จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึกแดงเดือดยกที่ 3 ประจำฤดูกาล 2023-24 ซึ่งบทสรุปก็คือไม่มีใครชนะในการศึกที่สังเวียน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากมันจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2
การได้ไปฝั่งละ 1 คะแนนถือว่าไม่เป็นผลดีต่อทั้ง 2 ทีมหลังจาก ลิเวอร์พูล กำลังพยายามไล่ล่าแชมป์ลีกอยู่ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีความหวังน้อยลงไปอีกกับภารกิจการติด 4 อันดับแรกของตารางคะแนนให้ได้ ซึ่งเกมนี้ก็มีเกร็ดที่น่าเหลือเชื่อเช่นกัน
- นำก่อนไม่เฮ
ก่อนถึงเกมนี้ ลิเวอร์พูล ชนะเกม พรีเมียร์ลีก ในนัดที่พวกเขาขึ้นนำไปก่อน 1-0 มาได้ถึง 16 นัดติดต่อกัน แต่สุดท้ายผลงานอันร้อนแรงดังกล่าวก็มาถึงตอนจบ และมันเหมือนตลกร้ายนิดๆ เพราะครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่พวกเขานำไปก่อนในลีกแต่ไม่ชนะมันก็จบลงด้วยสกอร์ 2-2 เช่นกัน เพียงแต่คู่แข่งในครั้งนั้นคือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในเกมเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
- ล่อเป้าหนักมาก
ตลอดทั้งเกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด มากถึง 28 ครั้ง ซึ่งนับตั้งแต่ที่ อ็อปต้า ทำการบันทึกสถิติต่างๆ ตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04 เป็นต้นมานั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ "ปีศาจแดง" โดนคู่แข่งยิงใส่มากที่สุดกับการเล่นเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น หากนับรวมจากการเจอกันในลีกหนแรกประจำซีซั่นนี้ มันก็เท่ากับว่าในฤดูกาล 2023-24 ลิเวอร์พูล ได้ล่อเป้าใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีกรวมแล้วถึง 62 หน เพราะเกมที่ แอนฟิลด์ พวกเขาได้โอกาสยิงไป 34 ครั้ง ทำให้นี่นับเป็นการทาบสถิติเกี่ยวกับเรื่องที่มีทีมใดทีมหนึ่งยิงใส่อีกทีมมากที่สุดจากการเจอกัน 2 หนในเกมลีกของซีซั่นเดียวกันเลย
- เมนู เครื่องร้อน
แม้ว่าจะเพิ่งมีอายุแค่ 18 แต่ว่า ค็อบบี้ เมนู ก็พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเขามีศักยภาพดีพอที่จะเป็นตัวจริงให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ หลังเจ้าตัวทำประตูสุดสวยได้ ซึ่งมันก็ทำให้เขาเป็นนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในเกมแดงเดือดฉบับ พรีเมียร์ลีก ได้
ขณะเดียวกัน เขาก็ถือเป็นนักเตะอายุ 18 ปีคนแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2005 ที่ยิงใส่ ลิเวอร์พูล ในเกมลีกได้ด้วย โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาที่ทำแบบนั้นได้คือ เชส ฟาเบรกาส ในตอนที่เล่นให้ อาร์เซน่อล
- ยิงไม่เป็น
ตลอดทั้งครึ่งแรกของเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีจังหวะยิงแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้มันถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2022 ที่เกมรุกของพวกเขาทำผลงานได้แย่แบบนั้นในครึ่งแรกของการเล่นเกมระดับ พรีเมียร์ลีก และมันก็บังเอิญเหลือเกินที่ครั้งนั้นคู่แข่งก็เป็น ลิเวอร์พูล เช่นกัน โดยหนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปแพ้อีกฝ่าย 0-4 ที่ แอนฟิลด์
- กินกันไม่ลงอีกครั้ง
ตามปกติแล้วที่ผ่านมาเกมแดงเดือดมักจะมีทีมใดทีมหนึ่งเป็นฝ่ายชนะในลีก โดยบางฤดูกาลมีฝั่งที่เอาชนะคู่อริตลอดกาลในลีกได้แบบไป-กลับด้วยซ้ำ แต่ในซีซั่นนี้มันกลับจบลงด้วยการเสมอกันทั้งที่ แอนฟิลด์ และ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ทั้งนี้ หากนับเฉพาะตั้งแต่ที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก นี่ก็ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่เกมแดงเดือดจบลงแบบไม่มีใครชนะในลีกเลยทั้ง 2 เกม โดยหนแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 2016-17 ที่จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ใน แอนฟิลด์ ตามด้วยการเจ๊ากัน 1-1 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
- เด็กเกร็ดบอล -