พร้อมเต็มที่ ! เปิดบทสัมภาษณ์ครั้งแรก อาร์เน่อ สล็อต เฮดโค้ชลิเวอร์พูล

สล็อต เข้ามารับบทบาททายาทของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ประกาศยุติช่วงเวลา 9 ปีที่ยิ่งใหญ่ในถิ่นแอนฟิลด์ หลังจบฤดูกาล 2023/2024 โดยนายใหญ่ชาวดัตช์ จะทำหน้าที่สานต่องานของ "บอส" เป็นเวลา 3 ปีหรือจนกระทั่งถึงปี 2027 

 ตอนนี้บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก จะได้ทำความรู้จัก ชายหัวใสวัย 45 ปีที่เคยนำ เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ ลีกสูงสุดประเทศเนเธอร์แลนด์ และแนวคิดกับทิศทางที่เขาจะนำมาใช้กับ "หงส์แดง" ผ่านบทสัมภาษณ์แรกกับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร 

LFC : ขอแสดงความยินดีและยินดีต้อนรับสู่ ลิเวอร์พูล คุณช่วยบอกเราหน่อยว่าตอนนี้คุณรู้สึกยังไง ?

AS  : ผมเต็มไปด้วยพลังเพราะผมได้พักผ่อนไปแล้ว มันน่าตื่นเต้น และตั้งตาคอยที่จะได้พบกับความท้าทายใหม่ซึ่งกำลังรอผมอยู่ แน่นอนว่าเราได้ดูสนามซ้อม ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก ดังนั้นมีหลายอย่างที่ต้องตั้งตาคอย ทีมจะกลับมาในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า และ อืม ผมตั้งตาคอยที่จะเริ่มต้นใหม่หลังมีช่วงเวลาๆ ดีกับ เฟเยนูร์ด

LFC : ต้องใช้เวลาสักพักระหว่าที่คุณได้รับการประกาศเป็นเฮดโค้ชลิเวอร์พูล และจากมุมมองของคุณมันเป็นตั้งใจหรือเปล่า ? 

AS  : ผมคิดแบบนั้น เพราะมี 2-3 เหตุผล อย่างแรกอาจเป็นเรื่องการอำลา เจอร์เก้น (คล็อปป์) ซึ่งมันพิเศษจริงๆ จากสิ่งที่ผมได้เห็น มันเป็นวันเดียวกับที่ผมอำลาเฟเยนูร์ดด้วย แต่ผมได้เห็นบางสิ่ง และหลังจากนั้นก็มีพิธีอำลาอีกหลายครั้งจากสิ่งที่ผมได้เห็น ดังนั้นผมคิดว่ามันแฟร์สำหรับเขา และสำหรับสโมสร รวมทั้งแฟนบอลที่จะรออีกสักพัก และจากนั้นก็ค่อยทำการเปิดตัว 

นอกจากนี้ ผมจะได้พักผ่อนก็อย่างที่คุณได้เห็นกันแล้ว ! ใช่ ผมคิดว่าตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ และพูดคุยกับคุณ แต่ชัดเจนว่าผมไม่ได้เริ่มงานวันนี้ ผมได้ติดต่อกับทีมสตาฟฟ์หลายคน ตั้งแต่คนที่ทำงานที่นี่ไปจนถึงสตาฟฟ์ใหม่ๆ ที่เพิ่งย้ายเข้ามา แน่นอนว่าแทบทุกวันที่ ริชาร์ด (ฮิวจ์ส) และผมโทรหากัน เพราะเราต้องพูดคุยกัน นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญมากสำหรับฤดูกาลใหม่ เพื่อทำให้แน่ใจว่าทีมมีความพร้อม และเราต้องเล่นช่วงปรีซีซั่น ดังนั้นมีหลายสิ่งที่ทำไปแล้ว แต่เป็นงานเบื้องหลังซะมากกว่า ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่นี่ต่อหน้าคุณ ผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทำสิ่งนี้ นี่คือ 2-3 เหตุผลที่ผมบอกคุณ 

LFC : คุณคิดว่ามันง่ายไหมที่ปิดทุกอย่างช่วงวันหยุดพักผ่อนของคุณ ?

AS  : ไม่เลย ! ผมไม่คิดผู้จัดการทีม ไม่ว่าผมหรือคนอื่นๆ จะปิดทุกอย่าง แต่มันเป็นช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ดี ผมมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาดีกับ เฟเยนูร์ด อดีตต้นสังกัดของผม และมองไปข้างหน้าในการทำงานให้สโมสรอย่างลิเวอร์พูล ดังนั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าช่วงซัมเมอร์ เพราะมันคือชีวิตของอดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีม แต่ซัมเมอร์นี้มันดีจริงๆ เพราะผมย้ายจาก เฟเยนูร์ด ด้วยสถานการณ์ที่ดี และผมมาที่สโมสรที่ยอดเยี่ยมซึ่ง เจอร์เก้น อำลาไปแล้ว ดังนั้นนี่คือซัมเมอร์ที่ดี

LFC : สำหรับ เจอร์เก้น คุณมาแทนที่บุคคลสำคัญ และเขาเป็นคนที่คุณให้ความชื่นชมอย่างมาก

AS  : ใช่ครับ ตอนนี้ผมอายุ 45 ปี ได้ดูฟุตบอลมานานและดูเยอะมาก ผมคิดว่ามันเป็นยุคที่ทุกคนต้องดู บาร์เซโลน่า ของ ชาบี (เอร์นานเดซ), (อันเดรส) อิเนียสต้า และ (ลิโอเนล) เมสซี่ รวมทั้งคู่แข่งของพวกเขาอย่าง เรอัล มาดริด ตอนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ที่นั่น 

ผมคิดว่าเมื่อมันจบยุคนั้น คู่แข่งยุคใหม่ในวงการฟุตบอลยุโรปก็คือ เจอร์เก้น ซึ่งเขาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมคิดว่าสำหรับทุกคนที่รักฟุตบอลนี่คือยุคที่สุดวิเศษที่ได้ดูพวกเขาโชว์ผลงานที่ดีที่สุดออกมา ใช่ ผมเคยดูเกม ลิเวอร์พูล มากมาย และเกมของ ซิตี้ ด้วย เมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่ในยุโรปบางทีพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดเท่าที่ติดตามมา ดังนั้นเขาทำงานได้อย่างสุดยอดตลอดช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ และผมมีความสุขจริงๆกับสิ่งนี้ในฐานะแฟนบอล แต่ตอนนี้ในฐานะผู้สืบทอดต่อจากเขา ซึ่งเขาอำลา ลิเวอร์พูล ด้วยแนวทางที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผมคิดว่านี่คือทีมที่ดี แฟนบอลสุดยอดด้วย ดังนั้นผมตั้งตาคอยสิ่งนี้ 

LFC : มันสำคัญแค่ไหนที่คุณได้คุยกับ เจอร์เก้น ? 

AS  : ผมทำเหมือนกับสโมสรเก่าๆ ที่ผมเคยอยู่ตอนที่ผมเริ่มเข้าไปทำงานที่นั่น แต่ผมคิดว่าถ้ามีใครก็ตามที่ทำงานอยู่กับสโมสรนานถึง 9 ปี และประสบความสำเร็จมากมาย คุณต้องรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขา และนักเตะทุกคน แม้ผมคิดว่าความเห็นส่วนตัวของผมมันเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณสามารถใช้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาให้ได้ เพราะเขาทำมันได้ดีมากๆ  ไม่ใช่แค่ในแง่ผลการแข่งขันซึ่งผมคิดว่าทุกคนได้เห็นตอนที่งานอำลาของเขาแล้ว แต่ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านั้นซึ่งเขาเป็นที่ชื่นชอบมากแค่ไหน 

เขาให้เคล็ดลับดีๆ กับผมหลายเรื่อง แต่ผมคิดว่าสิ่งทำให้ผมประทับใจก็คือเขามีความสุขร่วมกับผม ผมคิดว่าเขาเคยพูดเรื่องนี้กับสื่อด้วย เขาบอกว่าจะเป็นแฟนตัวยงของผมตั้งแต่ตอนนี้ เพราะเขาเชียร์ลิเวอร์พูล ให้พบกับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และคุณไม่มีทางได้เห็นเรื่องแบบนี้บ่อยนัก มีการพูดเยอะมากเรื่องบุคลิกของเขา แนวทางที่เขารับมือสถานการณ์นี้ด้วย 

LFC : มันสำคัญไหมที่คุณเป็นตัวของตัวเอง แต่จากสิ่งที่เรารู้มีความคล้ายคลังกันอยู่บ้างระหว่างสไตล์ของคุณกับเขา ?

AS  : ผมคิดแบบนั้น และผมคิดว่านี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ผมย้ายมาที่นี่ เพราะผมคิดว่าวิธีที่ลิเวอร์พูล "สอดส่อง" ผม เออ ผมไม่แน่ใจว่าใช้คำถูกไหม พวกเขากำลังมองหา คนที่ไม่ได้มีสไตล์แบบเดียวกัน แต่ผมคิดว่าเมื่อมีบางสิ่งที่ประสบความสำเร็จกับแนวทางที่เล่น คุณก็อยากสานต่อสิ่งนี้ หรือพัฒนามันต่อไป บางทีนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขาเลือกผมด้วย 

อืม มันเป็นสไตล์ของผม แต่ผมคิดว่านี่คือสไตล์ของโค้ชสมัยใหม่จำนวนมากในเวลานี้ เราทุกคนได้แรงบันดาลใจมาพอสมควรเพราะการแข่งขันระหว่าง ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล เราได้แรงบันดาลใจจาก กวาร์ดิโอล่า และ คล็อปป์ ผมคิดว่านี่คือสโมสรใหญ่ ซึ่งผมเคยทำงานกับ เฟเยนูร์ด มาแล้ว บางทีมันเป็นสไตล์ที่คุณสามารถเล่นได้เท่านั้น ครองบอลเยอะ ใช้พลังเต็มที่ และผมคิดว่าตอนนี้มีการเปรียบเทียบระหว่างสโมสรที่ผมย้ายมา กับสโมสรที่ผมกำลังทำงานตอนนี้ แฟนบอลทั้งสองทีมอยากเห็นทีมที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ และถ้ามีหลายอย่างที่ยากลำบาก พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อเปลี่ยนเกม ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งกับ ลิเวอร์พูล และผมคิดว่ามันเคยเกิดขึ้นกับ เฟเยนูร์ด ทีมเก่าของผมหลายครั้งเช่นกั 

LFC : นี่เป็นโอกาสสำคัญ แต่การเปลี่ยนครั้งนี้น่าตื่นเต้นด้วยใช่ไหม ? 

AS  : ใช่เลย ผมได้สวมชุดใหม่ แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่มีหลายอย่างที่ยังคงเหมือนเดิมด้วย ผมคิดว่านักเตะยังคงเหมือนเดิม บางทีมันเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในฐานะผู้จัดการทีมบางครั้งเรามักคิดว่าเรามีอิทธิพลเยอะมาก ซึ่งเราอาจมีก็ได้ แต่สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับนักเตะ และผมคิดว่าแฟนบอลยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นมีหลายสิ่งที่ยังเหมือนเดิม เราจะพยายามสานต่อสิ่งที่ เจอร์เก้น ทิ้งเอาไว้ และเราจะได้เห็นว่ามีหลายอย่างที่คล้ายกัน แน่นอนว่าผมก็มีหลายสิ่งที่เป็นของตัวเอง และนั่นคือความคาดหวังที่มีต่อตัวผม 

LFC : ตำแหน่งทางการของคุณก็คือ "เฮดโค้ช" มันหมายความว่ายังไงสำหรับคุณ ? 

AS  : สำหรับผม มันเป็นเรื่องปกติเพราะนี่คือแนวทางในยุโรปและฮอลแลนด์ ผมไม่คิดว่ามันจะแตกต่างกันระหว่างเฮดโค้ชกับผู้จัดการทีม การเป็นเฮดโค้งผมก็สามารถทำหลายๆ สิ่งที่ผมอยากทำได้ ดังนั้นการทำงานร่วมกับทีม, การเตรียมทีมด้วยแนวทางที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และผมกับ ริชาร์ด กำลังทำงานร่วมกันเรื่องการซื้อขายนักเตะ แต่ไม่ใช่แค่เราสองคนเท่านั้น ยังมีทีมสตาฟฟ์ชุดใหญ่เข้ามาร่วมจัดการเรื่องนี้ด้วย ผมคิดว่าสำหรับผมมันคือแนวทางที่ผมเคยทำงานมาตลอด และสำหรับผมนี่คือการทำงานในอุดมคติ เพราะผมมีเวลาเยอะมากในการทำงานร่วมกับทีม และเวลาที่เหลืออยู่ก็ให้กับครอบครัว รวมทั้งพูดคุยกับ ริชาร์ด เกี่ยวกับการทำยังไงเพื่อให้ทีมแข็งแกร่ง แต่เราเป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว 

LFC : คุณบอกเราหน่อยว่า ลิเวอร์พูล แสดงความสนใจอย่างจริงจับกับคุณเมื่อไหร่ และความเป็นไปได้ที่คุณจะได้งาน ช่วงเวลานั้นคุณตัดสินใจถูกต้องใช่ไหมในการย้ายทีม ?

AS  : ผมคิดว่าในช่วงเวลานั้นมันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะไม่มีใครอยากรู้เรื่องนี้ ครั้งแรกที่คุณได้ยินว่า ลิเวอร์พูล สนใจคุณ คุณต้องเก็บมันเอาไว้ระหว่างผมกับภรรยา ผมรู้มาตลอดว่าต้องเป็นสโมสรสุดวิเศษหากผมจะอำลา เฟเยนูร์ด และนี่คือลิเวอร์พูล กับลีกที่ยิ่งใหญ่ด้วย ผมคิดว่าเมื่อปีก่อนผมได้รับความสนใจจาก 2-3 ทีมในพรีเมียร์ลีก แต่ผมตัดสินใจอยู่กับ เฟเยนูร์ดต่อพร้อมกับแนวคิดที่จะอยู่ที่นี่อีก 2 ซีซั่น 

แต่หลังจากผ่านไป 1 ปี ลิเวอร์พูล ก็เข้ามาทาบทาม ก็เหมือนกับที่บอกคุณเรื่องการแข่งขันระหว่าง ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล และมีหลายเกมที่เราในฐานะแฟนฟุตบอลได้ดู มันไม่ใช่ตัวเลือกที่ยากเลย ก็อย่างที่บอกผมมีความสุขจริงๆ กับ เฟเยนูร์ด รวมทั้งแนวทางที่ผมทำงานที่นั่น และแฟนบอล, สตาฟฟ์โค้ช, นักเตะ แต่นี่คือความเป็นไปได้ที่ผมต้องคว้ามันเอาไว้

LFC : คุณช่วยบอกเกี่ยวกับตัวคุณหน่อยได้ไหม ? คุณอธิบายตัวคุณว่าเป็นเฮดโค้ชยังไง

AS  : ตอนที่ผมเข้ามาที่นี่วันแรก สัปดาห์แรกที่ผมอยู่ที่นี่ ผมโฟกัสไปที่สนามซ้อม ผมคิดว่ามันเป็นสถานที่ที่คุณสามารถใช้อิทธิพลได้อย่างเต็มที่ และคุณมีอิทธิพลสูงมาก เพราะคุณต้องมีอิทธิกับลูกทีมซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเกมสมัยใหม่ และแผนของคุณ ผมคิดว่านั่นคือทั้งหมด การได้พบแนวทางการเล่นที่เหมาะสมกับนักเตะให้มากที่สุด และการปรับตัวกับแผนการเล่น แต่นั่นเป็นเรื่องของแท็กติก และผมคิดว่ามันยังมีเรื่องอื่นสำหรับเฮดโค้ช หรือผู้จัดการทีมหรืออะไรก็ตามที่คุณจะเรียก นั่นคือความสัมพันธ์ที่คุณมีกับผู้คน 

ความสัมพันธ์ที่ผมมีกับทีมสตาฟฟ์ของผม แต่กับนักเตะด้วย พวกเขาอยู่เคียงข้างกันและกันมากแค่ไหน รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสตาฟฟ์กับนักเตะ ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่ถูกจับตามองจากภายนอก  จุดนี้ เจอร์เก้น ทำได้ดีเยี่ยมนอกเหนือจากสไตล์การเล่น นั่นคือความท้าทายเพราะผมมั่นใจเต็มร้อยว่ามีหลายคนที่สโมสรนี้ยังรักเขา เราต้องพบกับหนทางที่ทำให้ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยกับผม และทีมสตาฟฟ์ใหม่ที่กำลังจะเข้ามา รวมทั้งการได้รับพลังแบบเดียวกันที่สโมสรแห่งนี้ และสุดท้ายก็นำเข้าไปในสนาม เพราะนั่นคือทั้งหมด เราต้องแสดงผลงานระหว่างเกม และผมคิดว่าสิ่งสำคัญก็คือไอเดียที่ดีเกี่ยวกับเรื่องที่เราต้องการเล่นยังไง และพลังงานด้านบวกภายในทีม รวมทั้งทุกๆ คนที่ทำงานที่ ลิเวอร์พูล 

LFC : เท่าที่ทราบคุณมีประสบการณ์ในการเรียนรู้จากกีฬาอื่นๆ เยอะมาก ไม่ใช่แค่ฟุตบอลที่คุณสนใจ และคุณได้เรียนรู้อะไรในฐานะโค้ช 

AS  : แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องแท็กติก เพราะเป็นกีฬาที่แตกต่างกัน แต่แนวทางของกีฬาบางประเภทในการรับมือกับทีมที่แข็งแกร่งสามารถช่วยคุณได้ บางครั้งผมก็ใช้สิ่งนี้ในการประชุมทีมก่อนเกม ผมพยายามใช้ตัวอย่างของการปั่นจักรยานหรือบางครั้งเราก็ดู โรล็องด์-การ์รอส (เทนนิส เฟร้นช์ โอเพ่น) เราได้เห็น (โนวัค) ยอโควิช คว้าชัยชนะในแมตช์ที่ยากลำบาก ผมคิดว่านี่คือหนึ่งในคุณภาพของเขา เขาสามารถเอาชนะได้แม้มันจะไม่มีอะไรเข้าทางเขา เขาหาทางที่จะเอาชนะได้ ผมคิดว่าตัวอย่างเหล่านี้คุณสามารถนำมาใช้กับนักเตะได้  แต่แน่นอนว่าเราต้องเน้นการพูดคุยเรื่องฟุตบอล และมันไม่ใช่สถานการณ์ที่นักเตะต้องฟังกีฬาอื่นทุกประเภท บางครั้งผมใช้มันถ้าผมคิดว่ามันจำเป็น 

LFC : มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อยู่เบื้องหลัง และคุณจะนำทีมสตาฟฟ์ของคุณมาร่วมงานด้วย คุณบอกเราหน่อยเกี่ยวกับพวกเขา บุคลิกส่วนตัวและสิ่งที่พวกเขาจะมอบให้กับทีม และแฟนบอลลิเวอร์พูล ?

AS  : ก็อย่างที่ผมพูดไปแล้ว เจอร์เก้น อำลาสโมสรในสถานการณ์ที่ดี เขาทิ้งทีมที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ ผมคิดว่าเรามีทีมที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และแนวทางการเล่นที่พวกเขาเล่นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมามันยอดเยี่ยมมากๆ ดังนั้นเราจะสานต่อจากจุดนี้ แน่นอนว่าคุณต้องใช้บางคนที่เคยทำงานร่วมกับคุณด้วย เพราะพวกเขารู้ว่าคุณเป็นใคร รู้ว่าคุณเล่นสไตล์ไหน และคุณแปรเปลี่ยนสิ่งนี้ให้กับสตาฟฟ์คนอื่นๆ เข้าใจได้ไหม ผมสังเกตเห็นมาแล้วว่ามีคนเก่งๆ มากมายที่ทำงานอยู่ที่นี่ ดังนั้นเราใช้สิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองส่วนทั้งจากเรา และจากความรู้ที่อยู่ในสโมสรนี้จากช่วงเวลา 9 ปีของ เจอร์เก้น และทีมสตาฟฟ์ของเขาที่ทำงานที่นี่ 

ผมดึงตัว ซิปเค่ ฮูลชอฟฟ์ ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของผม 2-3 ปีที่เฟเยนูร์ด ผมทำงานกับเขามานาน แล้วผมก็เคยทำงานกับเขาสมัยที่อยู่กับ คัมบูร์ ลูวาร์เดน เขายังเป็นผู้ช่วยของ โรนัลด์ คูมัน ในทีมชาติเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนนี้เขาจะมาทำงานกับผม เขาแก่กว่าผมแต่ก็ไม่เยอะหรอก น่าจะแก่กว่าผมนิดหน่อย เพราะเราทำงานร่วมกันมานาน ผมคิดว่าเรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการสำหรับเกมฟุตบอลสมัยใหม่, สไตล์การเล่น และผมคิดว่าสิ่งนี้ช่วยเราได้ 

นอกจากนี้เราจะมีโค้ชด้านสมรรถภาพนั่นก็คือ รูเบน ปีเตอร์ส ซึ่งจะมาช่วยผมกับสโมสร พร้อมกับแนวทางที่เราทำงานด้านกายภาพ เราทั้งสามคนเคยทำงานด้วยกันที่เฟเยนูร์ด ตลอดสามปี และเรารู้ว่าเราต้องทำงานกันยังไง นั่นเป็นเรื่องปกติ ส่วนโค้ชผู้รักษาประตู เราจะดึงตัว ฟาเบียน อ็อตเต้ ซึ่งเคยทำงานกับโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค และตอนนี้อยู่กับทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่จะทำศึกโกปา อเมริกา 

ดังนั้นนี่คือสถานการณ์แรกที่เราจะต้องเติมเต็ม ผมคิดว่าเรายังต้องมองหาอีกหนึ่งหรือสองตำแหน่ง ผมเคยพูดไปแล้วในช่วงต้นการให้สัมภาษณ์ว่า ริชาร์ด กับผม โทรหากันตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น แต่ยังเรื่องตำแหน่งอื่นๆ ที่เรายังต้องเติมเต็ม 

LFC  คุณจะคุมทีมครั้งแรกที่ พิตต์สเบิร์ก เดือนกรกฎาคม คุณตื่นเต้นไหม ? 

AS  : แน่นอน ผมคิดว่ามันเป็นเกมที่พิเศษเสมอที่สหรัฐอเมริกา นั่นเป็นแนวทางที่พิเศษสำหรับการเริ่มต้นอาชีพที่ ลิเวอร์พูล แต่โดยเฉพาะถ้าคุณทำงานกับสโมสรใหม่ ครั้งแรกย่อมพิเศษเสมอ ตั้งแต่การมาที่นี่สำหรับคุมทีมซ้อมครั้งแรก, ครั้งแรกที่ได้พูดคุย และครั้งแรกในการนำทีม มันเป็นเรื่องพิเศษ แต่แน่นอนว่าผมตั้งตาคอยที่จะนำทีมเล่นที่แอนฟิลด์ 

LFC : เพื่อเป็นการจบบทสนทนาที่ดี คุณมีอะไรจะบอกแฟนบอลไหม ?

AS  :  พวกคุณทำให้ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์ ! มันคือการเปลี่ยนแปลง แต่หวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนใหญ่ครั้งใหญ่ เพราะเรายังมีนักเตะชุดเดิม เรายังมีแฟนบอลกลุ่มเดิม และถ้าทั้งสองสิ่งนี้ประสานงานร่วมกัน มันคงทำให้ชีวิตของผมง่ายยิ่งขึ้น ! ผมคาดหวังว่าพวกเขาจะแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมาอีกครั้งสำหรับฤดูกาลที่จะมาถึง ส่วนผมจะทุ่มเททั้งความสนใจและพลังทั้งหมดเพื่อนำทีมสร้างผลงานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปไ