เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เชื่อมั่นว่า ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าค่าตัวแพงระยับ จะโชว์ฟอร์มสุดยอดอย่างต่อเนื่อง หลังนักเตะปรับตัวกับชีวิตในถิ่นแอนฟิลด์ และเริ่มยิงประตูได้ตลอด
หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ซัดไปแล้ว 4 ประตูจากการลงเล่นตัวจริง 4 เกมหลังสุด โดยล่าสุดจัดการโขกประตูสุดงามช่วย "เดอะ เร้ดส์" ทุบ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ นูนเญซ โดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่คุ้มกับค่าตัวระดับสถิติสโมสร แถมยังมีพฤติกรรมไม่ดีเมื่อถูกใบแดงจากการใช้ศีรษะโขก โยอาคิม อันเดอร์เซ่น กองหลังคริสตัล พาเลซ
อย่างไรก็ตามหลังจากพ้นโทษแบน นูนเญซ เริ่มเล่นได้ดีขึ้นและมีส่วนช่วยทีมได้ประตูในหลายๆ เกม โดย คล็อปป์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับหัวหอกวัย 23 ปีว่า "แน่นอนว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญมากๆ แต่ปัญหาไม่ใช่ที่นักเตะต้องการเวลานานเป็นพิเศษในการปรับตัว หรืออะไรแบบนั้น แต่สถานการณ์ต่างๆ มันแตกต่างกันสำหรับนักเตะแต่ละคน"
"ดาร์วิน ย้ายมาที่นี่หลังจากช่วงพักสั้นๆ ตอนซัมเมอร์ แล้วก็เดินทางมาเอเชีย โดยที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยและก็ยังเป็นวัยรุ่น ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรใหญ่ มันเป็นก้าวที่สำคัญมากสำหรับเขา และเขามีค่าตัวแพง นั่นคือทั้งหมดที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นก็ลงเล่นเกมแรก และทุกๆ คนก็จับจ้องตลอด"
"มันเหมือนกับว่าทุกๆ ที่ช่างมืดมิด และมีแสงเดียวเท่านั้นซึ่งส่องไปที่คุณคนเดียว คุณต้องรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้ เราทุกคนคาดหวังว่าพวกเขาจะรับมือได้ทันทีกับเรื่องแบบนี้ แต่มันไม่เป็นแบบนั้น"
"ในช่วงเริ่มต้น เขาต้องพยายามที่จะทำทุกอย่างให้เหมาะสมแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับได้ทำหลายๆ อย่างที่ใหม่หมดในการฝึกซ้อม หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นได้ดีขึ้นในเกมพบ แมนฯ ซิตี้ โดยลงเล่นเป็นตัวสำรอง และยิงประตูสำคัญ (คอมมิวนิตี้ ชิลด์)"
"เกมต่อมาก็ยิงประตูในเกมกับ ฟูแล่ม และจากนั้นก็โดนใบแดง (เกมกับ คริสตัล พาเลซ) เขารู้สึกอับอายตัวเองที่ทำแบบนั้น แน่นอนว่าทุกๆ คนก็มีปฏิกิริยาแบบนั้นได้ หลังจากนั้นเขาก็ไม่มั่นใจเต็มร้อย การทำแบบนั้นมันไม่เจ๋งเลยซึ่งคุณโทษใครไม่ได้เพราะคุณทำตัวเอง"
"หลังจากนั้นคุณต้องเริ่มต้นใหม่ สำหรับหลายๆ สิ่งเหล่านี้ ตัวเลขของเขาน่าเหลือเชื่อมากๆ ถ้าคุณพูดเกี่ยวกับความมุ่งมั่น ผมมั่นใจว่าเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นสูงมากๆ เขาอาจจะพลาดโอกาสไปบ้าง แต่เขาก็ยิงประตูได้"
"เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับจังหวะจบสกอร์มากมาย เขากำลังมีย่างก้าวที่สำคัญมากๆ และมันก็เป็นเรื่องโดยอัตโนมัติที่เขาจะกลับตัวได้มากขึ้นเรื่อยๆ" อดีตนายใหญ่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ร่ายยาว