ตอนนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้ว และการลุ้นแชมป์ก็เหลือเพียงแค่ ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น โดย 10 เกมลีกของ "ม้าสามตัว" อาจจะแมตช์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการตัดสินแชมป์ได้เลยทีเดียว
สุดสัปดาห์แห่งวันอีสเตอร์มีเกม "บิ๊กแมตช์" วัดกึ๋นระหว่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปะทะ มิเกล อาร์เตต้า ขณะที่ "หงส์แดง" ลงแข่งก่อนโดยรับมือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน อย่างไรก็ตามทั้งสามทีมยังมีเกมที่ต้องพบกับ แอสตัน วิลล่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งยังมีลุ้นพื้นที่โควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ทั้งสามทีมต้องฟาดฟันตั้งแต่ช่วงสัปดาห์นี้ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งมีความสำคัญมากๆ และงานนี้อาจจะมี 10 แมตช์ที่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนในการตัดสินแชมป์ลีกในฤดูกาล 2023/2024 ได้เลยทีเดียว
10 เกมที่อาจตัดสินว่า "ม้าสามตัว" ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
31 มีนาคม : แมนฯ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล
นี่คือ "บิ๊กแมตช์" ที่มีความอย่างมากไม่ใช่แค่เฉพาะ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล แต่ยังรวมทั้ง ลิเวอร์พูล ด้วย เพราะทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ จะลงสนามก่อนด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์ พบ ไบรท์ตัน ดังนั้นถ้าหากพวกเขาคว้าชัยชนะได้ ก็จะเป็นการโยนความกดดันให้กับ "เรือใบสีฟ้า" และ "ปืนใหญ่" ทันที แน่นอนว่าแมตช์นี้ยังไม่สามารถตัดสินแชมป์ได้ แต่มันอาจจะทำให้ทีมใดทีมหนึ่งสะดุดจนหลุดวงโคจรไปเลยก็ได้
3 เม.ย. : แมนฯ ซิตี้ พบ แอสตัน วิลล่า
นี่เป็นอีกแมตช์ที่อาจจะสร้างจุดเปลี่ยนในการลุ้นแชมป์เช่นกัน แม้ว่าผลงานของทีมของกุนซืออูไน เอเมรี่ อาจจะไม่ได้มีฟอร์มที่ดุดันเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นฤดูกาลก็ตาม โดยเฉพาะ 2 เกมลีกล่าสุดที่แพ้ สเปอร์ส ยับ 0-4 และเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 นั่นทำให้สถานการณ์ในการลุ้นท็อปโฟร์ของ "สิงห์ผงาด" เริ่มน่าเป็นห่วง ฉะนั้นพวกเขาต้องสู้ยิบตามเพื่อคว่ำ แมนฯ ซิตี้ ให้ได้
7 เม.ย. : แมนฯ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีฤดูกาลที่ยากลำบากก็ตาม แต่หากต้องทำศึก "แดงเดือด" พวกเขาจะมีพลังแฝงที่สามารถงัดออกมาฟาดฟันกับคู่อริตลอดกาลได้อยู่เสมอ ยกตัวเองในเกมเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ "ผีแดง" พลิกนรกคว่ำ "หงส์แดง" ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งแน่นอนเกมนั้นช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเหล่าขุนพล "เร้ด เดวิลส์" ว่าสามารถกำราบความร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล ได้ แต่ขณะเดียวกับทีมเยือนก็ต้องการแก้แค้น แมนฯ ยูฯ เช่นกัน
14 เม.ย. : อาร์เซน่อล พบ แอสตัน วิลล่า
นี่คือแมตช์ที่ เอเมรี่ จะได้กลับมาเยือนเอมิเรตส์ สตเดี้ยม อีกครั้ง หลังเคยมีความทรงจำที่ไม่ค่อยสวยหรูมากนัก ตอนที่กุมบังเหียน อาร์เซน่อล และแน่นอนว่าเขาคงอยากที่จะฝากความเจ็บช้ำน้ำใจบางอย่างให้กับต้นสังกัดเก่า ซึ่งอาจจะทำให้แฟนบอล "เดอะ กันเนอร์ส" ถึงกับน้ำตาตกในก็ได้
ยังไม่กำหนดวัน : สเปอร์ส พบ แมนฯ ซิตี้
ทีมของกุนซืออังเก้ ปอสเตโคกลู กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกับการลุ้นโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่โปรแกรมของพวกเขาอาจมีผลต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ด้วย เนื่องจากต้องพบทั้ง "เรือใบสีฟ้า", ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล แต่สำหรับแมตช์นี้ยังไม่สามารถกำหนดวันได้ เนื่องจาก แมนฯ ซิตี้ มีคิวต้องทำศึกเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก ในวันที่ 20 เม.ย.พอดี ทำให้ต้องรอกำหนดวันแข่งใหม่
24 เม.ย. : เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
แมตช์นี้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจาก "เดอะ เร้ดส์" ต้องลงแข่งเกมฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ตกรอบไปแล้วทำให้โปรแกรม "เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ กำหนดแข่งในวันที่ 24 เม.ย. แม้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" จะมีสถิติไม่ค่อยดีนักโดยชนะครั้งล่าสุดที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อปี 2010 แต่พวกเขาพร้อมสู้ไม่ถอยเพราะไม่อยากเห็นคู่อริร่วมเมืองประสบความสำเร็จ
28 เม.ย. : สเปอร์ส พบ อาร์เซน่อล
อีกหนึ่งเกมที่ "ไก่เดือยทอง" สามารถตัดสินแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาจะทำศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ รับมือ อาร์เซน่อล งานนี้บอกเลยว่า สเปอร์ส ไม่มีทางปล่อยให้ มิเกล อาร์เตต้า แอนด์ โค. ประสบความสำเร็จแน่นอน เพราะต่อให้เจ้าบ้านมีสถิติไม่ค่อยสวยหรูมากนักในการเจอกับ "ปืนใหญ่" แต่นี่คือโอกาสทองที่จะทำให้เพื่อนบ้านตัวแสบฝันสลายในการคว้าแชมป์
4 พ.ค. (รอการยืนยัน) : ลิเวอร์พูล พบ สเปอร์ส
เมื่อเข้าสู่ช่วงโปรแกรมนี้ตารางคะแนนอาจจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดย สเปอร์ส หมายมั่นปั้นมือที่จะคว้าชัยชนะที่แอนฟิลด์ให้ได้ เพราะเป็นสนามที่พวกเขาไม่เคยชนะมาตั้งแต่ปี 2011 และถ้าหากทำได้นั่นก็หมายถึงโอกาสที่จะทำแต้มเพื่อคว้ายึดอันดับท็อปโฟร์ และยังเป็นการตอกย้ำความแค้นให้กับ "หงส์แดง" หลังเคยทำมาแล้วในช่วงต้นฤดูกาลที่บ้าน "ไก่เดือยทอง"
11 พ.ค. : (รอการยืนยัน) : แอสตัน วิลล่า พบ ลิเวอร์พูล
ช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายที่จะได้เห็นทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ เดินทางไปเยือนวิลล่า พาร์ค ซึ่งเป็นสนามที่พวกเขาแพ้แค่ครั้งเดียวในเกมลีกตลอดระยะเวลา 13 ปี อย่างไรก็ตามในตอนนั้น "สิงห์ผงาด" อาจจะยังเป็นทีมที่มีลุ้นทำอันดับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นการที่ ลิเวอร์พูล ต้องไปเยือน วิลล่า ถือเป็นเกมที่น่าเป็นห่วงเลยทีเดียว เพราะมันอาจดับฝันของพวกเขาก็ได้
11 พ.ค. : (รอการยืนยัน) : แมนฯ ยูไนเต็ด พบ อาร์เซน่อล
ทั้งสองทีมเคยเป็นคู่แข่งแย่งความยิ่งใหญ่ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในช่วงปลายยุค 90 เข้าสู่ต้นยุค 2000 แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน แมนฯ ยูฯ ไม่ใช่ทีมที่ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาอาจจะยังมีลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ และนั่นคงทำให้ "ปีศาจแดง" มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการหักกระบอก "ปืนโต" ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งถ้าทำได้ก็เป็นการเรียกศรัทธาคืนจากแฟนผีโปรเจกต์ได้เลยทีเดียว
ทอมเม้ง