การทำงานของ เอริค เทน ฮาก กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่สองต้องบอกว่ามีแต่เรื่องน่าผิดหวัง เพราะกุนซือชาวดัตช์สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำสำหรับสาวก "เร้ด อาร์มี่" เอาไว้เยอะแยะมากมาย และแน่นอนว่าซีซั่น 2023/2024 เป็นสิ่งที่แฟนผีโปรเจกต์อยากลืมไปให้เร็วที่สุด
เทน ฮาก สร้างแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการนำทีมคว้าแชมป์คาราบาว คัพ และจบอันดับ 3 คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งๆ ที่เพิ่งกุมบังเหียน "ผีแดง" ซีซั่นแรกเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร เพราะ แมนฯ ยูฯ ผลงานน่าผิดหวังทั้งในลีก และฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป โดยบทสรุปพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย แถมยังจบซีซั่นในอันดับ 8 ด้วย
สิ่งดีสิ่งเดียวที่ทำให้แฟนบอล "ผีแดง" ยังพอจะยืดอกได้บ้างก็คือการไม่แพ้ ลิเวอร์พูล และยังผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ ซึ่งต้องพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมือง โดย แมนฯ ยูฯ ต้องคว้าแชมป์ให้ได้เพื่อสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องมุ่งมั่นเกมฟุตบอลในประเทศอย่างเดียวเท่านั้น
สถิติของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในประเทศและฟุตบอลถ้วยยุโรปประจำ ฤดูกาล 2023/2024
-1 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยผลต่างประตูได้เสียติดลบซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทีมเคยจบซีซั่นด้วยสถานะแบบนี้ (-1) ในลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาล 1989/1990 ยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังกุมบังเหียน
1 : การบุกชนะ 1-0 และถล่ม 4-0 ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค ทำให้ คริสตัล พาเลซ สร้างสถิติเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเยือนและเหย้าเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
2 : อันโตนี่ ซึ่งย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร (ราว 3,900 ล้านบาท) เมื่อซัมเมอร์ปี 2022 มีส่วนในการทำ 2 ประตู (ยิง 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์) ในเกมพรีเมียร์ลีกตลอดทั้งฤดูกาลนี้
3 : แมนยู ชุดฤดูกาล 2023/2024 เป็นทีมที่โดนคู่แข่งยิงใส่มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หากนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ด้วยจำนวน 660 ครั้ง
8 : การจบอันดับ 8 เป็นอันดับที่แย่ที่สุดของสโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก และนั่นทำให้ เดวิด มอยส์ ลอยตัวเรียบร้อยเพราะตอนที่เขาคุม "ผีแดง" ทีมจบอันดับ 7 เมื่อฤดูกาล 2013/2014
9 : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 9 เกมในทุกรายการฤดูกาลนี้ โดยเป็นสถิติแพ้คาบ้านในซีซั่นเดียวเทียบเท่ากับฤดูกาล 1920/1921, 1930/1931, 1933/1934, 1962/1963 และ 1973/1974
10 : บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ช่วยกันยิงคนละ 10 ประตูในลีกซีซั่นนี้ ซึ่งน้อยเหลือเกินแต่ทั้งคู่เป็นดาวซัลโวประจำทีมในฤดูกาลนี้
14 : แมนยู สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำนั่นก็คือการแพ้ 14 เกมลีกเยอะที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก
14 : ฮอยลุนด์ ยิงประตูในเกมพรีเมียร์ลีกไม่ได้เลยหลังลงเล่นให้ แมนฯ ยูฯ 14 นัด โดยสามารถปลดล็อคได้ในเกมที่ชนะ แอสตัน วิลล่า ช่วงบ็อกซิ่งเดย์
15 : แมนยู เสีย 15 ประตูจากการลงเล่น 6 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมากที่สุดจากบรรดาทีมในลีกเมืองผู้ดีที่ลงแข่งในรอบเดียวกันฤดูกาลนี้
19 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 19 เกมในทุกรายการมากที่สุดในรอบฤดูกาลเดียวนับตั้งแต่ปี 1977/1978
57 : ทัพ "ปีศาจแดง" ยิงได้ 57 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งแย่ที่สุดเป็นอันดับ 3 โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยยิงได้ 49 ประตูในฤดูกาล 2015/2016 และ 54 ประตูในซีซั่น 2016/2017 แถมยังเคยยิงได้ 57 ประตูมาแล้วในฤดูกาล 2021/2022
58 : เจ้าของแชมป์ลีก 20 สมัย เสียประตูในการเล่นเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมากกว่าฤดูกาลอื่นๆ ในยุคพรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเสีย 57 ประตูในฤดูกาล 2021/2022
360 : ทีมของเอริค เทน ฮาก ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสได้ยิงถึง 360 ครั้งในปี 2024 มากกว่าทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งรวมถึง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยซะด้วย
1027 : ฮอยลุนด์ ต้องรอคอยถึง 1,027 นาที กว่าจะยิงประตูแรกในลีกให้ แมนฯ ยูฯ เกมที่เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2 วันที่ 26 ธันวาคม 2023
1930 : แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ 5 จาก 10 เกมแรกในบ้านรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของพวกเขากับการเล่นในถิ่นของตัวเองนับตั้งแต่ฤดูกาล 1930/1931
1978 : เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แมนฯ ยูฯ เสียสามประตูหรือมากกว่านั้น 3 แมตช์ติดต่อกัน (พบ อาร์เซน่อล, ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และ บาเยิร์น มิวนิค) ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1978
1986 : เทน ฮาก โชว์เหนือชั้น ! ด้วยการนำต้นสังกัดแพ้ 5 นัดจาก 10 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลปัจจุบันซึ่งเป็นการพ่ายแพ้ที่มากที่สุดในช่วงเวลานี้ของลีก (10 เกม) นับตั้งแต่ซีซั่น1986/1987