การพ่าย พาเลซ ในนัดล่าสุด มันมีสถิติอันน่าผิดหวังหลายอย่างเกิดขึ้นกับฝั่ง ลิเวอร์พูล ด้วย ไม่ว่าจะทั้งในด้านเกมรับหรือเกมรุก
ลิเวอร์พูล สร้างสถิติที่เลวร้ายหลายอย่าง หลังจากล่าสุดแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1 คารัง แอนฟิลด์ ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตยืที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา
"หงส์แดง" หมายมั่นปั้นมือที่จะแก้ตัวให้ได้หลังจากวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเพิ่งพ่าย อตาลันต้า 0-3 คาบ้านในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก แต่สุดท้ายพวกเขากลับทำให้พลพรรค เดอะ ค็อป ต้องซึมเป็นนัดที่ 2 ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน
ผลงานจากนัดล่าสุดทำให้ ลิเวอร์พูล แพ้คาบ้านกับการลงเล่นทุกรายการเป็นจำนวน 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2021 โดยหนนั้นพวกเขาเคยแพ้ที่บ้านของตัวเอง 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการ ภายในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปี 2021
ขณะเดียวกัน นี่ยังถือเป็นเกมลีกนัดที่ 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล เสียประตูให้คู่แข่งไปก่อน (หมายถึงการตามหลัง 0-1) กับการเล่นที่ แอนฟิลด์ ด้วย และพวกเขาก็เก็บคลีนชีทในลีกกับการเล่นใน แอนฟิลด์ ไม่สำเร็จถึง 9 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว ทำให้นี่นับเป็นการทาบสถิติการเสียประตูกับการเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ในบ้านติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เทียบเท่ากับตอนปี 1996 และ 1999 เลยทีเดียว
อีกด้านหนึ่ง นี่ก็ถือเป็นเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล ทำประตูไม่สำเร็จทั้งที่มี ค่าเฉลี่ยการน่าจะทำประตูได้ (Expected Goals หรือจังหวะยิงที่ดีจนน่าจะเป็นประตู) สูงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 ด้วย เพราะในเกมกับ พาเลซ พวกเขามี ค่าเฉลี่ยการน่าจะทำประตูได้ สูงถึง 2.87 ลูก และถ้านับรวมของทีมอื่นๆ เข้าไปด้วยแล้วนั้น นี่ก็ถือเป็นเกม พรีเมียร์ลีก ที่มีทีมใดทีมหนึ่งทำประตูใส่คู่แข่งไม่ได้ทั้งที่มี ค่าเฉลี่ยการน่าจะทำประตูได้ สูงที่สุดนับตั้งแต่เกมระหว่าง ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน กับ นอริช ซิตี้ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 โดยตอนนั้น ไบรท์ตันฯ ก็มี ค่าเฉลี่ยการน่าจะทำประตูได้ อยู่ที่ 2.87 ลูกเช่นกัน ก่อนที่เกมจะจบด้วยการเสมอกัน 0-0