สิ้นเสียงนกหวีดที่แอนฟิลด์ หลังจบเกมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ คือผ.จ.ก.ทีมในตำนานของลิเวอร์พูลไปแล้ว….
ภาพพิธีการอำลา คล็อปป์ หลังเกมทางช่อง 603 ทรู พรีเมียร์ฟุตบอล กลายเป็นอดีตอันสวยงามระหว่างเขากับแฟนบอลและสโมสรลิเวอร์พูล ท่ามกลางความตื้นตันใจของสาวกเดอะ ค็อป ทั่วโลก
JK พยายามทำให้การจากลาครั้งนี้ไม่มีความเศร้าหรือบรรยากาศแห่งความเซ็ง ด้วยการสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแทน
เป็นต้นว่าเปิดหมวก ก่อนวิ่งเหยาะๆ ผ่านแถวเกียรติยศ กลับมารอบที่สอง (เหมือนที่ดอร์ทมุนด์) หรือนำเชียร์ อาร์เน่อะ สล็อต ลา ลา ลา ….. โค้ชใหม่ของทีมโดยไม่ต้องกล่าวถึง แค่ใช้เสียงเพลงก็เป็นคำตอบแทนการสนับสนุนโค้ชใหม่
กระนั้น… 2 นักเตะคียแมนยุค เจเค คือ กัปตัน ฟานไดจ์ และ เทรนต์ น้ำตาไหลออกมาให้ชาวหงส์เห็น
ขั้นตอนพิธีการและการอำลาแฟนบอลอย่างเป็นทางการหมายถึงการขอบคุณและยกย่อง JK ในฐานะผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนความสงสัยให้เป็นความเชื่อ
สร้างความสุขให้เดอะ ค็อป ตลอด8 ปีกับ 7 เดือน ไม่ใช่แค่ถ้วยรางวัล หากแต่เป็นฟุตบอลที่เล่นออกมาแล้วสนุก ตื่นเต้น ตะลุยไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง
ความสุขนี้นั้นเดอะ ค็อป สัมผัสได้อย่างเต็มหัวใจ
หลังจากรอคอยมานานถึง30 ปี!
ถ้าจะถามว่าอะไรที่ทำให้เขาเป็นโค้ชที่ก้าวเข้าไปอยู่ในใจแฟนหงส์
ผมคิดว่า…น่าจะมีเหตุผลเดียว นั่นคือตัวตนของคล็อปป์
จากนักเตะลีกาสอง ที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร เขาก้าวรับงานโค้ชทีมไมนส์ 05 ด้วยต้นทุนฟุตบอลที่มีเพียงเล็กน้อยหรือแทบจะบอกว่าไม่มีเลย จนสร้างชื่อให้กับตัวเองกับดอร์ทมุนด์ ก่อนกลายเป็นโค้ชระดับโลกที่ชาวเดอะ ค็อปภาคภูมิใจ
คล็อปป์ อาจจะมีบุคลิกภาพหรือแคแรกเตอร์ ต่างจากยอดโค้ชมากบารมีของเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็น ฟร้านส์ เบคเคนบาวเออร์ ผู้ล่วงลับ, จุปป์ ไฮย์เกส, ออตมาร์ ฮิทช์เฟลด์, เฟลิกส์ มากัธ.... ไม่ใช้โค้ชที่มุ่งมั่นกับความซับซ้อนในเชิงแทกติกเหมือน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือสะสมถ้วยรางวัลมากมายอย่าง คาร์โล อันเชลอตติ
แต่เขากลับสามารถสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่นในนาม "คล็อปป์" ได้อย่างน่าทึ่งเหลือเกิน
ถ้าเรายกให้ คล็อปป์ คือ แบรนด์โค้ชฟุตบอลอีกแบรนด์หนึ่ง
Klopp brand หรือยี่ห้อคล็อปป์ มาจากไหน เกิดขึ้นได้ไง
คำตอบง่ายมาก ….
"คนธรรมดา" ที่ไม่ธรรมดา
ด้วยตัวของ เจเค พูดภาษาเดียวกันกับชาวบ้าน คนทั่วไป เป็นโค้ชที่ไม่ชอบสวมสูท เราเห็นเขาแต่ชุดวอร์ม รองเท้าผ้าใบ, กางเกงวอร์ม, เสื้อวอร์ม และหมวกหนึ่งใบ อันเป็นเอกลักษณ์ ที่เขาคือโค้ชบอล หาใช่ ผู้จัดการมาดเทห์แต่อย่างไรไม่
การแสดงออกของเขาไม่มีที่สิ้นสุด แอกชั่น ลีลา ข้างสนาม การให้สัมภาษณ์ตรงไปตรงมา เหมือนเขาอยู่ที่บ้านเป็นไง ที่ม้านั่งสำรองก็เป็นเช่นนั้น สีหน้า ท่าทาง ทรงผม การวางตัว และการที่เขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่เฟค ไม่เสแสร้ง ทำให้ชื่อของเขามีพลัง
คำพูดคำจาของเขานั้น ถูกทำให้เห็นในทางปฏิบัติ และการพูดภาษาโค้ชของเขา เป็นไปง่ายๆ ไม่ต้องสร้างหรือประดิษฐ์ถ้อยคำอะไร ที่สำคัญคนไม่เป็นโปร ไลเซนส์ คนธรรมดาเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดได้เลย
อีกทั้งตัวเขาเหมาะกับสโมสรที่เขาไปทำงานด้วย เพราะ "แบรนด์" นั้นสอดคล้องกันจากดอร์ทมุนด์ มาถึงลิเวอร์พูล ที่ดอร์ทมุนด์ นั้นมีลักษณะของสโมสรเป็นแบบ "เพื่อนสนิท" เป็นมิตรภาพ ซึ่ง คล็อปป์ เองก็เป็นคนแบบนั้น
ที่ลิเวอร์พูลเป็นบรรยากาศของครอบครัว เขาเองก็เหมาะกับการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลิเวอร์พูล ไม่ใช่หมายถึงสโมสรอย่างเดียวแต่มันรวมไปถึงผู้คนทั้งสองเมืองอีกด้วย เมืองที่เปี่ยมด้วยมิตรภาพ, มีความรัก ความอบอุ่น ทีมบอลเหมือนเป็นบ้านของพวกเขา
บางทีเราอาจบอกได้ว่าเขาคือ ตัวแทนลิเวอร์พูล ไม่ใช่แค่ในฐานะโค้ช แต่เป็นตัวแทนของสโมสร ในแบบฉบับของคนง่ายๆ เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ทำตัวสบายๆ แต่จริงจังเมื่อต้องการสาระและการถกประเด็นกับทุกคน
มันแมตช์เข้ากันพอดี
ถ้าหากทีมเลือกคุณค่าอย่างอื่นๆ เช่น เลือก "ค่าของความสำเร็จ" ไปติดต่อเอาผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ผ่านความสำเร็จมาแล้ว ทีมก็อาจล้มเหลวในเป้าหมายหรืออาจได้ถ้วยรางวัล แต่ "คุณค่า" เหล่านี้อาจไม่มีเกิดขึ้นก็ได้
หากคุณไปถามคนที่ร่วมงานกับ คล็อปป์ ว่าเป็นไง ทุกคนจะตอบว่า "เขายิ้มปากกว้าง มีคำตอบที่ชัดเจน" นอกจากการสื่อสารทั้งคำพูดแล้ว ภาษากาย จังหวะดีใจทีมชนะได้สามคะแนน การเล่นที่ยอดเยี่ยม อาการดีใจแบบสุดเหวี่ยงของเขา หรือการเป็นสุภาพบุรุษ ผู้นำครอบครัวที่เชื่อฟังภรรยา ทำให้ได้ใจแฟนบอลกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น
ในมุมมองนักการตลาดและแบรนด์ เคยวิเคราะห์มาก่อนหน้านี้แล้วว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ เหมาะสมกับสโมสรที่เขาไปทำงานด้วย เพราะบุคลิกของเขากับทีมนั้นตรงหรือสอดคล้องกัน
นั่นอาจเป็นเพราะตัวเขาเองก็วิเคราะห์แล้วว่าเขาเหมาะกับสโมสรไหนและเข้ากันได้ดีกับทีมแบบไหน
โดยเฉพาะเรื่องทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความรู้สึกในการเป็นครอบครัวเดียวกัน
สโมสรและแฟนบอลจึงมีส่วนร่วมในความโรแมนติก , แรงขับทางวัฒนธรรมฟุตบอลด้วยความรู้สึก เติมเต็มโดยการอุทิศตัวเองเพื่อทีมอย่างไม่มีสั่นคลอน เปี่ยมด้วยแพสชั่นล้นเหลือ จนนำสู่ความสำเร็จ
การแสดงความคิดของเขายิ่งชัดเจน
ง่ายแต่ได้ประโยชน์และมีคุณค่า
คล็อปป์ เคยพูดเอาไว้หลากหลายประโยคที่เป็นวรรคทอง เช่น…
“ผมไม่ใช่คนเก่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลก แต่ผมทำให้คนมีความสุขได้”
”ผมไม่ใช่โค้ชที่เก่งที่สุด แต่ผมสามารถทำฟุตบอลให้ชนะโค้ชที่ดีที่สุดในโลกได้“
กระทั่งการอำลาแฟนหงส์อย่างเป็นทางการเมื่อค่ำคืนวันที่19 พ.ค. ที่ผ่านมา กับประโยคง่ายๆไม่กี่ประโยค แต่ซาบซึ้งกินใจ
“I’m one of you now. I love you to bits. On my jumper is ‘Thank you Luv’ and ‘I will never walk alone again’. Thank you for that! You are the best people in the world. Thank you!”
ผมคือคนของคุณแล้ว ผมรักพวกคุณมากมายเหลือเกิน (สำนวนคนอังกฤษlove you to bits) บนเสื้อ(กันหนาว)ตัวนี้ของผม คำว่า “ขอบคุณและรัก” รวมทั้ง ผมจะไม่มีวันเดินเดียวดาย ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ พวกคุณคือคนที่ดีที่สุดในโลก ขอบคุณครับ
เมื่ออยู่ให้เขารัก เมื่อพอจากยิ่งทำให้เขารักมากมายเหลือเกิน เจอร์เก้น คล็อปป์ คนธรรมดาโค้ชพิเศษในหัวใจเด็กหงส์
JACKIE