ลิเวอร์พูล กำลังจะทำแต้มหล่นหายอยู่รอมร่อ ก่อนที่ ดาร์วิน นูนเญซ จะโขกประตูชัยให้พวกพรี่ๆ บุกมาเอาชนะ ฟอเรสต์ ในลีกสูงสุดที่ ซิตี้ กราวน์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1984 ในนาทีที่ 99
และต่อไปคือสิ่งที่กองแช่งอย่างผมอยากจะบอก
1.หงส์แดงต่ำกว่ามาตรฐานชัดเจนนะครับ
เกมรุกดูติดๆ ขัดๆ ไม่ดุดันเหมือนที่เคย แม้จะครองบอลบุกมากกว่า และหาโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่มันแทบไม่ได้สร้างความกดดันให้เจ้าถิ่นเลย
ตรงกลางขับเคลื่อนเกมไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ กองหน้าทั้ง 3 คนก็แทบไม่สร้างความลำบากใจให้เกมรับของเจ้าป่ามากนัก
เฉพาะอย่างยิ่งหน้าเป้าอย่าง โคดี้ คักโป เหมือนไม่มีตัวตน
2. นอกจาก ลิเวอร์พูล จะต่ำกว่ามาตรฐาน ฟอเรสต์ ก็เล่นเกมรับได้เหนียวแน่นแบบผิดคาด
ด้วยสูตร 4-4-2 ไม่ต่อกรกับผู้มาเยือนในแดนกลางอยู่แล้ว โดยอาศัยการตั้งรับลึกพลางตั้งด่านเป็นหน้ากระดาน 2 ชั้น ชั้นละ 4 ตัว จน "เรด แมชชีน" เจาะเข้าไปหาจังหวะจบสกอร์แบบเหน่งๆ แทบไม่เจอ
เท่านั้นไม่พอยังหาจังหวะโต้กลับแบบได้น้ำได้เนื้อ เกือบได้ประตูนำอยู่ 2-3 ครั้ง
3. เมื่อเกมรุกดูอืดๆ หนืดๆ ปราศจากความกะซวกไส้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาแก้ไข และนับตั้งแต่กองหน้าที่พวกพรี่ๆ เรียกอย่างน่ารักและน่าถีบว่า "น้องนุ่น" สับตีนบนฟลอร์หญ้า เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างชัดเจน
4. ฟอเรสต์ ที่อุตส่าห์เล่นเกมรับกันได้ดีมีวินัย แถมไม่แสดงความผิดพลาดอะไรน่าเกลียดออกมาตลอดทั้งเกม
สุดท้ายก็มาพลาดจนได้ในจังหวะเคลียร์ลูกเตะมุมครั้งสุดท้ายของเกม คือแทนที่จะเตะทิ้งไปให้ไกลๆ ดันทะลึ่งพยายามจะต่อบอลกันหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง
...ซะอย่างนั้น !!!
คิดแล้วก็เสียดายชิบหายเลยโว้ยยยย 5555
5. ดูเผินๆ เหมือนจะฟลุ๊คนะครับ
แต่ถ้าลูกทีมของกุนซือกะโปกเหล็กถอดใจ ไม่พยายามบุก จังหวะนั้นมันก็ไม่มีทางบังเกิดขึ้น
และที่ต้องชมมากกว่าคนทำประตูชัย คือคนที่บรรจงหยอดลูกนั้นเข้าไปในกรอบเขตโทษ
ตอนนั้นเวลากำลังจะหมดแล้ว ระเบิดกำลังจะทำงาน สถานการณ์กดดันหนักหน่วงและตึงเครียดสุดๆ
ทำไมช่างเลือดเย็นหยอดลูกไปลงหัวเพื่อนร่วมทีมอย่างแม่นยำซะขนาดนั้น...เฮ่ออออออ
โบนัส แทร็ค: ชนะแบบนี้ก็เอาแชมป์ไปเลยไป กูยอม !!!
บอ.บู๋