แมน ซิตี้ บุกไปหักคอ สเปอร์ส ถึงถิ่น 2-0 และนั่นหมายความว่า...หมายความว่า...หมายความว่า...โอ้ว...ไม่นะ...อีกแล้วเหรอ...เฮ่อออออ !!!
1. ก่อนอื่นขอบอกว่า สเปอร์ส เล่นได้ไฉไลเป็นบ้านะครับ
พวกเขาต่อบอลกันแม่นยำและรวดเร็ว ไม่เป็นรองผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้อย่าง แมนฯ ซิตี้ ด้วยซ้ำ รูปแบบการเล่นก็ชัดเจนในปรัชญาของผู้เป็นกุนซือพลางเปิดเกมรุกเข้าแลกแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
ว่าแล้วขอชื่นชมกับการยึดมั่นและหนักแน่นในสไตล์ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร และคู่แข่งจะเป็นใคร ลูกทีมของ 'น้าแอนจ์' จะเล่นตามแนวทางของตนเองแบบไม่มีบิดพริ้วจริงๆ
2. เท่าที่สังเกตเห็นวิธีการเล่นของ สเปอร์ส ในฤดูกาลนี้
พอจะสรุปได้ว่า แอนจ์ โปสเตโคกลู สอนสั่งให้ลูกทีมพยายามต่อบอล (แก่เพรสส์) ทุกจังหวะตั้งแต่ในแดนตัวเอง โดยห้ามเตะทิ้งเตะขว้างอย่างแน่นอน
แม้มันจะเสี่ยงมาก แถมบางครั้งจะเกิดความผิดพลาด เมื่อเสียบอลหรือถูกตัดจนเป็นเหตุให้ถูกจู่โจม หรือเสียประตู พวกคลับไก่ก็จะทำเหมือนเดิมแบบไม่สะทกสะท้าน
3. ใครไม่ได้ดู แล้วเห็นสกอร์ 2-0 บางทีอาจนึกว่า 'น้องไก่' สู้ไม่ได้
แต่จริงๆ ไม่ใช่นะครับ
สเปอร์ส สู้ได้เลยแหละ ไอ้ที่แพ้ เรียกว่า...แพ้จังหวะ แถมยังเป็นเกมที่อุดมด้วยคุณภาพของฟุตบอล เพราะสู้กันด้วยรูปแบบการเล่น เหลี่ยมเล่ห์ และกลยุทธ์ แถมดูสนุกอย่างวิเศษอีกตะหาก
มิซ้ำ เกมมันน่าจะคุณภาพมากกว่านี้ หากจังหวะนั้น ซน ฮึง มิน ไม่พลาด และจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1
4. เหมือนใครบางคนเขียนบทให้มันเป็นแบบนี้
มานูเอล อาคันยี่ กองหลังของ ซิตี้ พลาดจน 'ซน' หลุดเดี่ยว ก่อนดาวเตะกิมจิจะยิงไปติด สเตฟาน ออร์เตก้า นายทวารสำรองที่ลงมาแทน เอแดร์ซ่อน
และในจังหวะต่อเนื่องที่ แมนฯ ซิตี้ บุก สเปอร์ส ก็เสียจุดโทษ
อืมมมม...แทนที่จะตีเสมอเป็น 1-1 กลายเป็นโดนนำ 2-0 ซะอย่างนั้น
5. ตอน ซน ฮึง มิน หลุดเดี่ยว
เข้าใจว่าบรรดา เดอะ กูนเนอร์ส คงลุ้นสุดตัวมากกว่าแฟนบอลของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ หลายเท่า
คิดถึงจังหวะนี้แล้วก็เสียดายไม่หาย มันพลาดได้ยังไงวะ ???
คือถ้าซัดเข้าไปนี่ แมนฯ ซิตี้ ถึงขั้นบรรลัยเลยนะครับ
เรือใบสีฟ้านี่นอกจากจะเก่งแล้ว ดวงแข็งจริงๆ นะครับ นัดสุดท้ายเจอ เวสต์แฮม ในบ้านคงไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนทีมดวงแตกและไร้วาสนาอย่าง สเปอร์ส แพ้นัดนี้ทำให้อดไปเล่น แชมเปี้ยนส ลีก แน่นอนแล้ว
ทว่าอย่างน้อยในความปราชัยก็ยังมีเรื่องให้ยินดี
อาร์เซน่อล ไม่น่าจะได้แชมป์แล้วล่ะ
นี่แหละความสำเร็จของไก่เดือยทอง 55555
"บอ.บู๋"