การมี โจเซป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการถนัดเกมรุกเป็นผู้จัดการทีม รวมถึงมีขุมกำลังที่เต็มไปด้วยแนวรุกชั้นยอด ทำให้มันไม่น่าแปลกใจที่เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลงเล่นใน เอติฮัด สเตเดี้ยม แล้วนั้น หลายคนก็เชื่อว่าพวกเขาจะทำประตูได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจจนเก็บคลีนชีทไปจากบ้านของ "เรือใบสีฟ้า" ได้ ซึ่งในยุคของ กวาร์ดิโอล่า นี่ถือเป็นแค่ครั้งที่ 8 เท่านั้นที่ แมนฯ ซิตี้ เจาะตาข่ายทีมที่มาเยือนพวกเขาในเกมลีกไม่สำเร็จ และนี่คือ 7 เกมก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
vs คริสตัล พาเลซ - 30 ตุลาคม 2021
ก่อนถึงเกมนั้น แมนฯ ซิตี้ มีผลงานที่โดดเด่นด้วยการเก็บชัยชนะในลีกได้ถึง 6 เกมจาก 9 นัดแรกของฤดูกาล โดยหนึ่งในนั้นคือการไล่ถล่ม อาร์เซน่อล แถมก่อนถึงวันที่เจอกับ พาเลซ พวกเขาเพิ่งบุกไปชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้ถึง 4-1 ด้วย
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อเจอกับ พาเลซ ซึ่งเป็นอันดับ 15 ก่อนลงนามนั้น หลายคนเชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ ที่ครองอันดับ 3 อยู่จะเก็บชัยชนะได้แบบไม่ยากเย็น แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาทำประตูไม่ได้สักลูก ซ้ำร้ายยังแพ้ไป 0-2 อีก
vs เซาธ์แฮมป์ตัน - 18 กันยายน 2021
ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ็ค กรีลิช และ กาเบรียล เชซุส คือ 3 แนวรุกตัวจริงของ แมนฯ ซิตี้ ในเกมนั้น ขณะที่แผงกลางก็มี แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกัน และ แฟร์นันดินโญ่ คอยช่วย ถึงกระนั้นพวกเขากลับไม่สามารถยิงได้สักประตูในการเจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ทำให้สุดท้ายทีมของ กวาร์ดิโอล่า ต้องแบ่งคะแนนกับอันดับ 14 ของ พรีเมียร์ลีก ในตอนนั้นไปฝั่งละ 1 แต้ม
vs แมนฯ ยูไนเต็ด - 7 มีนาคม 2021
ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับเกมลีกนัดแรกของฤดูกาล 2020-21 นั้น แมนฯ ซิตี้ ได้ 1 แต้มกลับมาจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และในนัดสองที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ทั้งคู่ก็กลับมาเจอกันในสภาพที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นจ่าฝูง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับ 2
ถึงกระนั้น มันกลับกลายเป็นว่า แมนฯ ซิตี้ เสียท่าให้อริร่วมเมืองด้วยสกอร์ 0-2 จากประตูของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ ลุค ชอว์ ยังดีสำหรับฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ที่สุดท้ายแล้วการแพ้ครั้งนั้นมันไม่ส่งผลเสียมากนักก่อนที่พวกเขาจะได้แชมป์ลีกไปครอง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามมาเป็นที่ 2 จากการแพ้ไป 12 แต้ม
vs วูล์ฟส์ - 6 ตุลาคม 2019
นัดนี้หลายคนเชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ จะได้ 3 คะแนนไปครอง เพราะพวกเขาเป็นรองจ่าฝูง ต่างกับอาคันตุกะที่ลงสนามในฐานะอันดับที่ 13 แถมก่อนถึงนัดนั้นทีมของ กวาร์ดิโอล่า ยังทำประตูในลีกได้ครบทั้ง 7 นัดแรกของฤดูกาล 2019-20 อีก
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะกลายเป็นว่า วูล์ฟส์ เล่นได้โดดเด่นจนทำให้ทีมของ กวาร์ดิโอล่า แพ้คาบ้านด้วยสกอร์ 0-2 ส่วนคนที่เหมาทั้ง 2 ลูกให้ทัพ "หมาป่า" ในเกมนั้นได้แก่ อดาม่า ตราโอเร่
vs ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ - 6 พฤษภาคม 2018
นี่คือเกมลีกนัดรองสุดท้ายของฤดูกาล 2017-18 ซึ่งมันไม่มีความหมายอะไรกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะพวกเขาการันตีแชมป์ได้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ถึงกระนั้น กวาร์ดิโอล่า ก็ยังใช้แนวรุกชื่อดังหลายคนเป็นตัวจริง อย่างเช่น เชซุส, สเตอร์ลิง, ลีรอย ซาเน่, เควิน เดอ บรอยน์ และ ดาบิด ซิลบา เป็นต้น ดังนั้นมันจึงน่าเซอร์ไพรส์พอตัวที่สุดท้ายพวกเขาทำได้แค่เสมอกับทีมในโซนท้ายตาราง 0-0
vs แมนฯ ยูไนเต็ด - 27 เมษายน 2017
ก่อนถึงโปรแกรมนั้น แมนฯ ซิตี้ มีผลงานโดยรวมดีกว่าพอตัว เพราะพวกเขาเป็นอันดับ 2 ของตารางคะแนน ต่างจากคู่อริร่วมเมืองที่เป็นเพียงอันดับ 6 แต่สุดท้ายเกมนั้นก็จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ซึ่งในช่วง 6 นาทีสุดท้ายของเกมนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนด้วย จากการที่ มารูยาน เฟลไลนี่ โดนไล่ออกจากสนาม
vs สโต๊ค - 8 มีนาคม 2017
คอบอล พรีเมียร์ลีก สมัยก่อนรู้กันดีว่า สโต๊ค เป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์จนมักจะทำให้หลายทีมเจอกับงานหนักได้ และ กวาร์ดิโอล่า ก็ได้สัมผัสถึงเรื่องนั้นด้วยตัวเอง เมื่อทั้ง อเกวโร่, ซาเน่, เดอ บรอยน์ และ ยาย่า ตูเร่ ไม่สามารถเจาะตาข่ายทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส ได้ จนต้องเจ๊าจืด 0-0
- เด็กเกร็ดบอล -