ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในช่วง 4 เกมหลังสุดในทุกรายการค่อนข้างกระท่อนกระแท่นเลยทีเดียว โดยพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ที่สำคัญการลุ้นแชมป์ก็เหลืออีกแค่ถ้วยเดียวนั่นก็คือพรีเมียร์ลีก ซึ่งค่อนข้างยากพอสมควร เพราะพวกเขาต้องเก็บชัยชนะ 6 เกมสุดท้ายให้ได้ทั้งหมด และลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล สะดุดด้วย
การตกรอบ เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นั่นทำให้ตอนนี้ "หงส์แดง" เหลือลุ้นแชมป์แค่พรีเมียร์ลีกเท่านั้น หลังพวกเขาได้โทรฟี่มาประดับตู้โชว์ในถิ่นแอนฟิลด์ไปแล้วใบเดียวนั่นก็คือ คาราบาว คัพ แต่กระนั้นการจะได้แชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี พวกเขาต้องใช้ทั้งศักยภาพและเทพีแห่งโชคที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง
เจอร์เก้น คล็อปป์ พยายามกระตุ้นลูกทีมให้มองในแง่บวกสำหรับการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการเก็บชัยชนะทั้ง 6 เกมให้ได้ แต่จากฟอร์มปัจจุบันดูเหมือนว่าอะไรหลายๆ อย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ "บอส" ต้องการ ซึ่งเห็นได้ชัดจากผลงาน 4 เกมล่าสุดในทุกรายการที่แพ้ 2 เสมอ 1 และชนะเกมเดียว แถมเก็บคลีนชีตได้ 1 แมตช์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามอะไรก็มักจะเกิดขึ้นได้กับฟุตบอลลูกกลมๆ และถ้า คล็อปป์ แอนด์ โค. ต้องการเก็บชัยชนะในเกมลีกที่เหลืออยู่ให้ได้หมด พวกเขาจำเป็นต้องทำ 5 สิ่งสำคัญนี้ให้ได้ และจากนั้นก็ไปลุ้นให้ แมนซิตี้ กับ อาร์เซน่อล ตกม้าตายเท่านั้น
1. จบสกอร์ให้เฉียบคม !
ตลอดสี่เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสในการยิงประตูได้ถึง 78 ครั้งแต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่สามลูกเท่านั้นแถมสองลูกมาจากจุดโทษ ! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาพลาดโอกาสสำคัญไปถึง 14 ครั้ง ต้องบอกเลยว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมากๆ สำหรับช่วงเวลาในการลุ้นแชป์แบบนี้
ถ้าหากจะมองในแง่บอกอย่างน้อย "หงส์แดง" ก็เป็นทีมที่สร้างโอกาสได้เยอะมาก แต่ก็อย่างที่ทุกๆ คนเห็นมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลยเพราะทีมไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นให้เป็นประตู แถมยิ่งทำให้ทีมขาดความมั่นใจเข้าไปอีก
แน่นอนว่า คล็อปป์ ต้องช่วยกระตุ้นบรรดาแนวรุกให้กลับมาระเบิดฟอร์มเฉียบคมอีกครั้ง เพราะเรื่องการสร้างโอกาส ลิเวอร์พูล ยังคงทำได้ดีเยี่ยมเสมอ ขาดแค่ความเฉียบคมเท่านั้น ซึ่งถ้าหาก "บอส" สามารถปลุกจิตวิญญาณเพชฌฆาตของนักเตะทุกคนกลับคืนมา มันจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นของทีมกลับมาอีกครั้ง
2. เก็บคลีนชีตให้ได้ทุกเกม
หนึ่งในเรื่องดีๆ สำหรับแมตช์บุกชนะ อตาลันต้า เมื่อวันพฤหัสบดีก็คือการที่ทีมไม่เสียประตู ซึ่งนั่นเป็นแมตช์แรกนับตั้งแต่เกมที่ออกไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นอีกปัจจัยสำคัญถ้าหากทีมอยากจะได้ลุ้นแชมป์ลีกไปจนถึงจบซีซั่น
ช่วงหลายเกมที่ผ่านมา "เดอะ เร้ดส์" มักจะเสียท่าให้กับคู่แข่งก่อนเป็นประจำ บางแมตช์โดนยิงนำตั้งแต่ไก่โห่ก็มีนั่นหมายความว่าแนวรุกจะต้องยิงประตูให้ได้อย่างน้อยสองลูก ซึ่งถือเป็นการเพิ่มภาระให้กับทีมโดยเฉพาะในช่วงที่พวกเขากำลังฟอร์มฝืดสุดๆ
ถ้าหาก ลิเวอร์พูล สามารถกลับมารักษาฟอร์มการเล่นเกมรับให้แข็งแกร่งได้อีกครั้ง มันจะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมากกับตำแหน่งอื่นๆ และเป็นการกระตุ้นให้เกมรุกมีความมั่นใจเพื่อสร้างโอกาสที่จะพิฆาตคู่แข่ง มากกว่าที่จะต้องเสียพลังงานไปกับการไล่ตีเสมอ และเร่งเครื่องยิงประตูแซง
3. ใช้ขุมกำลังทุกคนให้เต็มที่
ความเหนื่อยล้า และสภาพร่างกายที่เมื่อยล้าเป็นสิ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับปัญหาใหญ่มากๆ แถมอาการบาดเจ็บยังส่งผลกระทบในทุกๆ เกมของพวกเขาด้วย อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ถือว่าโชคดีพอสมควรเพราะขุมกำลังหลายคนหายเจ็บ และกลับมาช่วยทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นพอดี
นายใหญ่ชาวเยอรมัน มีตัวเลือกมากขึ้น และถือเวลาที่เขาจะต้องใช้ผู้เล่นเหล่านั้น ดีโอโก้ โชต้า กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เป็นสองออปชั่นที่สามารถลงมาสร้างความแตกต่างในแนวรุกของทีม ขณะที่ เจย์เดน แดนน์ส ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในแดนหน้าเช่นกัน
ไรอัน กราเฟนแบร์ก อาจจะยังไม่ได้ทำให้ คล็อปป์ เชื่อมั่นมากนัก แต่ทุกครั้งที่เขาถูกส่งลงสนามก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมรุกได้เช่นกัน ดังนั้นการใช้ขุมกำลังที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะช่วยทำให้นักเตะ "หงส์แดง" ไม่กรอบจนเกินไป และสามารถยืนระยะลุ้นแชมป์ลีกไปจนถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน
4. เล่นเกมเยือนให้เหมือนเกมเหย้า
สิ่งที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รู้สึกหวาดหวั่นก็คือการที่พวกเขาต้องออกไปเล่นเกมเยือน 4 แมตช์จาก 6 เกมที่เหลืออยู่ โดยแต่ละแมตช์ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ทั้งปะทะ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม, "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน, "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า
การต้องลงเล่นสามเกมเยือนติดต่อกันภายใน 7 วันเป็นอะไรที่โหดมากๆ และถ้าพวกเขาสามารถผ่านจุดนี้ไปได้ในแมตช์ต่อไปที่ต้องรับมือ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันที่ 5 พฤษภาคม ทีมจะเต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่
มีเพียง อาร์เซน่อล (เก็บได้ 33 คะแนน) และ แมนซิตี้ (เก็บได้ 32 คะแนน) ที่ผลงานเหนือกว่า ลิเวอร์พูล ในการออกไปเล่นเป็นทีมเยือนเกมลีกฤดูกาลนี้ โดย "เดอะ เร้ดส์" (เก็บได้ 29 คะแนน) ยังมีจุดเด่นก็คือพวกเขาเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในแมตช์ที่ออกไปเล่นนอกแอนฟิลด์
ดังนั้นสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำก็คือพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุดในการเล่นเกมเยือน เพราะถ้าทำได้นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลยทีเดียว
5. ทำ 6 เกมสุดท้ายแห่งความทรงจำ
มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายที่จะมองในแง่ลบจากการที่ทีมตกรอบ เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก แต่อย่าลืมว่าก่อนหน้าที่ ลิเวอร์พูล มาได้ไกลขนาดนี้ เป็นเพราะชายชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดังนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" ต้องจดจำเอาไว้ว่ามหาบุรุษคนนี้เป็นคนทำให้ทีมมีลุ้น 4 แชมป์แม้สุดท้ายจะเหลือลุ้น 2 รายการก็ตาม
สำหรับตอนนี้เป้าหมายของ "หงส์แดง" ก็คือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ และมันมีความสำคัญกับทีมรวมทั้งแฟนบอล เพราะนี่คือโทรฟี่ที่สาวก "เดอะ ค็อป" ปรารถนาที่สุด และอยากจะเฉลิมฉลองให้เต็มคราบ เนื่องจากก่อนหน้าที่ไม่มีโอกาสเพราะดันติดสถานการณ์โควิด
ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ ลิเวอร์พูล อยากที่จะสร้างความทรงจำสุดท้ายของพวกเขากับ คล็อปป์ เพราะนี่คือ 6 แมตช์สุดท้ายของเขาที่จะทำหน้าที่กุมบังเหียนสโมสร และไม่ว่าบทสรุปสุดท้ายมันจะออกมาเป็นแบบนั้น แต่ทุกคนต้องการทำให้มันเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อ "บอส" ของพวกเขา
ทอมเม้ง