ดูราน ขโมยซีนฉากจบ,หงส์สร้างสถิติ! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล โดน วิลล่า ตีเจ๊า

1. วิลล่า เปลี่ยนสองตำแหน่ง-มาร์ติเนซ เฝ้าเสา

แอสตัน วิลล่า ซึ่งกระเด็นตกรอบตัดเชือกถ้วย ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ไปหมาดๆปรับทัพตัวจริงรวมสองรายเมื่อเทียบกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่พวกเขาออกไปแพ้ ไบรท์ตัน 1-0

อูไน เอเมรี่ กุนซือทีม สิงห์ผงาด ได้นายทวารมือหนึ่ง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ หายเจ็บกลับมาเฝ้าตาข่ายได้ ส่งผลให้ โรบิน โอลเซ่น หล่นไปรับบทตัวสำรองตามเดิม

ส่วนอีกตำแหน่ง มอร์แกน โรเจอร์ส กองหน้ามีปัญหาบาดเจ็บจนหลุดไปจากโผ ขณะที่ ยูริ ตีเลอมันส์ ถูกเลือกลงบู๊แทน

กระนั้นก็ดี หากเทียบไลน์อัพจากเกมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ วิลล่า ออกไปแพ้ โอลิมเปียกอส 2-0 พวกเขาสลับโผตัวจริงรายเดียวเนื่องจากมือกาวทีมชาติ อาร์เจนติน่า ลงเล่นที่กรีซได้ก่อนแล้วโดย ตีเลอมันส์ ที่ฟิตสมบูรณ์ได้เสียบแทน แมตตี้ แคช ที่ไม่มีเอี่ยวในเกมนี้

2. หงส์ไร้ ร็อบโบ้-นูนเญซ สำรองตามเดิม

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เลือกใช้งานนักเตะชุดเดิมทั้งหมดจากเกมเปิดบ้านสยบ สเปอร์ส งดงาม 4-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมายกเว้นตำแหน่งแบ็คซ้ายจุดเดียว

เกมนี้ เร้ด แมชีน ไม่มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กองหลังทีมชาติ สกอตแลนด์ เดินทางมาด้วยเนื่องจากบาดเจ็บเล็กน้อยจนพลาดการลงซ้อม และเป็น โจ โกเมซ ที่ได้ลงเล่นแทนช่วงกลางครึ่งหลังเกมดวลกับ ไก่เดือยทอง ติดโผ 11 คนแรก

ด้าน ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย ซึ่งสร้างความน่าเคลือบแคลงด้วยการลบภาพในไอจีที่เกี่ยวกับสโมสรแทบเกลี้ยงหลังเกมชนะทีมจากลอนดอนยังถูกจับนั่งข้างสนามตามเดิม

3.สถิติใหม่บังเกิด

หลังจากเริ่มเขี่ยบอลไปได้แค่ 61 วินาที ลิเวอร์พูล  ก็นำหน้าอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 2 จากการก่อความผิดพลาดของ มาร์ติเนซ ที่ตะปบลูกโยนจากกราบขวาของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไม่อยู่ แถมทำบอลหลุดเข้าประตูตัวเองอีกต่างหาก

สำหรับประตูดังกล่าวของ หงส์แดง แม้จะไม่ใช่ประตูที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดในเกม พรีเมียร์ลีก ของสโมสรเนื่องจาก นาบี้ เกอิต้า เคยใช้เวลาแค่ 15 วินาทีสอยตาข่าย ฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2019 แต่ทีมจาก แอนฟิลด์ สามารถสร้างสถิติได้เช่นกัน

นั่นคือพวกเขาได้ประตูจากการทำบอลตุงตาข่ายตัวเองของฝ่ายคู่แข่งมากที่สุดในทุกรายการของซีซั่นนี้เป็น 8 ประตูแล้ว แถมหากนับเฉพาะเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ มันก็เป็นสถิติสูงสุดเช่นกันเนื่องจากเป็นประตูที่ 6 ที่คู่แข่งสงเคราะห์ให้กับ หงส์แดง

ด้าน วิลล่า ยิงประตูตัวเองในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เป็นเม็ดที่ 4 แล้วซึ่งเป็นผลงานที่แย่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก เชฟฯ ยูไนเต็ด ที่สกัดบอลตุงตาข่ายตัวเองในซีซั่นนี้มากถึง 7 เม็ด

สำหรับนายทวารแชมป์โลก ถึงตอนนี้เขาทำบอลเข้าประตูตัวเองเป็นหนที่สามแล้วในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของผู้รักษาประตูนับตั้งแต่มีการสถาปนาลีกในซีซั่น 1992/93 โดยก่อนหน้านี้มีมือกาว 11 รายที่ทำบอลตุงตาข่ายตัวเองสองหนโดยการเสียประตูตั้งแต่วินาที่ 61 ของสตาร์เลือดฟ้าขาวเป็นรองสถิติของ อันโตลิน อัลการาซ ที่สกัดบอลตุงตาข่ายตัวเองในเวลาแค่ 54 วินาทีในเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ต่อกรกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนเม.ย.2014

4. วัตกิ้นส์ ควง กัคโป เฉิดฉาย

หลังเสียประตูเร็ว สิงห์ผงาด ตีเสมอ เร้ด แมชีน จนได้ในนาทีที่ 12 จากจังหวะตะบันของ ตีเลอมันส์ โดยเป็น โอลลี่ วัตกิ้นส์ ที่จ่ายบอลมาให้

จากผลงานดังกล่าวของกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งเล่นต่อหน้า แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ ที่เข้ามาดูเกมนี้ในสนามมีการระบุว่าเป็นแอสซิสต์ที่ 13 ในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ของ วัตกินส์ แล้วซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในลีก

ขณะเดียวกัน มีแค่ แอชลีย์ ยัง อดีตปีกทีม วิลล่า เท่านั้นที่จัดแอสซิสต์ในเกม พรีเมียร์ลีก ต่อหนึ่งซีซั่นให้ สิงห์ผงาด ได้มากกว่าเขา 14 ประตูในซีซั่น 2007/08

ไม่ต่างอะไรกับ วัตกิ้นส์ สำหรับ โคดี้ กัคโป หัวหอก หงส์แดง ซึ่งซัดให้ทีมเยือนนำหน้าอีกหน 2-1 ในนาทีที่ 23 ซึ่งเป็นประตูที่ 16 ของดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ ในซีซั่นนี้แล้ว

จากผลงานดังกล่าวของ กัคโป ทำให้เขารั้งอันดับสามดาวซัลโวของสโมสรในซีซั่นนี้รองจาก โม ซาลาห์ 25 ประตู และ นูนเญซ 19 ประตูซึ่งแสดงให้เห็นว่าสตาร์ดัตช์อยู่ในช่วงมีผลงานคลำเป้าที่จัดจ้านไม่เป็นรองใคร

5. ดูราน ขโมยซีนเหลือเชื่อ

แม้ ลิเวอร์พูล จะรักษาสถิติไม่แพ้เกม พรีเมียร์ลีก ได้ต่อไปเป็นนัดที่ 137 หากนำคู่แข่งก่อนในครึ่งแรก (ชนะ 124 เสมอ 13) นับตั้งแต่เกมปะทะกับ บอร์นมัธ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2016 แต่การนำหน้า วิลล่า 3-1 แล้วโดนแบ่งแต้มบ่งบอกให้เห็นว่า คล็อปป์ อาจเริ่มเปลี่ยนตัวสำรองผิดพลาดมากขึ้นในระยะหลังเนื่องจาก หงส์แดง เสียประตูมากกว่าสองเม็ดขึ้นไปในเกม พรีเมียร์ลีก สี่นัดติดต่อกันแล้วซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับสโมสรนับตั้งแต่ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.2014

แพ้ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน)

เสมอ เวสต์แฮม 2-2 (เยือน)

ชนะ สเปอร์ส 4-2 (เหย้า)

เสมอ แอสตัน วิลล่า 3-3 (เยือน)

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล พลาดท่าคว้าชัยเกม พรีเมียร์ลีก ไม่สำเร็จเป็นครั้งที่สองทั้งๆที่นำหน้าคู่แข่งสองเม็ดขึ้นไปนานถึง 84 นาทีเช่นเดียวกับเกมเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 เมื่อเดือนส.ค.2000 หลังจากเกมนี้พวกเขาเสียสองประตูให้ วิลล่า ในนาทีที่ 85 และ 88

ในทางกลับกัน วิลล่า ไม่เคยพลิกนรกได้แบบนี้มาก่อนหากตกเป็นรองสองประตูในช่วงห้านาทีสุดท้ายแล้วโกงความตายได้สำเร็จซึ่งเท่ากับว่ามันเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ฉะนั้นแล้ว เอเมรี่ จึงสมควรได้รับความดีความชอบที่เปลี่ยนตัวสำรองจนทำให้ทีมพลิกสถานการณ์ได้สองประตูสำคัญแบ่งแต้มจากทีมเยือนได้อย่างน่าทึ่งหลังจาก  ดูราน ใช้เวลาแค่สิบนาทีที่ได้ลงเล่นโดยยังไม่นับรวมช่วงทดเวลากดคนเดียวสองประตูพาทีมแบ่งแต้มได้

อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่าบางทีกองหน้าทีมชาติ โคลอมเบีย อาจไม่ได้ลงสนามด้วยซ้ำหาก นิโกโล่ ซานิโอโล่ ซึ่งลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงครึ่งหลังจะไม่บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว แถมจะว่าไปประตูที่สองของดาวเตะละตินน่าจะเป็นเรื่องของความเฮงด้วยเนื่องจากเจ้าตัววิ่งไปชนบอลด้วยเข่าเข้าประตูชนิดที่ อลิสซง ไม่ต้องเซฟ

หลังสอยตาข่ายได้สองเม็ด หัวหอกวัย 20 ปีจึงเป็นขุนพล สิงห์ผงาด รายที่สี่ที่ตะบันได้สองตุงในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเดียวกันภายใต้บทบาทตัวสำรองถัดจาก ดไวท์ ยอร์ค (ลิเวอร์พูล ปี 1994) , จูเลี่ยน โจอาชิม (ดาร์บี้ ปี 2000) และ เทรเซเกต์ (ฟูแล่ม ปี 2021)