เอมิล สมิธ โรว์ กองกลางทีม อาร์เซน่อล ยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านพิชิต ลูตัน 2-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดย เดอะ กันเนอร์ส กลับไปนั่งเก้าอี้จ่าฝูงชั่วคราวได้อีกรอบ
มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ ท็อปกัน ตัดสินใจโรเตชั่นนักเตะหลายรายในเกมบู๊กับทีมน้องใหม่โดย รีสส์ เนลสัน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมลีกนัดแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.2020 เช่นเดียวกับ โธมัส ปาร์เตย์ ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.
ขณะเดียวกัน สตาร์ตัวหลักอย่าง กาเบรียล เชซุส และ เดแคลน ไรซ์ มีชื่อนั่งเป็นตัวสำรอง แต่ทีมเจ้าบ้านมีศักยภาพมากพอที่จะคว้าสามแต้มได้ตามคาดโดย สมิธ โรว์ กองกลางวัย 23 ปีซึ่งมีส่วนสำคัญพาทีมกำชัยได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ทั้งๆที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมลีกในซีซั่นนี้เป็นนัดที่สามเท่านั้น
หลังโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงห้านาทีสุดท้ายให้ จอร์จินโญ่ ลงเล่นแทน สมิธ โรว์ ได้รับการลุกขึ้นยืนปรบมือจากกองเชียร์ อาร์เซน่อล ตามระเบียบจากการโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งหลังจบเกมดาวเตะหมายเลข 10 ก็ถูกสื่อดึงตัวไปสัมภาษณ์
"มันน่าทึ่งมาก ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เก้าขวบ มันน่าทึ่งที่ผมได้รับการลุกขึ้นยืนปรบมือตอนที่ผมเดินออกมา ผมไม่คิดว่าผมเล่นได้ดีเท่าไหร่ในครึ่งหลัง แต่เป็นเรื่องดีที่แฟนบอลสนับสนุนผม" สมิธ โรว์ เอ่ย
"ผมรู้สึกถึงสิ่งนี้ทุกครั้ง แม้แต่ตอนที่ผมอบอุ่นร่างกาย มันเป็นคืนที่น่าทึ่งสำหรับผม"
จากนั้น สมิธ โรว์ ก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อได้รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมโดยมี ทอม ล็อคเยอร์ กัปตันทีม ลูตัน ที่ยังพักรักษาตัวจากอาการหัวใจวายเฉียบพลันเป็นคนมอบให้
"ว้าว มันน่าเซอร์ไพรส์มาก! ขอบคุณมาก" สมิธ โรว์ กล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้่ม