แมนยู ตัดสินใจมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก สำหรับฤดูกาล 2024/2025
ก่อนหน้านี้ ฮอยลุนด์ สวมเบอร์ 11 ให้ทัพ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลแรกที่เล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์ (ราว 3,384 ล้านบาท) พร้อมความหวังในการทำประตู
หัวหอกแดนโคนม ตะบันไป 16 ประตูจากการเล่น 43 เกมในทุกรายการสำหรับซีซั่นเดบิวต์ของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ซีซั่นใหม่นักเตะจะได้รับเสื้อเบอร์ 9 แทนที่ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่อำลาทัพ "เร้ด เดวิลส์" ไปแล้วช่วงซัมเมอร์นี้
แน่นอนนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยครอบครองเบอร์ 9 มีทั้งประสบความสำเร็จ และล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังนั้น ฮอยลุนด์ ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเขาคือดาวยิงที่เหมาะสมที่ได้สวมหมายเลขนี้
1. ไบรอัน แม็คแคลร์
เมื่อพรีเมียร์ลีกมีการแนะนำให้ขุมกำลังของทุกทีมต้องมีเบอร์เสื้อในฤดูกาล 1993/1994 โดย แม็คแคลร์ เป็นคนแรกที่สวมเสื้อหมายเลข 9 ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยหัวหอกชาวสกอตติช ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งฉกาจของทัพ "ผีแดง" พร้อมทั้งช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
หนึ่งในช่วงเวลาที่สุดแสนล้ำค่าของ แม็คแคลร์ ที่มีเบอร์ 9 ติดอยู่หลังเสื้อก็คือการช่วยต้นสังกัดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ที่สนามเวมบลีย์ ในปี 1994 โดยเขาถูกส่งลงเป็นตัวสำรองพร้อมกับยิงประตูที่สี่คว่ำ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 4-0 ซึ่งนั่นทำให้ แมนฯ ยูฯ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกในยุคเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
หลังจาก 3 ปีทำผลงานได้อย่างสุดยอดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้หมายเลข 9 แม็คแคลร์ ได้มอบเบอร์นี้ให้กับ แอนดี้ โคล ซึ่งแน่นอนว่านี่คือการส่งต่อความเป็นยอดดาวยิงให้กับ โคล และทำให้ "ผีแดง" ครองความยิ่งใหญ่เป็นทวีคูณ
2. แอนดี้ โคล
โคล ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวมหาศาลในช่วงกลางฤดูกาล 1994/1995 โดยแรกเริ่มเดิมทีเขาใส่เสื้อเบอร์ 17 หลังจากย้ายมาใส่เสื้อเบอร์ 9 ในซีซั่น 1997/1998 "ผีแดง" เสียแชมป์ลีกให้ อาร์เซน่อล แต่ในฤดูกาลถัดมาพวกเขาทำได้ดีกว่าเดิมหลายเท่า
กองหน้าชาวอังกฤษ ตะบันไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการในฤดูกาล 1998/1999 รวมทั้งการยิงประตูสำคัญดับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเกมลีกนัดสุดท้ายของซีซั่น นอกจากนี้เขายังยิงประตูสำคัญในรอบน็อกเอาต์ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
สำหรับประตูที่แฟนผีโปรเจกต์ยังคงจดจำได้ไม่มีวันลืมก็คือการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในแมตช์พลิกนรกชนะ ยูเวนตุส ในรอบตัดเชือก ถ้วยใบโตยุโรป ก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศ ช่วย แมนฯ ยูฯ คว้าโทรฟี่ "บิ๊กเอียร์" และเป็นการสร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ด้วย
3. หลุยส์ ซาฮา
เสื้อหมายเลข 9 ว่างเว้นในฤดูกาล 2002/2003 หลัง แอนดี้ โคล อำลา "โรงละครแห่งความฝัน" แต่หลังจากที่ หลุยส์ ซาฮา ย้ายจาก "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม มาร่วมทีมช่วงกลางซีซั่นถัดมา เขากลายเป็นตัวความหวังใหม่ เพราะผลงานที่สุดยอดกับ ฟูแล่ม แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งใจหวัง
ซาฮา มีปัญหาบาดเจ็บมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่กระนั้นเขาก็มีส่วนช่วยทีมค้าแชมป์ลีกฤดูกาล 2006/2007 และ 2007/2008 ในยุคของ "ป๋าเฟอร์กี้" และยังตะบันตาข่ายคู่แข่งช่วยทีมทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2007 ด้วย
น่าเสียดายที่ ดาวเตะชาวฝรั่งเศส ไม่ได้มีส่วนช่วยต้นสังกัดในเกมนัดชิงถ้วยใบโตยุโรปปี 2008 ที่ชนะจุดโทษ เชลซี ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย แต่กระนั้นเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ "บิ๊กเอียร์" อยู่ดี
4. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เพียงแค่ไม่กี่วันหลัง ซาฮา ย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนสิงหาคมปี 2008 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ก็ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์
หัวหอกชาวบัลแกเรีย เป็นผู้เล่นที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการสืบทอดเสื้อเบอร์ 9 แต่กระนั้นในช่วงที่อยู่กับ "ผีแดง" ฟอร์มของเขามีทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุด อย่างไรก็ตามไฮไลท์สำคัญอยู่ในฤดูกาล 2010/2011 เมื่อ "เบิร์บ" ตะบันไปถึง 20 ประตูโดยหนึ่งในนั้นเป็นการยิงแฮตทริกในเกม "แดงเดือด" ปะทะ ลิเวอร์พูล
ผลงานของ เบอร์บาตอฟ ในซีซั่นดังกล่าวทำให้เขาผงาดคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีก พร้อมคว้าแชมป์ลีกด้วย แต่น่าเสียดายที่นักเตะอยู่กับทีมไม่นาน เพราะเขาย้ายออกไปในปี 2012
5. ราดาเมล ฟัลเกา
แมนฯ ยูฯ ไม่มีนักเตะที่สวมหมายเลข 9 ในฤดูกาลสุดท้ายภายใต้การคุมทัพของเฟอร์กูสัน และในยุคเดวิด มอยส์ จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงมากมายภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล โดยหนึ่งในนั้นก็คือการยืมตัว ราดาเมล ฟัลเกา มาร่วมทัพ
ฟัลเกา ย้ายมาจาก โมนาโก แบบยืมตัว พร้อมได้รับเสื้อเบอร์ 9 แต่น่าเสียดายที่นักเตะไม่มีความทรงจำที่งดงามกับการเล่นใหน แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหัวหอกชาวโคลอมเบียต้องเจอกับอาการบาดเจ็บหนักเล่นงานจนงัดฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้ และยิงได้แค่ 4 ประตูในทุกรายการ
หลังจากนั้น ฟัลเกา ย้ายไปเล่นกับ เชลซี แบบยืมตัว พร้อมกับสวมเสื้อหมายเลข 9 ในซีซั่นถัดมา แต่ผลงานน่าอนาถยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าเพราะซัดไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น สุทด้ายทต้องหวนกลับไปยัง โมนาโก ต้นสังกัดแม่ในซีซั่น 2016/2017
6. อองโตนี่ มาร์กซิยาล
อองโตนี่ มาร์กซิยาล เริ่มต้นชีวิตกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังย้ายมาจาก โมนาโก เมื่อปี 2015 นักเตะได้สวมเสื้อหมายเลข 9 หลังทำผลงานได้น่าตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะการยิงประตูในเกมเปิดตัวที่พบ ลิเวอร์พูล
"พี่หมาก" ดูเหมือนจะมีอนาคตสดใสเมื่อซัดไป 11 ประตูในลีก แต่หลังจากนั้นฟอร์มของนักเตะก็ขึ้นๆ ลงๆ และยังไม่สามารถที่จะรักษาผลงานแบบคงเส้นคงวาตามที่แฟนบอล "ผีแดง" คาาดหวังเอาไว้ไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวเฟร้นช์ มีซีซั่นที่ดีที่สุดในฤดูกาล 2019/2020 หลังจากตะบันในลีกไปถึง 17 ประตู นั่นทำให้เขาดูเหมือนจะกลับมาเรียกศรัทธาคืนได้อีกครั้ง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้นักเตะผลงานสาละวันเตี้ยลงจนสุดท้ายต้องย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
7. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
มาร์กซิยาล ไม่ได้สวมเสื้อเบอร์ 9 ในฤดูกาล 2016/2017 เนื่องจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้รับเกียรตินี้ แม้ว่า หัวหอกชาวสวีดิช ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นานมากนัก แต่กลับมีอิทธิพลกับ "ผีแดง" เยอะมาก
"อิบรา" ลีลาลูกหนังได้น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ นั่นทำให้เขากลายเป็นที่รักของสาวก "เร้ด อาร์มี่" ทั่วโลก พร้อมกับช่วยทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในซีซั่นแรกที่ค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
หลังจากที่ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เรียบร้อยแล้ว อิบราฮิโมวิช ก็เปลี่ยนมาสวมเสื้อเบอร์ 10 แต่น่าเสียดายที่นักเตะเจอโรคเดี้ยงเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฟอร์มไม่พุ่งกระฉูดเท่าไหร่นัก
8. โรเมลู ลูกากู
หลังจากที่ อิบราฮิโมวิช ย้ายไปใส่เสื้อเบอร์ 10 หลังจากนั้น โรเมลู ลูกากู ซึ่งย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาล กลายเป็นเจ้าของเสื้อเบอร์ 9 คนใหม่ โดยนักเตะดูเหมือนจะเหมาะสมอย่างยิ่งกับหมายเลขนี้ หลังเปิดตัวได้อย่างสวยหรูในเกมทุบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-0
นับตั้งแต่ที่ออกสตาร์ทอย่างสวยหรู จากนั้นฟอร์มของนักเตะก็ลุ่มๆ ดอนๆ จนได้รับฉายา "ตู้เย็น" เพราะมักจะพลาดโอกาสง่ายๆ เป็นประจำ และสุดท้ายก็ต้องระเห็จไปเล่นกับ อินเตอร์ มิลานในปี 2019 แต่ดันช่วย "งูใหญ่" คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในซีซั่น 2020/2021
ทอมเม้ง