สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/2024 เข้มข้นสูสีกันมากๆ โดยเฉพาะตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล ห้ามพลาดสะดุดแม้แต่แมตช์เดียว
"หงส์แดง" สามารถพลิกสถานการณ์คว้า 3 แต้มสำคัญจากประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขาเฉือนชนะ "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ โชว์ฟอร์มหรูทุบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สบายเกือก 3-1
ขณะที่ อาร์เซน่อล บอกเลยว่าฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจ แมตช์ล่าสุดบุกไปถล่มยังไม่นับญาติ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยในตารางลีก สกอร์ 6-0 ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่มีประตูได้เสีย 45 ลูกเหนือกว่า ลิเวอร์พูล (39) และ แมนฯ ซิตี้ (35) ไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสามทีมต้องบอกว่ามีโปรแกรมแน่นเอี๊ยดมากๆ เพราะพวกเขายังมีเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปกลางสัปดาห์ แต่ อาร์เซน่อล ไม่มีเกมฟุตบอลถ้วยในประเทศเพราะตกรอบเอฟเอ คัพ ไปแล้ว แต่ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ยังมีลุ้น และนั่นทำให้ทั้งสองต้องมีงานหนักมากกว่า "ปืนใหญ่"
ดังนั้นในช่วง 5 แมตช์ต่อไปในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของ "ม้าสามตัว" ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ เพราะหากทีมใดทีมหนึ่งเกิดพลาด นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะหลุดวงโคจรการลุ้นแชมป์ก็มีสูงเลยทีเดียว
ลิเวอร์พูล : 63 คะแนน
โปรแกรมต่อไปของ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าอาจจะเป็นแมตช์ชี้ชนะแชมป์ลีกก็ว่าได้เพราะพวกเขาต้องรับมือ แมนฯ ซิตี้ ที่สนามแอนฟิลด์ โดยถ้า "เดอะ เร้ดส์" ทำสำเร็จอาจจะเป็นการดับความหวังทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย
จากนั้นหลังพักเบรกทีมชาติพวกเขายังได้เล่นในบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ซึ่งมักจะสร้างความเจ็บปวดให้กับทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนจะเจองานเบารับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
ต่อมาพวกเขาต้องเจอกับเกมแห่งศักดิ์ศรีนั่นก็คือแมตช์ "แดงเดือด" เยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่ง "หงส์แดง" คงต้องการแก้เผ็ด "เร้ด เดวิลส์" ที่บุกมาเสมอที่แอนฟิลด์แบบไร้สกอร์ ตบท้ายอีกแมตช์นั่นก็คือการพบกับ คริสตัล พาเลซ
5 เกมลีกต่อไปของ ลิเวอร์พูล
10 มี.ค. : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)
31 มี.ค. : ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (เหย้า)
05 เม.ย. : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
07 เม.ย. : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
14 เม.ย. : คริสตัล พาเลซ (เหย้า)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 62 คะแนน
สำหรับ แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่าตอนนี้ฟอร์มของพวกเขากำลังติดลมบนสุดๆ ขนาดเกมล่าสุดที่ตกเป็นรอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในครึ่งแรก แต่ก็สามารถพลิกสถานการณ์ตะบันประตูแซงคู่อริร่วมเมืองได้แบบสบายๆ คว้าสามแต้มไปนอนกอดอย่างงดงาม
แน่นอนว่าทีมของ เป๊ป ค่อนข้างเจอโปรแกรโหดพอสมควร เพราะหลังแมตช์กับ "ผีแดง" ก็ต้องออกไปเยือนทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่สนามแอนฟิลด์ ตามด้วยการเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม แก้เผ็ด "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล
จากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นเดือนเมษายน พวกเขาต้องรับมือกกับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ซึ่งเคยสร้างความเจ็บปวดให้กับ "เรือใบสีฟ้า" มาแล้วที่วิลล่า พาร์ค ต่อไปก็เป็นการไปเยือน คริสตัล พาเลซ ตามด้วยงานเบาๆ รับมือ ลูตัน ทาวน์
5 เกมลีกต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
10 มี.ค. : ลิเวอร์พูล (เยือน)
31 มี.ค. : อาร์เซน่อล (เหย้า)
03 เม.ย. : แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
06 เม.ย. : คริสตัล พาเลซ (เยือน)
13 เม.ย. : ลูตัน ทาวน์ (เหย้า)
อาร์เซน่อล : 61 คะแนน
หลังจากที่ระเบิดฟอร์มโหดเหมือนโกรธ เชฟฯ ยูฯ งานต่อไปของพวกเขาก็ไม่ได้ยากเย็นมากนักเมื่อต้องรับมือ เบรนท์ฟอร์ด ที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม หลังจากนั้นก็ได้พักยาวเนื่องจากเกมพบ เชลซี ถูกเลื่อนออก และมีโปรแกรมพักเบรกทีมชาติคั่นกลาง
พอกลับมาแข่งกันต่อ อาร์เซน่อล ต้องเจองานสุดหินเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งพวกเขาเคยฝากรอยแค้นเอาไว้ให้กับ "เรือใบสีฟ้า" มาแล้วในแมตช์แรกที่บ้านของ "เด อะ กันเนอร์ส"
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้า จะเจองานเบาสบายเกือกเมื่อมีคิวรับมือ ลูตัน ทาวน์ ตามด้วยการไปเยือน ไบรท์ตัน และตบท้ายกลับบ้านมาปะทะกับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า
5 เกมลีกต่อไปของ อาร์เซน่อล
09 มี.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)
31 มี.ค. : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
03 เม.ย. : ลูตัน ทาวน์ (เหย้า)
06 เม.ย. : ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (เยือน)
13 เม.ย. : แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
ทอมเม้ง