แกรห์ม พ็อตเตอร์ ต้องเสียสถิติไร้พ่ายในการคุม เชลซี ด้วยน้ำมือของอดีตต้นสังกัดอย่าง ไบรท์ตัน แถมยังต้องมาสังเวย เกปา ที่มีอาการบาดเจ็บต้องถูกเปลี่ยนออกในช่วงพักครึ่ง ทำให้ทัพ "สิงห์บลูส์" ยังอยู่ที่ 5 ของตาราง ก่อนเกมหน้ามีคิวดวล อาร์เซน่อล ศึกลอนดอน ดาร์บี้
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่สนามดิ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ระหว่าง ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 9 พบ เชลซี ทีมอันดับ 5 ของตาราง
ไบรท์ตัน ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันในลีก (เสมอ 2 แพ้ 3 ) ล่าสุดบุกไปพ่ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วยสกอร์ 1-3 โดยนัดนี้ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือของทีม ส่ง คาโอรุ มิโตมะ ออกสตาร์ตตัวจริง
ขณะที่ เชลซี ไม่แพ้ใครมาติดต่อกัน 9 เกมรวมทุกรายการ เกมนี้ส่ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกสตาร์ตตัวจริงต่อเนื่องในตำแหน่งหัวหอกตัวเป้า
เปิดฉากครึ่งแรกมาเพียง 3 นาที ไบรท์ตัน เกือบขึ้นนำเร็วเมื่อ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดมาซัดข้ามตัวของ เกปา ได้แล้ว แต่ ติอาโก้ ซิลวา ยังยืนคุมเส้นโหม่งสกัดทิ้งไปได้หวุดหวิด
จนกระทั่งนาทีที่ 5 ไบรท์ตัน ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ คาโอรุ มิโตมะ กระชากเข้าเขตโทษก่อนไหลถวายพานให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดมาซัดระยะเผาขนส่งบอลเสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไป
เท่านั้นไม่พอ นาที 14 ไบรท์ตัน ขยับหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาบอลเลยมาถึง รูเบน ลอฟตัส ชีค สกัดบอลพลาดเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป
หลังจากนั้น นาที 17 เชลซี พลาดโอกาสตีไข่แตกแบบเหลือเชื่อ คอนนอร์ กัลลาเกอร์ หลุดเดี่ยวยิงระยะเผาขนไปติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ก่อนที่บอลมาเข้าทางปืนของ คริสเตียน พูลิซิช ตามซ้ำดาบสองบอลข้ามคาน
นาที 20 ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดมาเข้าหัว กัลลาเกอร์ โหม่งเปลี่ยนทางแต่ โรเบิร์ต ซานเชซ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลัง
ก่อนจบครึ่งแรก นาที 43 สถานการณ์ของ เชลซี แย่ลงไปอีกเมื่อโดน ไบรท์ตัน ทิ้งห่างเป็น 3-0 อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ หลุดมาถึงสุดเส้นหลังแล้วพยายามจ่ายยัดเข้าเขตโทษแต่ เทนโว์ ชาโลบาห์ สกัดบอลพลาดเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง เชลซี ต้องถอด เกปา ที่มีอาการบาดเจ็บออกไปแล้วส่ง เอดูอาร์ เมนดี้ ลงมาเล่นแทน
นาที 48 เชลซี ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 อย่างรวดเร็ว คอนนอร์ กัลลาเกอร์ ตัดบอลเข้าเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ สอดมาโหม่งระยะเผาขนส่งบอลตุงตาข่าย
นาที 69 ทีมเยือนหวุดได้ลูกสอง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ลากบองมาก่อนปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษ โรเบิร์ต ซานเชซ ยังปัดทิ้งออกไปได้อีก
เชลซี บุกใส่เป็นพายุ นาที 86 มาได้โอกาสทองเมื่อ ลอฟตัส ชีค จ่ายคัทแบ็กมาให้ ไค ฮาแวรต์ซ์ กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแบบโล่งๆ แต่บอลเหินข้ามคาน
อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลานาที 90+2 กลายเป็น ไบรท์ตัน ทีใช้จังหวะสวนกลับทีเด็ดขาดได้ประตูหนีห่างเป็น 4-1 อูลิโอ เอนซิโซ่ ซัดจังหวะแรกไปติดเซฟ เมนดี้ แต่ยังปัดมาเข้าทาง ปาสกาล โกรสส์ ตามซ้ำระยะเผาขนไม่เหลือ
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไบรท์ตัน ชนะ เชลซี 4-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ไบรท์ตัน (3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, เปร์วิส เอสตูปินญาน - ซอลลี่ มาร์ช, อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์, มอยเสส ไกเซโด้ - คาโอรุ มิโตมะ (ทาริค แลมพ์ตีย์ น.73), อดัม ลัลลาน่า, ปาสกาล โกรสส์ - เลอันโดร ทรอสซาร์ (เฌเรมี่ ซาร์เมนโต้ น.87)
เชลซี (3-4-2-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า (เอดูอาร์ เมนดี้ น.46) - เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรย่า (มาร์ค กูกูเรย่า น.64) - คอนนอร์ กัลลาเกอร์ (ฮาคิม ซีเยค น.79), รูเบน ลอฟตัส ชีค, มาเตโอ โควาซิช, ราฮีม สเตอร์ลิง (ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง น.63) - เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช (อาร์มันโด้ โบรย่า น.79) - ไค ฮาแวร์ตซ์