ถึงแม้หลายคนจะชอบพูดกันว่า "ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ในเกมดาร์บี้แมตช์" แต่คงมีไม่กี่คนที่จะคาดคิดว่า ลิเวอร์พูล จะแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 เมื่อวันพุธที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
นอกจากจะแพ้ในด้านสกอร์แล้วนั้น รูปเกมของ ลิเวอร์พูล ในนัดนี้ก็ถือว่าน่าผิดหวังพอตัวเหมือนกัน และเราก็จะมาพูดถึงเกร็ดจากเกมเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ หนล่าสุดกันสักหน่อย
- สกอร์ที่คุ้นเคย
ด้วยความที่ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ เอฟเวอร์ตัน มักจะไม่รอดเมื่อถึงเกมที่ต้องเจอกับ "หงส์แดง" ต่อให้จะได้เล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม แต่นัดล่าสุดก็ถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2010 ที่พวกเขาสามารถเอาชนะคู่อริร่วมเมืองที่ กูดิสัน พาร์ค ได้เลย
ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน ไม่ชนะ ลิเวอร์พูล กับการเล่นเกมดาร์บี้แมตช์ที่บ้านของตัวเองมา 12 เกมรวด ประกอบด้วยการเสมอ 9 หนกับแพ้ 3 นัด ซึ่งเหมือนเรื่องบังเอิญที่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเก็บ 3 แต้มต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองในการเจอกับ ลิเวอร์พูล ได้นั้น มันก็มาจากสกอร์ 2-0 เหมือนกัน
- คนที่ 2
การที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2015 ทำให้เขามีโอกาสได้เจอกับกุนซือหลายคนที่คุม เอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ตาม นอกจาก ฌอน ไดช์ แล้วนั้น มันก็มีอีกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พา เอฟเวอร์ตัน คว่ำ ลิเวอร์พูล ในยุคของ คล็อปป์ ได้ นั่นคือ คาร์โล อันเชล็อตติ โดยที่แตกต่างกันก็คือ อันเชล็อตติ ทำได้จากการนำ เอฟเวอร์ตัน บุกไปชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ได้ถึง แอนฟิลด์ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021
- ประสบการณ์ที่ห่างเหินมานาน
เชื่อหรือไม่ว่านี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2013 เลยทีเดียวที่ เอฟเวอร์ตัน สามารถขึ้นนำ ลิเวอร์พูล กับการลงเล่นในลีกไปก่อนได้ เพียงแต่ครั้งนั้นสกอร์มันจบลงด้วยการเสมอกัน 3-3
- แก้ไม่ตก
แม้ว่าที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จะมีผลงานโดยรวมที่ดีจนทำให้เกาะอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ลีกได้เป็นเวลานาน แต่ที่จริงพวกเขามีปัญหาเรื่องเกมรับพอตัวจนถึงขนาดที่ว่าเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ถือเป็นนัดที่ 15 ในฤดูกาลนี้เข้าไปแล้วที่พวกเขาตามหลังคู่แข่งไปก่อน 0-1 กับการเล่นใน พรีเมียร์ลีก
ทั้งนี้ ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ มันมีเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้นที่ ลิเวอร์พูล เคยตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งในลีกบ่อยกว่าซีซั่นนี้ นั่นคือฤดูกาล 2022-23 โดยซีซั่นที่แล้วมันเกิดสถานการณ์แบบนั้น 16 ครั้ง นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะทาบผลงานอันเลวร้ายแบบนั้น หรือทำให้มันแย่กว่านั้นได้ในซีซั่นสุดท้ายของ คล็อปป์ กับทีม เพราะฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ยังเหลือโปรแกรมในลีกอีก 4 นัด
- เด็กเกร็ดบอล -