น่าจะคุยกันได้สำหรับ ลกก ส่วนราฮีม สเตอรลิง นั้นอยู่ที่เงื่อนไขค่าจ้างนั่นแหละพี่แกรับสัปดาห์ละ £325,000 นับว่าเยอะอยู่ ส่วนค่าตัวเชื่อว่า แอสตัน วิลล่า กับ เชลซี เปิดดีล ซื้อขายกันพักหลังน่าจะโอเค คุยกันรู้เรื่อง

เรื่องของเชลซี เป็นที่สนใจนับจากเสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิช โดนยึดทรัพย์ จากกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน อันเป็นมาตรการของฟากยุโรปที่ดัดหลัง วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่ง โนแคร์ อยู่แล้ว บรรดาพลเมืองนักธุรกิจ ก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย กรณี เสี่ยหมี คงหนักหน่อยเพราะเป็นกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรมหาเศรษฐี ที่สนับสนุน ปูติน 

หมดยุค เสี่ยหมี เป็น เสี่ยท็อดด์ ที่เข้ามาบริหารงานสองปีเต็มๆ ปรากฏว่า เชลซี ร่วงจากกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ และท็อปโฟร์ ลงไปกลางตาราง แถมมีการเปลี่ยนโค้ช ซื้อนักเตะราวกับเป็นทีมแฟนตาซี ฟุตบอล

เปิดทางเลือกทำธุรกิจฟุตบอลแบบใหม่ ผ่อนยาว ดาวน์ไม่ต้อง 

เราสงสัยกันว่าเชลซีจะไปยังไงต่อ หากฟุตบอลลุ่มๆดอนๆ ลองนึกภาพว่าออกตัว 5 นัดแล้ว ชนะบ้าง แพ้บ้าง หาฟอร์มเด่นไม่เจอ

เรื่องของเชลซี ไม่ใช่แค่ปัจจุบัน ในอดีตยังมีการไปขุดคุ้ยรายงานพิเศษตีแผ่ให้คนรู้กันทั่วโลก อย่างล่าสุดสำนักข่าวบีบีซี ไปสัมภาษณ์อดีตสต๊าฟโค้ชเชลซี ที่เป็นชาวอินเดีย ในตำแหน่ง  wellness coach

เวลเนส โค้ช คืออะไร ผมเชื่อว่าสายรักสุขภาพย่อมรู้ดีว่านี่คืออีกศาสตร์แขนงหนึ่งในการดำเนินชีวิตอย่างอยู่ดีมีแฮง ร่างกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี สติปัญญาแจ่มใส มองแง่บวก ลดความลบออกจากชีวิต มันรวมๆกันเป็น wellness

ใช้ภาษาวิชาการมันคือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งร่างกาย, จิตใจ, อารมณ์,สังคม ผลคือสุขภาพดี ลดโรคภัยเบียดเบียน

แล้วทำไมเชลซียุคเสี่ยหมี มีโค้ชตำแหน่งนี้

ตามผมมาครับ....

บีบีซี ทำรายงาน ผมอ่านแล้วสังเคราะห์มาฝากพอเข้าใจ

wellness coach ของเชลซี คนนี้มีชื่อว่า วินัย เมนอน

วินัย เหมือนชื่อไทยนี่แหละเพราะเราไปยืมบาลี-สันกฤต ของอินเดียมาใช้ ชื่อหลายๆชื่อของเราจึงเหมือนอินเดีย เช่น วินัย, วิชัย, อโศก, อนันดา.......อีกมากมาย 

อดิสรณ์ นี้ก็ใช่ คนไทยผสมผสานได้ดีจาก อดิศร 

อดิสรณ์ ผู้เป็นที่พึ่งทีดียิ่ง อดิ มาจากอติ คือยิ่งใหญ่ สรณ์ ก็ สรณะ ที่พึ่ง 

อันนี้แม่ผมบอกมาสมัยตอนเด็กๆ 

กลับมาที่วินัย เมนอน ก่อนครับ เดี๋ยวจะไปไกล

วินัยคือคนอินเดียที่ทำงานให้เสี่ยหมี ตลอด 13 ปี จนเสี่ยหมีโดนยึดทรัพย์ขับออกจากประเทศอังกฤษไปเมื่อปี2022

ไปไงมาไง??

วินัย คือโค้ชโยคะ และ โค้ชสุขภาพที่มีชื่อเสียงในหมู่ เซเลบและนักธุรกิจมาก่อนรู้จักเสี่ยหมี เขาสืบทอดเรื่องโยคี ลัทธิความเชื่อจากบรรพบุรุษ ก่อนเป็นโค้ชโยคะที่มีชื่อในเวลาต่อมา

วินัย ไม่ได้สอนการเล่นโยคะ อย่างเดียว แต่เหมือนโค้ชจิตวิทยาที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย เท่ากับเขาคือโค้ชร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกัน

วินัย ถูกนักธุรกิจและเซเลบ จ้างไปดูแลสุขภาพถึง ดูไบ โดยกลุ่มนั้นมีพ่อของเสี่ยหมี, ภรรยาดาสชา ก็จ้างเป็นคอร์สๆ เพื่อไปดูแล

จากนั้นเสี่ยหมี จึงลองดูบ้าง ปรากฏว่าคุยกันรู้เรื่อง ถูกคอ เสี่ยเลยจ้างเป็นทีมงานสต๊าฟโค้ชตั้งแต่ปี2009เป็นต้นมาจนเสี่ยโดนยึดทรัพย์นั่นแหละ 

หน้าที่ของ วินัย คือให้คำปรึกษานักเตะและจัดโปรแกรมโยคะ ถ้านักเตะต้องการ เขาจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับทีมเลย โดยตำแหน่งงานของเขาจะอยู่กับทีมแพทย์, กายภาพ ของเชลซี ในชื่อ wellness coach  ก็โค้ชสุขภาพนั่นเอง

เขาบอกว่า "ผมคือคนอินเดียที่ไม่รู้เรื่องบอลเลย แถมยังได้ทำงานใหญ่ทีมระดับโลก"

อีกทั้งปี 2009 เชลซี คือยิ่งใหญ่แล้ว แชมป์พรีเมียร์ลีก, ลุ้นแชมป์, ลุ้นเจ้ายุโรป ได้แล้ว เขาจะมาช่วยอะไรได้ แต่เสี่ยหมีก็จ้างเขามาทำงาน

จะว่าไป....ผมมองว่า คุณวินัย เหมือน "สาย" เสี่ยหมีมากกว่า เพราะแกต้องไปสนามซ้อมและสนามแข่ง ไปกับทีมตลอดเวลา แน่นอน ในสนามซ้อม แกเห็นบรรยากาศการซ้อม , สนามแข่งก็เห็นทุกอย่าง โดยเฉพาะข้างสนาม เพราะแกนั่งกับทีมตลอดเวลา

มีอะไรไม่ชอบมาพากล..... ใครไม่กินเส้น ขบเหลี่ยม เรื่องภายใน สังเกตได้ 

แกรายงานนายทันที

อันนี้ผมเข้าใจเองนะครับ...แต่เชื่อว่าหลายท่านน่าจะคิดเหมือนผม 

ส่วนงานโค้ชสุขภาพของแกนั้น เสี่ยหมี ไม่ได้บังคับนักเตะ แต่ถ้าใครอยากมาให้แกติวเรื่องสุขภาพ หา session มาเจอคุณวินัยโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอะไร เพราะคุณวินัย รับตังค์จาก เสี่ยหมีอยู่แล้ว

นักเตะ, สตาฟโค้ช อยากเรียน โยคะ คุยเรื่องชีวิต สุขภาพ มาหาคุณวินัยได้เลย 

แรกๆ ก็ยากละครับ คุณวินัยบอกว่า "มันคือเรื่องที่แตกต่างจากที่พวกเขาเจอมา มันจึงยากในตอนแรก" แต่สักพักมันต้องมีตัวเปิด จากนั้นจึงมีตัวตาม

คนแรกคือใครทราบมั้ยครับ???

ดิดีเยร์ ดร็อกบา.... 

คุณวินัย บอกว่า ดร็อกบา เข้ามาหาเขาคนแรกพร้อมทั้งบอกว่า "คุณจะช่วยอะไรผมได้บ้าง"

สิ่งที่คุณวินัยทำคือ จัดโปรแกรม "โยคะ" ให้เหมาะสมกับ ดร็อกบา แล้วพูดคุย เพื่อขจัดแง่ลบออกจากจิตใจ เติมแง่บวกเข้าไปตามความเหมาะสม จากนั้นคนอื่นๆก็ตาม ดร็อกบา มา ตั้งแต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, จอห์น เทอร์รี ทยอยกันใช้บริการ รวมทั้งสต๊าฟโค้ช

เขาทำงานกับทีม13 ปี ผ่านโค้ชมากมายในทีม อันเชลอตติ,เบนิเตซ, คอนเต้, จนถึง ทูเคิล คนสุดท้ายก่อนทีมเปลี่ยนเจ้าของ

เรียกว่าจนรู้ว่าฟุตบอลเล่นกันยังไง 

มีเรื่องที่น่าสนใจที่บีบีซี ถามเขาคือฟุตบอลในอินเดีย

เขาพูดถึงเรื่องฟุตบอลในอินเดียว่า "อินเดียมีประชากร 1,400 ล้านคน ฟุตบอลไม่เป็นที่นิยมเท่ากับคริกเกต แต่ฟุตบอลโลก2022 คนอินเดีย เชียร์ โรนัลโด้ กับ เมสซี"

ผมขอขยายความต่อครับ

ฟุตบอลอินเดีย พรีเมียร์ลีก ก็มีแค่ไม่กี่ทีม ที่โด่งดังอยู่แถบฝั่งตะวันออกของประเทศ ละแวกแคว้นเบงกอล ทีม โมฮุน บากัน ที่เมื่อก่อนตั๋วยืนแฟนบอลระดับ 100,000 คนเข้าไปเต็มสนาม ตอนนี้เหลือ 85,000 ชื่อทีมปรับเป็น โมฮุน บากัน ซุปเปอร์ ไจแอนต์ 

ดาร์บี้แมตช์อินเดียคือ โมฮุน บากัน ปะทะ อีสต์ เบงกอล ที่แฟนบอลระดับ 100,000 เข้าสนาม ก็สองทีมในเมืองใหญ่ กัลกัตตา แคว้น เบงกอล ฝั่งตะวันตก แม้คนอินเดียเรียก ดาร์บี แมตช์ แห่ง กัลกัตตา แต่เอาเข้าจริง ก็ระดับประเทศนั่นแหละ

แม้อินเดียไม่ใช่ประเทศบ้าบอลเหมือนแถวอาเซียน แต่เมื่อใดก็ตามที่สองทีมนี้เผชิญหน้ากันแฟนบอลระดับ 100,000 เข้าเต็มสนาม แม้ปัจจุบัน ฟีฟา มีมาตรการความปลอดภัย บวกกับใส่เก้าอี้ลงไป ความจุลดเหลือ 85,000  ทั้งสองสนาม แต่เจอกันเมื่อไหร่ก็ดุเดือดไม่แพ้ โบคา จูเนียร์ส ปะทะ ริเวอร์เพลท, ดิ โอลด์ เฟิร์ม...ความมันเขาบอกว่าเหนือกว่า "แดงเดือด" ด้วยซ้ำ แค่ความดังน้อยกว่า 5555

เมื่อคุณวินัยใช้ชีวิตที่อังกฤษ ทำงานกับเชลซี 13 ปีย่อมเหมือนกับได้เรียนรู้ฟุตบอลไปในตัว เขาสรุปว่าถ้าอินเดียจะยกระดับหรือพัฒนาฟุตบอลตัวเองให้ก้าวหน้ามากขึ้นกว่าเดิม เขาบอกว่า... 

"ต้องเปลี่ยนและสร้างวัฒนธรรมฟุตบอลให้ได้"

อันนี้ก็ภาพชัดเลยนะครับ เรื่องบอลอาชีพ

มันสำคัญมากๆหากจะทำฟุตบอลอาชีพให้ยั่งยืน คุณต้องมี  football culture ก่อนเลย ไม่ใช่แค่ตั้งทีม ส่งทีมแข่ง ชิงถ้วย หานักเตะต่างชาติ ดัดแปลงโคต้าอาเซียนมาเพื่อทำทีมให้ได้แชมป์ แล้วประกาศความยิ่งใหญ่ 

ไม่ใช่ 100% ...แชมป์นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของบอลอาชีพ

ภาพรวมทั้งระบบและการมีวัฒนธรรมฟุตบอลสำคัญและยิ่งใหญ่กว่า

ลองฟังคุณวินัย มองปัญหาบอลอินเดียนะครับ

"เราขาดรากหญ้าฟุตบอล เราต้องสร้างมันตั้งแต่ระดับโรงเรียน เยาวชน ทั่วประเทศให้ได้ ซึ่งอินเดียยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนของคนทั้งชาติ"

"รากหญ้า"หรือ grassroot จะเป็นตัวขับเคลื่อนฟุตบอล วัฒนธรรมจะตามมา ดูบอล, รักบอล, สนับสนุนทีมบอลของตัวเองที่ลงแข่งขัน 

ถ้าคลุกคลีฟุตบอลก็จะทราบแก่นแท้ของมัน เพียงแต่ขั้นตอนปฏิบัตินั่นแหละทำได้มั้ย 

ทำถูกทางหรือเปล่า หรือเป็นลูกปูที่เดินตามแม่ปู เหมือนบอลไทยในเวลานี้ มีพิมพ์เขียวแล้วก็ออกแบบไปอีกทาง 

ถ้าไม่หลอกตัวเองนะครับ.... เราเดินตามแม่ปู กันอยู่

กลับมาคุณวินัยส่งท้าย...เมื่อถูกบีบีซี ถามเรื่องทีมเชลซีใหม่ของเสี่ยท็อดด์

แกบอกว่า..

"มันหมดยุคที่ยิ่งใหญ่ของ อบราโมวิช แล้ว ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลาปรับตัว ผมขอเอาใจช่วยในฐานะแฟนเชลซีคนหนึ่ง"

-JACKIE-

ข้อมูลจาก BBC


ที่มาของภาพ : Gettyimages
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport