ศึกพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้าย เมื่อคืน มีความหมายหลายคู่ แต่ผมก็ต้องดูเกมของ แมนยู นี่แหละ เพื่อเอามาเล่าสู่กันฟัง (อ่าน) 5555
1. สงสัย เอริค เทน ฮาก จะติดใจจากนัดที่แล้วเลยจัดทีมโดยไม่มีกองหน้าตัวเป้าอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน
แถมยังให้ กาเซมิโร่ สวมบทเซ็นเตอร์แบ็คต่อไป ทั้งๆ ที่มี จอนนี่ อีแวนส์, วิลลี่ คัมบ์วาร่า และ ราฟาแอล วาราน ที่หายเจ็บกลับมา
2. ว่าแล้ว ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็ทำประตูได้ในฐานะตัวสำรองเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน
บางทีในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กุนซือปีศาจแดงอาจให้กองหน้าพันธุ์โคนมผู้นี้เป็นตัวสำรอง...ก็เป็นได้
เช่นเดียวกับ "คุณเกษมวิโรจน์" ที่อาจจะยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คต่อไป
ไม่เชื่อ...คอยดู !!!
3.เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นรองนะครับ
ไบรท์ตัน ครองบอลบุกมากกว่า และมีโอกาสทำประตูมากกว่า ขณะที่ทีมเยือนจวนเจียนจะถูกทำลายตาข่ายหลายจังหวะ แต่กลับรอดพ้นมาได้แบบไม่น่าเชื่อ
สุดท้ายด้วยความเด็ดขาดมากกว่าจึงช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นผู้ชนะแบบ "คลีนชีต" ซะด้วย
4.ประตูนำ 1-0 ได้มาจากการเล่นสไตล์ เทน ฮาก ชัดเจน คือวางบอลยาวตรงๆ จากแนวลึกให้ ดิโอโก้ ดาโลต์ แบ็คซ้ายที่อินเวิร์ตเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางสอดทะลุขึ้นไปยิงได้เฉยเลย
แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้มุกนี้มาหลายครั้ง หลายหน ก็เพิ่งจะมาได้ผลนี่แหละครับ 5555
5. เล่นกับ ไบรท์ตัน ก่อนนัดชิง เอฟเอ คัพ ถือว่าดีนะครับ เพราะลูกทีมของ โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ เป็นบอลคอนโทรลสไตล์เดียวกับ แมนฯ ซิตี้
ถือว่าได้ซ้อมรับมือกับรูปแบบการเล่นลักษณะนี้ไปในตัว แต่ที่แตกต่างคือทีมเรือใบสีฟ้าเปี่ยมประสิทธิภาพมากกว่า ไบร์ทตัน แบบคนละตีน
โบนัส แทร็ค: จบฤดูกาลด้วยอันดับ 8 ต่ำสุดในยุคพรีเมียร์ลีก แต่เล่นห่วยมากกว่าเล่นดีมาตลอดทั้งซีซั่น มันก็ถือว่า...ไม่เลวนะ
ที่สำคัญเหมือนทุบหม้อข้าวไปเลย คือถ้าไม่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ก็อดเล่นบอลยุโรปทุกรายการ
บอ.บู๋