ว้าววววว
ยืมคำของ บอสส์ มาใช้หน่อย แมตช์ ลิเวอร์พูล v แมนฯ ซิตี้ เอนเตอร์เทนดีแท้ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่า ทีมรักของผมที่สภาพขุมกำลังไม่สมประกอบนัก จะเล่นดีมากในครึ่งหลัง บีบให้ยอดโค้ช เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องพลิกตำราแก้ ถึงกับต้องเอาสตาร์ตัวเอ้ เควิน เดอ บรอยน์ ออก และเกิดการโต้เถียงกันตามมาที่ข้างสนาม (แต่เป็นแค่แพสชั่นของนักเตะที่ดี อย่าคิดมากไปกว่านั้นฮะ)
ก่อนเกมห้าดาวจะเริ่มต้น เห็นแผ่นทีมชีตที่ไร้ดาวซัลโวประจำทีม โม ซาล่าห์ ในสิบเอ็ดคนแรก และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ หายไปเลยในแดนหลัง หลังกระตุกที่กรุงปรากเพียงสามคืนก่อนหน้า (น่าคัมแบ๊คแม็ตช์เอฟเอคัพ กับแมนฯยูฯ วีคเอนด์นี้)
ยอมรับเลยว่า มีแอบคิดว่า "นัดนี้เสมอได้ ก็โอเคแล้ว ยังงัยเรือใบก็ยังไม่แซง"
เทียบกับตัวจริงลิเวอร์พูลชุดบุกเอติฮัด ปลายเดือนพฤศจิกายน แล้วลงเหลือแค่สี่ราย กัปตัน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, สองมิดฟิลด์ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ รวมทั้งศูนย์หน้า ดาร์วิน นูนเญซ
มาดวลกันหนนี้ ฝั่งหงส์ต้องส่ง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตู, คอนเนอร์ แบรดลี่ย์, จาเรลล์ ควอนซาห์, วาตารุ เอ็นโด, หลุยส์ ดิอาซ รวมแล้วมีถึงห้ารายแน่ะ ที่ได้ออกสตาร์ท แมตช์ หงส์-เรือใบ เป็นครั้งแรก ซึ่งแม้จะคุ้นเคยฝีไม้ลายมือทุกคนกันมากพอสมควรแล้ว หากคุณต้องเจอกับแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก / แชมป์ยุโรป / แชมป์สโมสรโลก ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม เด็กหงส์แบบหงส์ก็อดกังวลไม่ได้หรอกครับ
(เจ็บใจ ตอนลิเวอร์พูล ได้ถ้วยแชมป์สโมสรโลก ให้แปะหน้าอกใส่โชว์ได้แค่แม็ตช์เดียว ดู้ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้, นาทีนี้ ซิตี้ โชว์โลโก้แชมป์สโมสรโลกได้เต็มที่)
หากเมื่อคุณเห็นการเล่นในครึ่งหลัง โอกาสที่เจ๋งกว่า และเจ็บปวดสุด ฉากจบเกมที่ผู้ตัดสินในสนาม ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ยืนอยู่ใกล้เหตุการณ์มาก และคนควบคุมวีเออาร์ สจ๊วร์ต แอตเวลล์ ไม่กล้าให้จุดโทษ ทั้งที่การยกเท้าสูงใส่คู่แข่ง ต่อให้มีการสัมผัสลูกบอล ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในสนามต้องเป็นการฟาวล์หมด เป็นการเล่นอันตรายฮะ กฎมันต้องเป็นกฎซี่
หรือว่า กฎที่มีต่อสโมสรป๊อปปูล่าร์อย่าง ลิเวอร์พูล มักจะต้องแตกต่างจากทีมอื่นร่ำไปหนอ ? เหมือนกับที่ ดิอาซ หลุดไปยิงคมๆ ที่ท็อตแน่ม ตอนต้นซีซั่นแล้วไม่ได้ประตู หรือ มาร์ติน โอเดอการ์ด สามารถโน้มตัวเอาแขนไปโดนบอลในเขตโทษ ท่าผิดธรรมชาติแต่ได้รับการอนุโลมได้
1.) ฮาลันด์ คุณอยู่ไหน ?
เอาจริงๆ จาก คนข่าว/คอลัมนิสต์ ที่เที่ยงธรรมที่สุดในจักรวาล โลกนี้และโลกหน้า
ศูนย์หน้าที่ใครใครต่างสรรเสริญ ศูนย์หน้าที่ใครใครบอกสมควรได้รางวัลบัลลงดอร์ ผมเห็นพอจะทำอะไรบ้างก็คือ ในช่วงหลังของเกม จ่ายบอลออกไปให้ตัวสำรอง เฌเรมี่ โดกู พาบอลเข้าไปยิงชนเสา
อีกครั้งในครึ่งแรก ที่ได้บอลหลุดเผชิญหน้ากับตัวสุดท้าย ฟาน ไดค์ ที่ถอย ถอย ถอย ไม่พรวดพราดเข้าหา จนสุดท้ายยอดเซ็นเตอร์แบ๊คเป็นฝ่ายชนะ ด้วยการบีบให้ ศูนย์หน้านอร์วีเจี้ยนยิงไม่ถนัด ไปตรงตัวคีพเพอร์
เป็นมาหลายเกมแล้ว ที่ได้เห็น ฟาน ไดค์ เป็น "เดอะ แบก"
แต่คงไม่มีบททดสอบไหน อยากกว่าการเจอกับการเจอ แมนฯ ซิตี้ แม็ตช์ที่มีผลมากต่อการลุ้นแชมป์นัดนี้อีกแล้วหล่ะ เมื่อในแผงหลังมีเค้าเท่านั้น ที่เป็นตัวจริงที่แท้จริง ต้องคอยประคอง ควอนซาห์, แบรดลี่ย์, ควีวิน และแบ๊คซ้าย บอสส์ก็เลือก โจ โกเมซ
นอกจากจะช่วยเคลียร์ในแดนหลังได้อย่างร้ายกาจแล้ว อีกลูกเก่งการผ่านยาวให้แดนหน้า อย่างโยนให้ไอ้หนู แบรดลี่ย์ ที่ขยับขึ้นไปเป็นปีกขวาในเกมรุก ก็เนี้ยบเหมือนเคย ฟอร์มแบบนี้ถ้าใครเลือกเป็นแมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ก็ไม่เกินเลยหรอกครับ
แต่แหม นัดนี้เลือกยากเลย แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่อาจจะผิดพลาด เสียเหลี่ยม เนธาน อาเค่ บล๊อค จนเสียประตูจากลูกสูตร นั่นก็เด่นมาก หรือสำหรับผม วาตารุ เอ็นโด คือสิ่งดีดีสิ่งหนึ่งของลิเวอร์พูลในนัดคุณภาพสูงนัดนี้ ขอรับ
2.) วาตารุ เอ็งมันของแท้
ไหนๆ เกริ่นถึงแล้ว ก็ต้องชมแบบเต็มๆ ไปเลย ผมมองว่า วาตารุ เอ็นโด เด่น ตั้งแต่ครึ่งแรกที่ ลิเวอร์พูลมีจังหวะยิงตรงกรอบเพียงแค่หนเดียวนะครับ เห็นชัดว่าเขาตัดบอลได้เยอะ และเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้ดีด้วย
ความเด่นของกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นนี่ ทำให้ โรดรี้ มีน้อยเกมที่หมองได้แฮะ ในขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ก็โดนเปลี่ยนออก เมื่อเป๊ป เห็นเกมเป็นรองในครึ่งหลัง ต้องการให้ มัตเตโอ โควาซิช ลงไปช่วยเก็บบอล
ในช่วงสิบเกมสุดท้ายพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถ้าคล็อปป์ สามารถจัดกลางชุดนี้ เอ็นโด - แม็ค อัลลิสเตอร์ - โซบอสไล ลงเล่นกันบ่อยๆ รับรองว่าแฟนตัวเองเชียร์กันมันส์แน่
เป็นธรรมดาของนักเตะจากเอเชีย มาอยู่ทีมยิ่งใหญ่อย่างลิเวอร์พูลนี่ คุณก็ต้องแสดงฝีเท้าให้เป็นที่ประจักษ์ก่อน ถึงจะยอมรับกันได้
เอ็นโด อาจจะแปลกใจกับสปีดบอลอังกฤษในช่วงแรก หากนาทีนี้ คงเส้นคงวาเหลือเกิน พร้อมทั้งเพื่อนๆ ก็มั่นใจ นอกจากจังหวะตัดบอลแล้ว การผ่านบอลขึ้นหน้าก็เซอร์ไพรส์ได้บ่อยๆ โอ๊ย ชมมาก เดี๋ยวต้องเสียเงินปักชื่อ หมอนี่อีกสักคน !
3.) ใครไม่รัก หลุยส์ ดิอาซ, ผมรัก
มีจังหวะเยอะนะครับ โดยเฉพาะเมื่อตัวสำรอง โม ซาล่าห์ ลงมาไม่เท่าไหร่ จ่ายบอลทะลุ ให้ปีกโคลอมเบียหลุดเดี่ยวไปตรงกลาง เผชิญหน้ากับผู้รักษาประตูสำรอง สเตฟาน ออร์เตก้า ที่ลงมาแทนมือหนึ่ง เอแดร์ซอน เจ็บตั้งแต่เสียจุดโทษ ทำฟาวล์ ดาร์วิน นูนเญซ แต่ยังลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับการยิงจุดโทษของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ยิงชัวร์ยิ่งกว่า โม อีกมั้ง ฮ่าๆ (ขอโทษ โม แต่เวลาคุณยิงจุดโทษ พวกเรามีเสียว)
นึกว่าหายแล้ว ดันกลายเป็นวางเท้าเปิดไปหน่อย บอลฉีกออกนอกกรอบ เสียด๊าย เสียดาย
จังหวะนี้, จังหวะที่ ดาร์วิน จ่ายให้สวยมาก แต่จับบอลไม่ได้ และอีกหลายจังหวะคุกคามอาจทำให้ขัดใจแฟนหงส์ไปบ้าง
หากคุณภาพอย่างครึ่งเวลาหลัง เล่นงานของแข็งอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ และใครอื่น, ใครคนนี้รู้สึกแฮปปี้นะครับ
นัดนี้ยิงไม่ได้ นัดหน้าก็เอาใหม่ ขอให้เล่นคุกคาม และทุ่มเท เพื่อทีมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน ผมชอบนักเตะแบบนี้ มากกว่า คนที่เล่นเรียบๆ ขยันม้วนแล้วส่งคืนหลังนะครับ (ไม่อยากพาดพิงใครนะ)
พัฒนากันได้ครับ ยิงเข้าบ่อยๆ มันจะไม่ใช่แค่ หลุยส์ ดิอาซ นะซี่
แบบนั้น ต้องเป็นเทพ หลุยส์ ซัวเรส แล้ว ฮ่า ฮ่า ..
4.) ศัตรูตัวจริง อาจไม่ใช่แมนฯ ซิตี้ หรือ อาร์เซน่อล
- ถามว่า เอแดร์ซอน เสียจุดโทษแบบนั้น ให้ใบแดงเลยได้หรือเปล่า ?
- เนธาน อาเก้ บล๊อคแม็ค อัลลิสเตอร์ ถ้าเทียบกับ เอ็นโด ในนัดชิงคาราบาว คัพ หล่ะ ?
- หรือหนักที่สุด ทำไมแมนฯ ซิตี้ ไม่เสียจุดโทษ จากจังหวะคาราเต้ คิกในเขตโทษตัวเองของ โดกู เข้ายอดอก แม็ค อัลลิสเตอร์ ????? (เบี่ยงด้านข้างเข้าหา หรือจะให้หันหน้าตรงๆ เข้าหา เพื่อให้รู้สึกอันตรายกว่า)
นี่เอาแค่ล่าสุดเกมเดียวนะ และ ลิเวอร์พูล โดนกระทำอะไรแบบนี้มาตลอดซีซั่น, โดนแบบจะแจ้งกว่าที่ทีมอื่นโดน ก็เยอะแยะไป
แมนฯ ซิตี้ จะเจอกับ อาร์เซน่อล ปลายเดือนนี้ ต้องตัดแต้มกันเอง จากนั้นเรือใบมีเกมยากอย่างเยือน ท็อตแน่ม ซึ่งก็เป็นงานยากคล้ายๆ แอนฟิลด์
ปืนโต ก็มีเกมอื่นอย่างเยือน ท็อตแน่ม เช่นกัน คุณก็รู้ว่า ศักดิ์ศรีแห่งนอร์ธ ลอนดอน จะทำให้นัดนั้นหวดกันสนั่นแค่ไหน และไม่รู้ว่า ถ้าเพิ่มเกมเยือน โอลด์ แทร็ฟเฟิร์ด ด้วยได้หรือเปล่า รวมทั้งเกมตกค้างกับเชลซี ที่รอกำหนดวันเตะใหม่
ส่วน 10 เกมที่เหลือของลิเวอร์พูลนี่ ผมมองว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะพบกับชัยชนะหมดนะ !
(หาทัวร์มาลงนิด) แต่ถ้าใครว่าแมตช์ไปเยือน แมนฯ ยูฯ กลางเดือนเมษายน เป็นเกมที่ยาก หรือต้อนรับ ท็อตแน่ม ต้นพฤษภาคม อาจเป็นเกมที่สะดุดเสียแต้มได้อีก ก็แล้วแต่ครับ
หากเอาความรู้สึกส่วนตัว จากนักข่าวที่เที่ยงธรรมที่สุดในจักรวาลคนนี้ ขอบอกเลยว่า ตารางแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่เหลือสำหรับหงส์แดง ไม่ได้น่าหนักใจ เท่ากับการลุ้นการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน & วีเออาร์ ในแต่ละนัดหรอกหนา ..
ลิตเติ้ลโจ