การลงทุนมีความเสี่ยง และไม่เว้นแม้แต่การควักกระเป๋าคว้านักเตะมาร่วมทีม
ถึงขณะนี้ทุกสโมสรมีโอกาสจ่ายตลาดเสริมความแข็งแกร่งกันอีกครั้งก่อนเปิดซีซั่น 2024/25 โดยในประเด็นนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปเยอะหลังลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนในสนามิย่างที่ควรจะเป็น
ฉันใดก็ฉันนั้น เชลซี ทีมเงินถังของ พรีเมียร์ลีก เป็นอีกรายที่เซ็นสัญญากับนักเตะค่าตัวแพงผิดพลาดในหลายปีหลังซึ่งส่งผลให้สโมสรมีผลงานที่ตกต่ำลงอย่างน่าใจหายทั้งๆที่พวกเขายังจ่ายตลาดแบบมือเติบไม่เลิกจนล่อแหลมว่าจะละเมิดกฏการใช้จ่ายเช่นกัน
สำหรับ แมนฯ ซิตี้ ไม่เพียงจะเซ็นสัญญากับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่หลายปีที่ผ่านมา เรือใบสีฟ้า ดึงนักเตะใหม่มาเสริมทัพได้อย่างน่ายกนิ้วให้โดยตลอด อาจยกเว้นเพียงไม่กี่รายอาทิ คาลวิน ฟิลลิปส์ และ มาเตอุส นูเนส
นอกจากทีมใน พรีเมียร์ลีก แล้ว ลีกเมืองกระทิงก็มีการแข่งขันกันสูงสำหรับการล่าตัวนักเตะชั้นยอดโดยเฉพาะ เรอัล มาดริด ซึ่งได้เปรียบหลายสโมสรในฐานะเจ้ายุโรปเบอร์หนึ่งของทวีปซึ่งเป็นสโมสรในฝันของบรรดาพ่อค้าแข้ง
ดังจะเห็นว่าล่าสุด ราชันชุดขาว ได้ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ สตาร์ทีมชาติ ฝรั่งเศส มาสมบทอีกราย แถมไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แม้แต่แดงเดียวอีกด้วย
กระทั่งล่าสุด อีเอสพีเอ็น ได้ประมวลข้อมูลการซื้อขายนักเตะของทุกลีกยุโรปตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมาเพื่อหาคำตอบว่าพ่อค้าแข้งคนไหนที่ติดอยู่ในทำเนียบห้าอันดับแรกของการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม และยอดแย่โดยวัดจากค่าตัวเป็นสำคัญ
แน่นอนว่าการซื้อนักเตะแต่ละรายของทุกสโมสรมีปัจจัยแวดล้อมหลากหลายที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีและร้ายไม่ว่าจะเป็นยอดขายเสื้อ ,จำนวนนาทีที่อยู่ในสนาม , จำนวนโทรฟี่ , จำนวนประตู และยอดฟอลโลว์ไอจี เป็นอาทิซึ่่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าโดยไม่สำคัญว่าพวกเขาได้ค่าแรงจากสโมสรมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ดี เพื่อลดรายละเอียดปลีกย่อยลงไป อีเอสพีเอ็น เลือกใช้วิธีจัดอันดับด้วยการเล็งไปที่ค่าตัวนักเตะเป็นหลักเนื่องจากมันเป็นดัชนีชี้วัดได้เป็นรายบุคคลว่านักเตะคนไหนตอบแทนสโมสรได้ดีกว่ากันในแง่ของการลงทุน
กล่าวคือหากนักเตะย้ายทีมแล้วมีค่าตัวโดยประเมินสูงขึ้น มันย่อมหมายถึงการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม
ในทางกลับกัน หากสโมสรซื้อนักเตะค่าตัวแพงเข้ามาแล้วปรากฏว่าเขามีค่าตัวโดยประเมินลดลงในปีต่อมามันย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่เลวร้าย
และในที่สุด 5 อันดับการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม และยอดแย่ก็ได้บทสรุปออกมาดังนี้
- 5 การเซ็นสัญญายอดเยี่ยม
1.เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ , 21 ปี แมนฯ ซิตี้
60 ล้านยูโร จาก ดอร์ทมุนด์ , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 180 ล้านยูโร ขยับขึ้น 200%
2. จู๊ด เบลลิ่งแฮม , 17 ปี ดอร์ทมุนด์
30.15 ล้านยูโร จาก เบอร์มิ่งแฮม , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 70 ล้านยูโร ขยับขึ้น 132%
3. นิโกล่า บาเรลล่า , 23 ปี อินเตอร์ มิลาน
32.5 ล้านยูโร จาก กายารี่ ,ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 70 ล้านยูโร ขยับขึ้น 115%
4. เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า , 18 ปี เรอัล มาดริด
31 ล้านยูโร จาก แรนส์ , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 60 ล้านยูโร ขยับขึ้น 93.5%
5. เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ , 21 ปี เบนฟิก้า
44.25 ล้านยูโร จาก ริเวอร์ เพลท , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 80 ล้านยูโร ขยับขึ้น 80.8%
- 5 การเซ็นสัญญายอดแย่
1. กาเซมีโร่ , 30 ปี แมนฯ ยูไนเต็ด
76.5 ล้านยูโร จาก เรอัล มาดริด , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 30 ล้านยูโร ลดลง 60.8%
2. มาร์ค กูกูเรย่า , 24 ปี เชลซี
65.3 ล้านยูโร จาก ไบรท์ตัน , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 28 ล้านยูโร ลดลง 57.1%
3. โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ,33 ปี บาร์เซโลน่า
45 ล้านยูโร จาก บาเยิร์น , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 20 ล้านยูโร ลดลง 55.6%
4. ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ , 24 ปี เปแอสเช
95 ล้านยูโร จาก แฟร้งค์เฟิร์ต , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 45 ล้านยูโร ลดลง 52.6%
5. เวสลีย์ โฟฟาน่า , 21 ปี เชลซี
80.4 ล้านยูโร จาก เลสเตอร์ , ค่าตัวโดยประเมินปีต่อมา 40 ล้านยูโร ลดลง 50.2%