ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากในการที่จะพลิกนรกเพื่อเข้ารอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก เนื่องจากพวกเขาเพิ่งแพ้ อตาลันต้า 0-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก คาสนามแอนฟิลด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
"หงส์แดง" เล่นไม่ออกในแมตช์รับมือ อตาลันต้า นั่นทำให้พวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้ยิงประตูทีมเยือนเลย แถมยังโดนอาคันตุกะตะบันสามตุง ซึ่งถือว่าเป็นการหักปากกาเซียน เพราะ ลิเวอร์พูล ยังไม่แพ้ใครในบ้านเป็นเวลา 14 เดือนติดต่อกัน แต่สุดท้ายต้องเสียสถิติด้วยฝีเท้าของยอดทีมจากถิ่นแบร์กาโม่
แม้ว่า "เดอะ เร้ดส์" ยังมีภารกิจที่ต้องทำอีกแมตช์ที่บ้านของ อตาลันต้า แม้โอกาสจะริบหรี่แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้มีสโมสรจากอังกฤษ เคยสร้างปาฏิหาริย์พลิกนรกกลับมาคว้าชัยชนะในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปมาแล้วหลายทีม ดังนั้น ลิเวอร์พูล ก็ย่อมมีโอกาสทำได้เช่นกัน
5. อาแจ็กซ์ อัสเตอร์ดัม 3-3 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ - 2019
อาแจ็กซ์ อยู่ในเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ครั้งนั้นซึ่งเกิดขึ้นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018/2019 โดยยอดทีมจากลีกดัตช์ มีนักเตะชั้นยอดอยู่ในทีมที่ตอนนั้นกำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทั้ง มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์, แฟรงกี้ เดอ ยอง, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และอีกหลายๆ คน
ตอนนั้นพวกเขากำลังสร้างชื่อให้วงการโลกลูกหนังสนั่น โดยเกมแรกที่สนามเวมบลีย์สามารถบุกชนะ 1-0 จากนั้นเมื่อกลับมาเล่นในบ้านตวเองก็สามารถยิงนำ สเปอร์ 2-0 อย่างไรก็ตามเมื่อ ลูกัส มูร่า ลงสนามทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง โดยสตาร์ชาวบราซิเลียนระเบิดฟอร์ซัดสองประตูในช่วงต้นครึ่งหลัง และซัดแฮตทริกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
อาแจ็กซ์ทีมพลังหนุ่มในตอนนั้นถึงกับฟุบลงไปนอนกองกลับพื้น ขณะที่แข้ง "ไก่เดือยทอง" เฮลั่นสนั่นสนาม เพราะพวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์จากที่แพ้ในเลกแรก ส่วนเลกสองยังมีสกอร์ตามหลังถึงสองลูก แต่สุดท้ายสกอร์รวม 2 นัดเสมอ 3-3 แต่ได้ทะลุเข้ารอบชิงด้วยกฎยิงประตูทีมเยือน (ปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว) น่าเสียดายที่แพ้ ลิเวอร์พูล
4. ฟูแล่ม 5-4 ยูเวนตุส - 2010
หลังจากที่ออกไปแพ้ในตูรินสกอร์ 1-3 ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก งานนี้ ฟูแล่ม ต้องสู้แบบถวายหัวเพื่อหวังจะเอาชนะ ยูเวนตุส ให้ได้ แต่งานนี้ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา เพราะ "ม้าลาย" ในเวลานั้นคือหนึ่งในสุดยอดทีมของวงการลูกหนังโลกเลยทีเดียว
แมตช์สองสถานการณ์ของ "เจ้าสัวน้อย" ก็ไม่ค่อยดีนักเมื่อโดน ยูเว่ ยิงประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 แต่หลังจากนั้น ฟูแล่ม ก็รวมพลังประจัญบานจัดการยิงสี่ประตูรวดส่งผลให้พวกเขาสามารถผ่าน ยอดทีมจากแดนมะกะโรนี ไปได้แบบหักปากกาเซียน
ยิ่งไปกว่านั้น ฟูแล่ม สามารถกรุยทางไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องชวดคว้าเกียรติยศระดับยุโรป เมื่อปราชัยให้กับ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด แบบสูสี โดยทีมดังจากแดนกระทิงดุต้องสู้จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษกว่าจะได้ครอบครองโทรฟี่ใบนี้
3. ลิเวอร์พูล 4-3 บาร์เซโลน่า - 2019
แมตช์นี้คือหนึ่งในการคัมแบ็กที่โลกยังคงจดจำได้อยู่เสมอ โดยทุกๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือเกมที่สุดบ้าคลั่ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงระหว่างฤดูกาล 2018/2019 โดยตอนนั้น "หงส์แดง" มีสกอร์ตามหลัง บาร์เซโลน่า 3-0 ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
สำหรับเกมนัดสอง หลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีทางพลิกสถานการณ์กลับมาได้แน่นอน แถมอาจจะโดนยิงประตูเพิ่มด้วยซ้ำ เนื่องจาก บาร์ซ่า ชุดนั้นมีผู้เล่นระดับโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ที่พร้อมกระซวกตาข่ายเจ้าบ้านให้ดับแดดิ้นคาถิ่นแอนฟิลด์
อย่างไรก็ตามเกมที่หลายคนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะ ลิเวอร์พูล สามารถพลิกนรกกลับมาชนะด้วยสกอร์ 4-0 ทำให้สกอร์รวมสองแมตช์ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ 4-3 ที่สำคัญพวกเขายังกรุยทางเข้าไปคว้าแชมป์ "บิ๊กเอียร์" ซึ่งทำให้ทีมได้ครอบครองโทรฟี่ "หูกาง" เป็นสมัยที่ 6
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 บาเยิร์น มิวนิค - 1999
ตอนที่เห็นชื่อคู่ชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 1999 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ บาเยิร์น มิวนิค หลายคนฟันธงว่า "เสือใต้" จะปราบ "ผีแดง" ได้สบายๆ และก็น่าจะเป็นแบบนั้นเมื่อพวกเขาได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่จากการปั่นฟรีคิกของ มาริโอ บาสเลอร์
หลังจากนั้น ยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียน สามารถครองเกมได้หมด และยังมีโอกาสบวกประตูเพิ่มหลายครั้งหลายหน แต่ถ้าไม่โดน ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เซฟ ก็ตะบันไปติดเสาติดคาน อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูฯ ก็ไม่สามารถทำอะไร บาเยิร์น ได้เลย
จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก โลกต้องตกตะลึงเมื่อ เดวิด เบ็คแฮม เปิดเตะมุมมาให้ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ซัดตีเสมอ 1-1 จากนั้นอีกไม่กี่นาที "เบ็คส์" คนเดิมก็เปิดเตะมุมที่เดิมอีกครั้ง และกลายเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่สวมบทซูเปอร์ซับทำประตูชัย ส่งให้ แมนฯ ยูฯ พลิกนรกช็อกโลกคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
1. เอซี มิลาน 3-3 ลิเวอร์พูล - 2005
ถ้าหากเกม แมนฯ ยูฯ พลิกนรกชนะ บาเยิร์น ในนัดชิง "บิ๊กเอียร์" ว่าโคตรทึ่งแล้ว ลองมาดูเกมระหว่าง เอซี มิลาน กับ ลิเวอร์พูล ที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือ "มหัศจรรย์แห่งอิสตันบลู" เพราะใครจะไปคิดว่า "หงส์แดง" ชนะเอาชนะ "ปีศาจแดงดำ" ที่ชื่อชั้น และนักเตะเหนือกว่าหลายขุม
ตอนนั้น มิลาน มีผู้เล่นอย่าง ริคาร์โด้ กาก้า, เอร์นัน เครสโป, เปาโล มัลดินี่ และอีกหลายๆ คน โดยพวกเขาจัดการยิงประตูขึ้นนำ "เดอะ เร้ดส์" 3-0 ในช่วงครึ่งแรก และแน่นอนว่าด้วยสกอร์ผสมกับฟอร์มการเล่นที่เหนือกว่า ทำให้ทุกคนมั่นใจว่าแชมป์ "หูกาง" คงตกอยู่ในมือของ "รอสโซเนรี่"
อย่างไรก็ตามครึ่งหลังด้วยพลังเชียร์จากเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ลิเวอร์พูล พลิกนรกแหกอเวจีตีเสมอ 3-3 จากนั้นก็ยื้อจนต้องมาดวลหาแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ และเป็น "หงส์แดง" ที่แม่นกว่าสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 5 มาครอบครองได้อย่างพลิกล็อกช็อกโลกเลยทีเดียว