ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมสำคัญในการรับมือ ลูตัน ทาวน์ ที่สนามแอนฟิลด์ วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ โดยพวกเขาต้องการชัยชนะอย่างมาก ไม่ใช่แค่การได้สามคะแนนเพื่อฉีกความห่างของคะแนนกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล แต่ยังเป็นการสร้างความฮึกเหิมก่อนดวลกับ เชลซี ในการชิงโทรฟี่คาราบาว คัพ ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่สำคัญแมตช์ดังกล่าวสาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะใจหายนิดหน่อยเพราะมีแข้งบาดเจ็บหลายคน แถม "ช่างทำหมวก" ฟอร์มน่ากลัวไม่ใช่เล่นแม้จะแพ้เยอะ แต่พวกเขาก็สร้างปัญหากับคู่แข่งได้ตลอด ดังนั้นนี่ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ แอนด์ โค. แน่นอน
1. ต้องชนะเพื่อสร้างความฮึกเหิมก่อนนัดชิง คาราบาว คัพ
แมตช์นี้ไม่ใช่แค่สามคะแนนที่สำคัญเท่านั้น แต่มันยังเป็นชัยชนะที่มีความหมายต่อการสร้างขวัญกำลังใจให้กับเหล่าขุนพล "หงส์แดง" ก่อนจะทำศึกคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ปะทะ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้
ลูตัน ทาวน์ มีคิวเยือนถิ่นแอนฟิลด์ด้วยเป้าหมายที่จะคว้าคะแนนเพื่อสลัดตัวเองหลุดจากโซนตกชั้น โดยตอนนี้ทัพ "ช่างทำหมวก" มีแต้มเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 17 ซึ่งเป็นโซนปลอดภัย ฉะนั้นทุกแต้มที่เจอกับ ลิเวอร์พูล จึงมีความหมายกับพวกเขามากๆ
ขณะที่ "เดอะ เร้ดส์" ผลงานในลีก 7 เกมหลังสุดพวกเขาชนะ 6 แมตช์แพ้เกมเดียวให้กับ อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ จำเป็นต้องชนะเพราะจะได้ทำแต้มหนีห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "เดอะ กันเนอร์ส"
ที่สำคัญพวกเขายังต้องการกำลังใจเพื่อความฮึกเหิมก่อนจะดวลกับทีมของกุนซือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในการชิงโทรฟี่แชมป์รายการแรกของซีซั่น ดังนั้นการชนะ ลูตัน จึงมีความหมายมากกว่า 3 คะแนน แต่ในขณะเดียวกันการแพ้หรือเสมอก็อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจเช่นกัน !!
2. หงส์พิการน่าใจหาย
อาการบาดเจ็บกลับมาหลอกหลอน เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้ดันมาเกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ เพราะทีมกำลังเข้าสู่สถานการณ์ลุ้นความสำเร็จถึง 4 รายการเลยทีเดียว
เคอร์ติส โจนส์ และ ดีโอโก้ โชต้า ซึ่งเป็นสองแข้งที่กำลังเล่นได้อย่างเข้าฟอร์มสุดๆ แต่ตอนนี้พวกเขาเจอปัญหาโรคเดี้ยงเล่นงานในเกมถล่ม เบรนท์ฟอร์ด และคาดว่าคงจะต้องพักยาวเป็นเดือนแน่นอน
ส่วน ดาร์วิน นูนเญซ ที่โดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งของแมตช์ดังกล่าว น่าจะสามารถลงสนามในเกมรับมือ ลูตัน ทาวน์ ได้ แต่สำหรับ อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โดมินิค โซโบซไล ยังไม่สามารถช่วยทีมได้
แน่นอนว่านี่คือสถานการณ์สำคัญที่ คล็อปป์ ต้องหาทางแก้ปัญหาให้ได้ เพราะการขาดผู้เล่นกำลังหลักในช่วงเวลาที่ทีมมีโปรแกรมแน่นเอี๊ยดแบบนี้ อาจส่งผลกระทบทำให้ฟอร์มเป๋เอาได้ง่ายๆ
แต่กระนั้นมันก็เป็นบทพิสูจน์สภาพจิตใจและร่างกายของนักเตะลิเวอร์พูลว่าคู่ควรกับการลุ้นสร้างประวัติศาสตร์มั้ย !?
3. แข้งอันตรายลูตันระวังให้ดี
ตอนที่ ลูตัน ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนักเตะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก นอกจากสองจอมเก๋าชาวอังกฤษที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงพอสมควรนั่นก็คือ รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ แอนดรอส ทาวน์เซนด์
บาร์คลี่ย์ และ ทาวน์เซนด์ ย้ายมาร่วมทีมแบบฟรีเอเจนต์ และพวกเขาก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีหลายเกมที่ทั้งคู่ใช้ความเก๋าเกมช่วยทีม ยกตัวอย่างในแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งสองคนเล่นงานแข้ง "ผีแดง" จนปั่นป่วน แต่น่าเสียดายที่แนวรุกขาดความเฉียบคมทำให้ต้องแพ้คาบ้านตัวเอง
สำหรับ บาร์คลี่ย์ ปัจจุบันสามารถลงไปทำหน้าที่ เพลย์เมกเกอร์ที่ยืนต่ำ ได้อย่างยอดเยี่ยม และฟอร์มการเล่นของเขาทำให้มีโอกาสถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษ ลุยศึกยูโร 2024 เลยทีเดียว
ที่สำคัญการไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของ บาร์คลี่ย์ ถือเป็นแรงกระตุ้นพิเศษเพราะเขาเป็นเด็กเก่าสโมสรเอฟเวอร์ตัน คู่รักคู่แข่งของ "หงส์แดง" ดังนั้นเจ้าตัวอาจจะระเบิดพลังแฝงเพื่อหวังจะทำลายปาร์ตี้นับถอยหลังอำลา คล็อปป์ !
ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่ บาร์คลี่ย์ กับ ทาวน์เซนด์ ที่ ลิเวอร์พูล ต้องระวัง เพราะยังมีอีกคนที่อันตรายนั่นก็คือ คาร์ลตัน มอร์ริส ซึ่งเพิ่งยิงประตูในเกมแพ้ แมนฯ ยูฯ ก็อยู่ในฟอร์มที่ดีหลังซัดไป 7 ประตูในลีกซีซั่น 2023/2024
4. เอลเลียตต์ เตรียมเข้าสู่หลัก 100
ถ้าหากแมตช์ปะทะ ลูตัว ทาวน์ นั้น ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ได้ลงสนาม นั่นหมายความว่าเขาจะได้สวมชุด "หงส์แดง" ครบ 100 แมตช์ในทุกรายการ ซึ่งต้องบอกว่าเร็วมากๆ สำหรับนักเตะดาวรุ่งที่อายุเพียง 20 ปี
"เจ้าจุก" ถือเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของ คล็อปป์ สำหรับฤดูกาลนี้ โดยมีหลายเกมที่นักเตะลงมาเป็นตัวสำรอง และสามารถสร้างความแตกต่างช่วยให้ทีมคว้าคะแนนสำคัญได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ถ้าหาก เอลเลียตต์ ได้ลงเล่น นั่นหมายความว่าเขาจะเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 4 ในหน้าประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล ที่ลงเล่นครบ 100 เกมในวันเพียง 20 ปีกับ 323 วัน
ก่อนหน้านี้มีผู้เล่นวัยละอ่อนเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ทำได้นั่นก็คือ ไมเคิ่ล โอเว่น (19 ปีกับ 363 วัน), ราฮีม สเตอร์ลิง (20 ปีกับ 6 วัน) และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (20 ปีกับ 167 วัน)
ทั้งนี้ "เดอะ ก็อด" ลงสนามให้กับสโมสรทั้งหมด 369 เกม ขณะที่ "เซนต์ ไมเคิ่ล" ลงเล่นในนามแข้ง "เดอะ เร้ดส์" 297 แมตช์ และ สเตอร์ลิง สวมชุดลิเวอร์พูลจำนวน 129 เกม
5. รักษาระยะห่างการลุ้นแชมป์
ตอนนี้สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล แบบเต็มๆ ไม่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะชนะเกมตกค้างหรือไม่ก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะความได้เปรียบอยู่ที่ "หงส์แดง" อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามความได้เปรียบดังกล่าวจะหายไปทันทีหาก ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเก็บชัยชนะในแมตช์รับมือ ลูตัน ทาวน์ และจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับ "เรือใบสีฟ้า" และ อาร์เซน่อล ให้สามารถทำแต้มไล่บี้หายใจรดต้นคอ
ดังนั้น คล็อปป์ จำเป็นต้องเน้นย้ำลูกทีมให้เล่นด้วยความรัดกุม ไม่ประมาท และมีความเด็ดขาดในการจบสกอร์ ที่สำคัญก็ต้องไม่เล่นเสี่ยงจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้สถานการณ์ของทีมมีปัญหามากขึ้น
ด้วยเหตุนี้เกมกับ ลูตัน ไม่ใช่แค่สามคะแนน และการสร้างขวัญกำลังใจเท่านั้น แต่มันคือการขยายระยะห่างระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล เพื่อให้การลุ้นแชมป์อยู่ในมือของพวกเขาจนกระทั่งจบซีซั่น !!
ทอมเม้ง