"ขุนค้อน" ของกุนซือ เดวิด มอยส์ แม้หวนเก็บชัยได้ตามเป้าแต่มีงานต้องแก้อีกเยอะทั้งที่มีโอกาสจบสกอร์ถึง 20 ครั้งแต่ปิดไม่ลงต้องพึ่ง วีเออาร์ แจกจุดโทษช่วงทดเจ็บให้ เบนราห์ม่า ตะบันพาทีมอัด "บอร์นมัธ" 2-0 บวกสถิติเฮในบ้าน 5 นัดติดรวมทุกรายการเก็บเพิ่มเป็น 14 คะแนนโดดแซงขึ้นมายึดอันดับ 10
สนาม : ลอนดอน สเตเดี้ยม
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 12 คืนวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 เวสต์แฮม ทีมอันดับ 17 ต้อนรับ บอร์นมัธ ที่รั้งอันดับ ของตาราง 13
เดวิด มอยส์ กุนซือเวสต์แฮม พาทีมแพ้เวสต์แฮม 0-1 ในเกมล่าสุด เมื่อมิดวีก เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม ส่วนทาง แกรี่ โอนีล รักษาการกุนซือบอร์นมัธ พาทีมแพ้เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ในเกมล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 7 เกม
เปิดฉากครึ่งแรก 6 นาที "ขุนค้อน" ทักทายก่อนจากจังหวะฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ซาอิด เบนราห์ม่า ลักไก่ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงเสียดายโดนหนาหลุดชนข้างตาข่ายออกหลัง
นาทีที่ 11 คราวนี้เป็น แอรอน เครสส์เวลล์ ขยับเติมเกมรุกทางซ้ายได้ช่องครอสเข้าเขตโทษโค้งมาเข้าหัว โทมัส ซูเช็ค ขวิดเปลี่ยนทางหน้ากรอบ 6 หลาแต่กดไม่ลงเหินข้ามคาน
20 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น โหมต่อเนื่อง เบน จอห์นสัน หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาตบย้อนเข้าในถึง ฟลินน์ ดาวนส์ ซัดไปติดบล็อคเด้งเข้าทาง แอรอน เครสส์เวลล์ หวดสวนอีกรอบก็ยังแฉลบไปติดปลายมือ เนโต้ ปัดทิ้งเหลือเชื่อ
3 นาทีต่อมา บอร์นมัธ พยายามตอบโต้ มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ เติมขึ้นมาทางขวาลากตัดเข้าในได้ช่องซัดด้วยซ้ายบอลโค้งหนีบล็อค โทมัส ซูเช็ค ปลิ้นข้ามคานลอยออกไปไกล
ท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน หวิดมีหมัดน็อคจากจังหวะสวนกลับ โดมินิค โซลันกี้ แหวกหนี ธิโล เคห์เรอร์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนล้มตัวซัดไปตรงตัว ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้
แต่แล้วนาทีที่ 90+2 เวสต์แฮม ทะยานออกนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางขวาแนวรับ บอร์นมัธ โขกสกัดไม่ขาดเข้าทาง โทมัส ซูเช็ค โหม่งย้อนเข้ากรอบ 6 หลาแฉลบถึง เคิร์ต ซูม่า เสยนิดเดียวเสียบหน้าต่างเสาสอง
ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ อยู่นานเนื่องจากบอลไปโดนแขน ธิโล เคห์เรอร์ อย่างชัดเจนก่อนแล้วในจังหวะแรก สุดท้าย มองว่าไม่เป็นการเจตนายืนยันให้เป็นสกอร์ของ "ขุนค้อน"
หมดครึ่งเวลาแรก เวสต์แฮม 1 บอร์นมัธ 0
60 นาทีผ่าน เวสต์แฮม ดีกว่าชัดเจนบุกแทบจะฝ่ายเดียวได้จบเพิ่มจากจังหวะยิงไกลของ ซาอิด เบนราห์ม่า และ จาร์ร็อด โบเว่น แต่ก็ยังซัดไม่ตรงกรอบ
นาทีต่อจากจังหวะชุลมุนในเขตโทษแนวรับ บอร์นมัธ สกัดไม่ขาดบอลย้อนมาเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ พักอกหวดสวนตูมเดียวระยะร่วม 20 หลาไปตรงตัว มาร์ก ทราเวอร์ส นายด่านตัวสำรองผวาตบทิ้งได้ทัน
15 นาทีสุดท้าย "ขุนค้อน" ที่เกมนี้โอกาสมากมายร่วม 20 ครั้งแต่ยังไม่สามารถขยับสกอร์เพื่อปิดกล่อง เดวิด มอยส์ ต้องเปลี่ยน มิคาอิล อันโตนิโอ ลงสนามแทน จานลูก้า สคามัคก้า
ต่อมานาทีที่ 77 บอร์นมัธ ที่ครึ่งหลังยังยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียวพยายามต้้งเกมสู้ เจฟเฟร์ซอน เลร์มา สอดมาหน้ากรอบ 6 หลาเกือบถึงบอลแต่โดนจับฟาว์ลไปชน ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้
ก่อนหมดเวลา 5 นาที ทีมเยือน ลุยแหลกจากจังหวะครอสทางขวาบอลโค้งเข้าเขตโทษข้ามไปเสาไกลถึง ฟิลิป บิลลิ่ง โขกชงย้อนตั้งให้ ไจดอน แอนโทนี โหม่งย้อยไปเข้ามือ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ รับไว้ได้ไม่พลาด
นาทีที่ 90 เจ้าถิ่น มาปิดกล่อง 2-0 จนได้ วลาดิเมียร์ คูฟาล หนีขึ้นมาทางขวาเปิดบอลเข้าเขตโทษไปติดแขน จอร์แดน เซมูร่า ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ อยู่นานสุดท้ายขอออกไปดูเองแล้วหันมาชี้เป็น จุดโทษ
และเป็น ซาอิด เบนราห์ม่า รับหน้าที่สังหารเลือกมุมซ้ายตะบันอย่างมั่นใจหลอก มาร์ก ทราเวอร์ส ที่พุ่งไปคนละทางซุกก้นตาข่ายอย่างเฉียบขาด
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เวสต์แฮม 1 บอร์นมัธ 0
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
เวสต์แฮม (4-4-2) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - เบน จอห์นสัน, เคิร์ต ซูม่า, ธิโล เคห์เรอร์, แอรอน เครสส์เวลล์ - ฟลินน์ ดาวนส์ (ปาโบล ฟอร์นัลส์ น.88), โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์, ซาอิด เบนราห์ม่า - จาร์ร็อด โบเว่น (วลาดิเมียร์ คูฟาล น.88), จานลูก้า สคามัคก้า (มิคาอิล อันโตนิโอ น.74)
บอร์นมัธ (3-4-2-1) : เนโต้ (มาร์ก ทราเวอร์ส น.46) - อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, มาร์กอส เซเนซี่ - มาร์คัส เทเวอร์เนียร์, ลูอิส คุ๊ก, เจฟเฟร์ซอน เลร์มา, ไรอัน เฟรเดอริคส์ (จอร์แดน เซมูร่า น.57) - ไรอัน คริสตี้ (ไจดอน แอนโทนี น.57), ฟิลิป บิลลิ่ง - โดมินิค โซลันกี้ (คีฟเฟอร์ มัวร์ น.45)
ผู้ตัดสิน : เดวิด คู๊ท