ปฏิเสธไม่ได้เป็นอันขาดว่าเกม พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.นี้คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ที่สนาม แอนฟิลด์ น่าจะเป็นนัดสำคัญที่สุดของซีซั่นที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า หงส์แดง หรือ เรือใบสีฟ้า ที่จะคว้าแชมป์ไปครองในซีซั่นนี้ แม้ อาร์เซน่อล จะเป็นอีกสโมสรที่มีเอี่ยวลุ้นซิวแชมป์ด้วย
ไม่เพียงต่างก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่น่าเกรงขามด้วยกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองฝ่ายยังมีกุนซือที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในวงการลูกหนังยุคนี้คุมทีมเช่นกัน
สำหรับ หงส์แดง นับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมออกไปแพ้ อาร์เซน่อล 3-1 ในเกมลีก เขาก็สร้างชื่อคุมทีมชนะรวดในทุกรายการได้รวมเจ็ดนัดแล้ว พร้อมทั้งนำโทรฟี่ คาราบาวคัพ มาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้สำเร็จ
ด้าน เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พวกเขากำชัยเรียบวุธในทุกรายการห้านัดติดต่อกันนับตั้งแต่สะดุดถูก เชลซี บุกมาแบ่งแต้มด้วยสกอร์ 1-1 ในเกมลีกช่วงกลางเดือนก่อน
ฉะนั้นแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกมนี้สูสีดู๋ดี๋อย่างยิ่ง และสามารถออกผลลัพธ์แบบไหนก็ได้ แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล ซึ่งนัดแรกของซีซั่นบุกไปเสมอที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ได้ด้วยสกอร์ 1-1 จากประตูของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ พวกเขาไม่คิดแบ่งแต้มให้อาคันตุกะแน่ และหวังสานต่อผลงานนัดเหย้าที่ดีกับคู่ปรับรายนี้ต่อไปโดยคาดว่า คล็อปป์ อาจปรับทัพเล็กน้อยจากเกมล่าสุดที่พวกเขาออกไปขยี้ สปาร์ต้า ปราก 5-1 ในเกม ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมนัดแรกเมื่อวันพฤหัสบดี
- ผู้รักษาประตู : ควีวิน เคลเลเฮอร์
เป็นอันแน่นอนว่าระยะนี้ เคลเลเฮอร์ จะได้เฝ้าประตูให้ทีมอย่างต่อเนื่องหลังจาก อลิสซง ผู้รักษาประตูทีมชาติ บราซิล บาดเจ็บ และจะยังลงเล่นเกมนี้ไม่ได้
อย่างไรก็ดี ต่อให้มือกาวชาวเมืองกาแฟเรียกความฟิตกลับมาได้เมื่อไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วที่เขาจะคว้าตำแหน่งประตูมือหนึ่งของสโมสรกลับคืนมาในทันทีเนื่องจากจอมหนึบทีมชาติ ไอร์แลนด์ พิสูจน์ให้เห็นว่าพัฒนาฝีมือได้อย่างรุดหน้าจนแทบไม่ได้ด้อยไปกว่า อลิสซง แล้ว
- กองหลัง : คอเนอร์ แบรดลีย์ , อิบราฮิม่า โกนาเต้ , เฟอร์จิล ฟาน ไดด์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
(คอเนอร์ แบรดลีย์ , จาเรลล์ ควานซาห์ , เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , โจ โกเมซ)
แบรดลีย์ อาจลงเล่นเกม ยูโรปาลีก ในฐานะตัวสำรอง แต่มีแนวโน้มว่าเขาจะกลับมาสวมบทแบ็คขวาตัวจริงอีกรอบ ขณะที่ ฟาน ไดค์ จะได้ลงเล่น 100% อีกรายหลังกัปตันทีมจอมแกร่งได้พักในเกมกลางสัปดาห์ แต่ต้องลงสนามเนื่องจาก โกนาเต้ บาดเจ็บ
ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์ จึงต้องรอเช็กความฟิตของกองหลังทีมชาติ ฝรั่งเศส ซึ่งเขาระบุหลังเกมถล่ม สปาร์ต้า ปราก ว่าถอดพ่อค้าแข้งชาวเมืองน้ำหอมออกเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนเท่านั้น แต่หาก โกนาเต้ ไม่ฟิต ควานซาห์ ก็จะได้จับคู่กับสตาร์ดัตช์
สำหรับแบ็คซ้าย หาก โรเบิร์ตสัน ไม่ได้ลงสนามตามที่น่าจะเป็นก็มีสิทธิ์เป็นไปได้เช่นกันที่นายใหญ่ชาวเยอรมันอาจมอบหน้าที่ให้ โกเมซ ซึ่งกำลังเล่นได้อย่างมั่นใจ และพร้อมรับภาระได้อย่างหลากหลาย
- กองกลาง : วาตารุ เอ็นโด , โดมินิก โซโบซไล , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
หลังได้ โซโบซไล หายเจ็บกลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรอง เชื่อว่า คล็อปป์ จะกลับมาเรียกใช้งานดาวเตะทีมชาติ ฮังการี ในโผ 11 คนแรกตามเดิมโดยคนที่จะเสียตำแหน่งย่อมหนีไม่พ้น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์
ขณะเดียวกัน นาทีนี้ เอ็นโด สถาปนาตัวเองเป็นคีย์แมนคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ไปแล้วในฐานะนักเตะหมายเลข 6 ซึ่งกองกลางทีมชาติ ญี่ปุ่น ใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็เล่นได้อย่างที่ คล็อปป์ ต้องการ และมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
นอกจาก เอ็นโด แล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีเช่นกันโดยเกมกลางสัปดาห์เขาโชว์ลีลาได้อย่างโดดเด่นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ คล็อปป์ จะดร็อปเขาออกไปในเกมบิ๊กแมตช์
- กองหน้า : โม ซาลาห์ , ดาร์วิน นูนเญซ , หลุยส์ ดิอาซ
(ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ , ดาร์วิน นูนเญซ , หลุยส์ ดิอาซ)
ถึงตอนนี้ นูนเญซ เริ่มโชว์ฟอร์มกับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างลงล็อคแล้ว และยิงประตูได้อย่างคมกริบมากขึ้นโดยเมื่อกลางสัปดาห์สตาร์ทีมชาติ อุรุกวัย ระเบิดความฮ็อตอีกเกมด้วยการตะบันสองประตูซึ่งจะทำให้เขาได้ออกสตาร์ตในเกมบู๊กับ แมนฯ ซิตี้ อย่างแน่นอนจากความมั่นใจที่กำลังเต็มเปี่ยม
เทียบผลงานของนักเตะแผงรุกในเกมบู๊กับทีมจากลีกเช็ก บอกได้เลยว่า โคดี้ กัคโป ซึ่งยังพึ่งพาการยิงประตูไม่ได้มากนักจะต้องหวนกลับไปนั่งข้างสนามโดยที่แม้ ดิอาซ อาจสอยตาข่ายได้น้อยเกินไปเช่นกันจากโอกาสที่มี แต่ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดี และจะกดดันแผงหลัง เรือใบสีฟ้า ได้เยอะ เขาจึงยังมีความสำคัญต่อ เร้ด แมชีน
สุดท้ายที่ คล็อปป์ ต้องตัดสินใจคือตำแหน่งปีกขวาซึ่งแม้ ซาลาห์ จะฟิตกลับมาลงเล่นได้แล้วในฐานะตัวสำรองเกมล่าสุด แต่เขาได้อยู่ในสนามช่วง 16 นาทีสุดท้าย และไม่แน่ว่าจะได้ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกมในวันอาทิตย์นี้หรือเปล่าแม้ คิงโม เกือบสอยตาข่าย สปาร์ต้า ปราก ได้ก็ตามซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขายังมีพิษสงเต็มตัว
ในกรณีที่ คล็อปป์ เลือกจับดาวยิงทีมชาติ อียิปต์ ให้นั่งข้างสนามก่อน เอลเลียตต์ ซึ่งเป็นอีกรายที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าพอใจในระยะหลังจะได้ลงเล่นทางกราบขวาซึ่งเป็นตำแหน่งถนัดของเขาระบุ