อเล็กซานเดอร์ อิซัค ของแทร่-อปป้าซนโชว์ฟอร์มไม่ออกต้องรอทำสถิติต่อไป เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจจากเกม นิวคาสเซิ่ล ถล่ม สเปอร์ส ทำให้การแย่งชิงอันดับ 4 มันส์ขึ้นไปอีก
เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นำทัพ "สาลิกาดง" เปิดรัง เซนต์ เจมส์ พาร์ค ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขาดลอย 4-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 13 เมษายน
จากชัยชนะที่สวยงามของ นิวคาสเซิ่ล มี 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. เจ้าถิ่นสุดคึก
แม้จะมีนักเตะบาดเจ็บหลายรายโดยเฉพาะในแนวรับ แต่ นิวคาสเซิ่ล ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเล่นได้อย่างคึกคักมีชีวิตชีวาตั้งแต่ครึ่งแรกโดยสามารถสร้างความกดดันให้กับทีมเยือนตลอด
นิวคาสเซิ่ล ฉวยโอกาสได้เยี่ยม ก่อนได้ประตูออกนำ 1-0 จาก อเล็กซานเดอร์ อิซัค ในนาทีที่ 30 จากนั้นอีกสองนาทีต่อมา แอนโธนี่ กอร์ดอน ช่วยซัดให้ทีมหนีห่าง 2-0
เจ้าถิ่นได้ลูกเตะมุมถึง 10 ครั้งในครึ่งแรก ส่วนทีมเยือนได้แค่หนเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นเวลาที่ สเปอร์ส เสียบอลก็จะเปิดพื้นที่ให้ นิวคาสเซิ่ล เข้ามาโจมตีทางแบ็กสองฝั่งได้ตลอดเวลา ขณะที่ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น ปราการหลัง "ไก่เดือยทอง" ก็เล่นผิดพลาดจนมีส่วนให้ทีมเสียประตู
ขณะที่ครึ่งหลัง "สาลิกาดง" ก็ยังฉวยโอกาสได้ดีเหมือนเดิม ก่อนที่ อิซัค จะมายิงให้ทีมหนีห่าง 3-0 นาทีที่ 51 และ ฟาเบียน แชร์ มาปิดท้าย 4-0 นาทีที่ 87 ช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนเต็มได้อย่างสวยงาม แม้ทั้งเกมจะมีเปอร์เซ็นต์ครองบอลน้อยกว่าก็ตาม
2. ไก่หยุดสถิติบุกมายิงสาลิกา
ก่อนลงเล่นเกมนี้ สเปอร์ส ทำสถิติบุกมายิง นิวคาสเซิ่ล ได้อย่างน้อยหนึ่งลูกใน พรีเมียร์ลีก ทีบ้านของ "สาลิกาดง" มาแล้ว 17 นัดติด กลายเป็นคู่แข่งที่ "ไก่เดือยทอง" ยิงใส่คู่แข่งเกมเยือนมายาวนานสุดในประวัติศาสตร์สโมสร
สเปอร์ส ยิงไม่ได้เกมมาเยือน นิวคาสเซิ่ล หนหลังสุดต้องย้อนไปถึงเดือนธันวาคม ปี 2003 ที่พวกเขามาแพ้ 0-4 ก่อนที่จะมาหยุดสถิติในนัดนี้ด้วยผลปราชัย 0-4 เหมือนกัน
นอกจากนั้น นี่ยังเป็นแค่เกมที่สองใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ที่ สเปอร์ส ยิงคู่แข่งไม่ได้อีกด้วย ต่อจากนัดที่แพ้ ฟูแล่ม 0-3 เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
3. อิซัค ฮอตต่อเนื่อง
อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าทีมชาติสวีเดน กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องให้กับ นิวคาสเซิ่ล และเกมนี้เขาก็ปั่นป่วนแนวรับ สเปอร์ส ได้ตลอด และยิงไป 2 ประตู
หัวหอกวัย 24 ปี ยิงไป 7 ประตูและทำอีก 1 แอสซิสต์ช่วง 6 เกมหลังสุด รวมทั้งยิงไป 12 ประตูจาก 12 นัดที่เล่นในบ้าน และซัดไป 21 ประตูจากการลงเล่นทุกรายการ
4. อปป้าซนเล่นไม่ออกต้องรอทำสถิติต่อไป
เกมนี้ ซน ฮึง-มิน กองหน้าคนเก่งของ สเปอร์ส เล่นไม่ออกและไม่มีโอกาสยิงเลย ก่อนโดน อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือชาวออสซี่ เปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 57
ก่อนลงเล่นเกมนี้ ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ยิงไป 15 ประตูและทำ 9 แอสซิสต์ ทำให้มีส่วนร่วมไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่น พรีเมียร์ลีก 25 นัดหลังสุด
ซน ต้องการอีกแค่แอสซิสต์เดียวเท่านั้นก็จะกลายเป็นนักเตะรายที่ 6 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่สามารถทั้งทำประตูและแอสซิสต์ได้ถึงตัวเลขสองหลักใน 3 ซีซั่น ต่อจาก เวย์น รูนี่ย์ (5), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (4), แฟร้งค์ แลมพาร์ด (4), เอริก คันโตน่า (4) และ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (3)
5. ศึกชิงที่ 4 พรีเมียร์ฯ ระอุ
จากชัยชนะในนัดนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ลงเล่นไปแล้ว 32 นัดเก็บได้ 50 คะแนน แซง แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปอยู่ที่ 6 ของตารางทันที โดยที่ "ปีศาจแดง" ลงเล่น 31 นัดมี 49 คะแนน
ส่วน สเปอร์ส หล่นไปอยู่ที่ 5 หลังเล่นไป 32 นัดมี 60 คะแนน เท่ากับ แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 4 โดยผลพวงจากการที่โดนยิงไปถึง 4 ลูกทำให้มีผลต่างประตูได้เสียเหลือบวก 16 ลูกน้อยกว่า "สิงห์ผงาด" หนึ่งลูก
แน่นอนว่า แอสตัน วิลล่า กับ สเปอร์ส ต้องแย่งชิงกันอย่างหนักเพื่อคว้าที่ 4 ให้ได้ แต่เวลานี้ นิวคาสเซิ่ล ก็ขึ้นมามีลุ้นแม้ตามถึง 10 แต้มก็ตาม รวมไปถึง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 7 ที่มี 49 คะแนนจาก 31 นัดก็คงหวังลุ้นอยู่ลึกๆ เหมือนกัน