โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน,แอนโธนี่ กอร์ดอน และ ดไวท์ แม็คนีล ตะบันคนละตุง พา เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ ยับ 3-0 ส่งผลให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ปลดล็อคคว้าชัยนัดแรกในรอบ 4 เกม มีเพิ่มเป็น 13 คะแนน ขยับรั้งที่ 11 พร้อมทำ "ดิ อีเกิ้ลส์" พังนัดแรกในรอบ 4 นัด มี 13 คะแนน อยู่ที่ 12
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2565
เอฟเวอร์ตัน 3-0 คริสตัล พาเลซ
สนาม : กูดิสัน พาร์ค
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2022-23 ประจำวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ระหว่าง "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 15 ที่แพ้ในลีกมา 3 นัดติด เปิดรังรับมือ"ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 11 ของตาราง ที่คว้าชัยมาแล้ว 2 เกม จาก 3 นัดหลังสุด
เริ่มเกมการแข่งขันมาในนาทีที่ 10 อเล็กซ์ อิโวบี ตัดบอลได้ทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน พลิกบอลหนึ่งจังหวะหลบ มาร์ค เกฮี ก่อนที่ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน จะได้ดวลเดียวกับ บิเซนเต้ ไกวต้า แล้วเป็น โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน ซัดนิ่มๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยพา เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ คริสตัล พาเลซ 1-0
ต่อมาในนาทีที่ 22 อิดริสซ่า กาน่า เกย์ ได้โอกาสเลี้ยงบอลตัดเข้ามาตรงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายออกไปด้านขวาให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน จับบอลด้วยเท้าขวาตัดเข้าในก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งตรงกรอบเตรียมจะเสียบใต้คาน แต่ยังเป็น บิเซนเต้ ไกวต้า ที่ปัดบอลข้ามคานไปได้
หลังจากนั้นในนาทีที่ 29 จังหวะเตะมุมของฝั่งทีมเยือน เอเบเรชี่ เอเซ่ รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ที่สลัดหนีตัวประกบได้ แล้วได้โหม่งโล่งๆ บอลตรงกรอบแต่ยังไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด รับบอลเอาไว้ได้
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน นำ คริสตัล พาเลซ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 50 อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ได้จังหวะจับบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงแต่ไปติดบล็อค เลยเลือกส่งบอลต่อไปให้ จอร์แดน อายิว แล้วเลือกตักบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่สอดเข้ามายิงแต่บอลหลุดเสาออกหลังไป
เกมดำเนินถึงนาทีที่ 62 ทีมเยือนได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา ก่อนเป็น ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่รับหน้าที่ยิงด้วยซ้าย แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
ต่อมาในนาทีที่ 64 เดมาไร เกรย์ ได้โอกาสเลี้ยงบอลขึ้นหน้า ก่อนจ่ายออกไปทางฝั่งซ้ายให้ วิตาลี่ มีโคเลนโก้ ได้บอลก่อนตะบันด้วยว้ายบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังเป็น บิเซนเต้ ไกวต้า ปัดบอลออกมาได้ แต่บอลยังไปเข้าทาง แอนโธนี่ กอร์ดอน ได้จังหวะยิงซ้ำเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนเป็น วีเออาร์ ที่เช็กจังหวะดังกล่าว ก่อนให้เป็นประตู พา เอฟเวอร์ตัน นำห่าง คริสตัล พาเลซ 2-0
หลังจากนั้นในนาทีที่ 84 ดไวท์ แม็คนีล ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายไปให้ อเล็กซ์ อิโวบี แล้วตอกส้นกลับมาให้ ดไวท์ แม็คนีล ได้จังหวะยิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยพา เอฟเวอร์ตัน นำห่าง คริสตัล พาเลซ 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ ไป 3-0 ส่งผลให้ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ปลดล็อคคว้าชัยนัดแรกในรอบ 4 เกม มีเพิ่มเป็น 13 คะแนน ขยับรั้งที่ 11 พร้อมทำ "ดิ อีเกิ้ลส์" พังนัดแรกในรอบ 4 นัด มี 13 คะแนน อยู่ที่ 12
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม
เอฟเวอร์ตัน (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เชมัส โคลแมน, คอเนอร์ เคาดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, วิตาลี่ มีโคเลนโก้ - อเล็กซ์ อิโวบี, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, อ็องเดร โอนาน่า (เจมส์ การ์เนอร์ น.78)- แอนโธนี่ กอร์ดอน, โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน (นีล มอเปย์ น.78), เดมาไร เกรย์ (ดไวท์ แม็คนีล น.72)
คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ ไกวต้า - โจเอล วอร์ด, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิทเชลล์ - ไมเคิ่ล โอลิเซ่ (ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า น.62),ลูก้า มิลิโวเยวิช ( เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.62), เอเบเรชี่ เอเซ่ - จอร์แดน อายิว (มัลคอล์ม เอบิโอเวย์ น.75),อ็อดซอนน์ เอดูอาร์, วิลฟรีด ซาฮา
ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์