แมนฯ ยูไนเต็ด เลือดตาแทบกระเด็นอีกตามเคยกว่าจะบุกไปเฉือนชนะทีมรองบ่อนอย่าง ลูตัน ได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในการลงเตะศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เคนิลเวิร์ธ โร้ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.โดยเกมนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ศูนย์หน้า ผีแดง เช็กบิลได้อีกแล้ว แถมเป็นเกมแรกในลีกอิงลิชที่เขาซัดได้สองเม็ดในเกมเดียวด้วยนับตั้งแต่ย้ายมาหากินกับ เร้ด เดวิลส์ ซึ่งถึงขณะนี้กวาดชัยชนะในเกมลีกได้สี่นัดติดต่อกันแล้วแม้ในหลายๆนัดจะเป็นไปแบบถูลู่ถูกังชวนให้สาวก เร้ด อาร์มี่ ลุ้นกันตัวโก่งตลอดเวลา
1. เจ้าถิ่นส่งอดีตสองแข้งผีออกสตาร์ต
ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้จัดการทีม ลูตัน ปรับทัพสองรายจากเกมล่าสุดที่โดน เชฟฯ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยบุกมาขยี้เละ 3-1 ถึง เคนิลเวิร์ธ โร้ด
และที่สำคัญ กุนซือ เดอะ แฮตเตอร์ส สร้างความฮือฮาด้วยการใช้งานอดีตสองขุนพล แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตทั้งคู่โดย เทเดน เมนจี้ กองหลังที่เกิดในเมืองแมนเชสเตอร์ได้ลงสนามแทน รีซ เบิร์ก ขณะที่ ทาฮิธ ชอง ดาวเตะดัตช์เบียด จอร์แดน คลาร์ก ไปนั่งข้างสนามเช่นกัน
กระนั้นก็ดี ก่อนเริ่มเกมไม่นาน เจ้าบ้านงานเข้ากระทันหันเนื่องจาก เอลิจาห์ อเดบาโย กองหน้าคนสำคัญเจ็บช่วงอบอุ่นร่างกาย และต้องเปลี่ยนให้ คอลีย์ วู้ดโรว อยู่ในโผตัวจริงแทน
2. เทน ฮาก โล่ง ชอว์ ฟิตลงบู๊ได้
เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับข่าวดีเมื่อ ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายคนสำคัญฟิตเต็มสูบลงเล่นเป็นตัวจริงได้หลังเจ้าตัวมีปัญหาบาดเจ็บ และโดนเปลี่ยนออกช่วงต้นครึ่งหลังเกมบุกไปคว่ำ แอสตัน วิลล่า 2-1 ให้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ลงเล่นแทน
ด้วยเหตุนี้ ผีแดง จึงใช้งาน 11 นักเตะชุดเดิมทุกรายจากเกมบุกไปคว้าสามแต้มได้ที่ วิลล่า พาร์ค โดย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ฮีโร่ที่ยิงประตูชัยยังสวมบทตัวสำรองต่อไป
3. ฮอยลุนด์ สร้างชื่อต่อเนื่อง
หลังจากเริ่มต้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างเลวร้ายโดยยิงประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้เลยตลอด 14 เกมแรกที่ได้ลงสนาม ราสมุส ฮอยลุนด์ ศูนย์หน้าทีมชาติ เดนมาร์ค ระเบิดตาข่ายในเกมลีกอิงลิชได้หกลูกแล้วจากหกนัดต่อเนื่องหลังได้ลูกส้มหล่นในเกมบุกมาเยือน ลูตัน ตั้งแต่วินาทีที่ 37
จากผลงานดังกล่าวทำให้ ฮอยลุนด์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด 21 ปี 14 วันที่พังประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ได้หกนัดติดต่อกันแทนที่ โจ วิลล็อค ที่สร้างสถิติเอาไว้ในวัย 21 ปี 272 วัน
เท่านั้นไม่พอ หลังจากเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 7 ฮอยลุนด์ ก็เพิ่มสกอร์ให้ ผีแดง นำห่าง 2-0 ด้วยแม้ว่าจะเป็นจังหวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ง้างยิงจากเส้น 18 หลามาแฉลบหน้าอกกองหน้าร่างยักษ์เข้าประตูเนื่องจากวิถีบอลจากปลายสตั๊ดของปีกทีมชาติ อาร์เจนติน่า น่าจะเฉี่ยวเสาออกไปหากไม่กระทบเพื่อนร่วมทีม
ถึงตรงนี้ อดีตกองหน้าทีม อตาลันต้า จึงคลำเป้าในเกม พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่าหนึ่งประตูเป็นนัดแรกเช่นกันนับตั้งแต่ย้ายมาหากินกับสังเวียนแข้ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด
4. ลูตัน ไม่เหมือนทีมท้ายตาราง
แม้จะเสียท่าให้อาคันตุกะสองประตูในเวลาแค่ 7 นาที แต่นับจากนั้น ลูตัน เล่นได้อย่างน่าเกรงขามโดยเฉพาะเกมรุกที่สร้างปัญหาให้ขุนพล ผีแดง ได้หลายรายทั้งกองกลางอย่าง กาเซมิโร่ และกองหลังอย่าง ชอว์ กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วที่ คลินตัน มอร์ริส จะยิงตีไข่แตกให้เจ้าบ้านได้ในนาทีที่ 14
จากภาพรวมใน 45 นาทีแรก ทีมของ เอ็ดเวิร์ดส์ เล่นเกมบู๊สะบั้นหั่นแหลกได้อย่างน่าดูชม และกดดัน แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่องจนทำให้พวกเขาไม่เหมือนทีมในกลุ่มท้ายตารางเลยแม้แต่น้อย ผิดกับ ผีแดง ที่ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างขี้เหร่ไม่เลิกแม้อาจคว้าผลลัพธ์ได้ตลอดในหลายเกมหลัง หากแต่ทีมของ เทน ฮาก ไม่เคยครองบอลได้เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม รวมถึงทีมน้องใหม่รายนี้ด้วย
นอกจากนี้ ต้องยอมรับกันว่าหาก เดอะ แฮตเตอร์ส จบสกอร์กันได้ดีกว่าที่เห็น บางทีพวกเขาอาจยิงประตูแซงนำ ผีแดง ได้หรืออย่างน้อยก็น่าจะตีเสมอได้เนื่องจากสถิติหลังจบ 45 นาทีแรกชี้ให้เห็นว่าเจ้าบ้านครองบอลได้เหนือกว่า 59:41% และได้ยิงประตูมากกว่าเช่นกัน 11-8 ครั้ง แต่อย่างที่บอกหากพวกเขาจบสกอร์ได้คมกว่านี้ก็น่าจะเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้มากขึ้นเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งบอลเข้ากรอบได้เหนือกว่า 4-2 ครั้งจากโอกาสที่มีน้อยกว่า
5. ลิ้นไม่ห้อยไม่ใช่ผีแดง
กลับเข้าครึ่งหลัง สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยน หากแต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ถูกกดดันหนักจนโอนไปเอนมาเหมือนในครึ่งแรกหลังจาก เทน ฮาก เปลี่ยน กาเซมีโร่ กับ แม็กไกวร์ ที่มีใบเหลืองติดตัวออกให้ จอนนี่ อีแวนส์ กับ แม็คโทมิเนย์ ลงไปรับช่วงแทน
ขณะเดียวกัน หลังใช้พลังไปมากในครึ่งแรกก็ดูเหมือนว่าดาวเตะ เดอะ แฮตเตอร์ จะออกอาการอ่อนล้าลงจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เบาใจไปได้เยอะ อีกทั้งขุนพลทีมเจ้าบ้านยังขยันยิงนกตกปลาเหมือนเดิมจากโอกาสที่มีเป็นระยะ กระทั่งทีมเยือนสามารถประคองตัวรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้ ตลอดจนมีโอกาสโต้กลับตลอดเวลาเช่นกัน
จวบจนนาทีสุดท้ายของการทดเวลา ลูตัน เกือบแชร์แต้มได้จากลูกโขกของ รอสส์ บาร์คลีย์ แต่บอลลอยเฉียดคานไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดจึงทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซิวสามแต้มได้แบบน้ำลายเหนียวอีกนัดจากผลลัพธ์ 2-1 โดยสถิติหลังครบ 90 นาทีบ่งชี้ว่าเจ้าบ้านยังครองบอลได้เหนือกว่า 58:42% แต่ฟอร์มในครึ่งหลังลดความน่าเกรงขามลงไปจึงทำให้ ผีแดง มีโอกาสยิงประตูทั้งหมด 22 ครั้งเท่ากับ ลูตัน แถมทีมเยือนส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 10-4 ครั้งซึ่งถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่เจ้าถิ่นจะต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ได้หากต้องการอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก เนื่องจากโอกาสส่องยิง 22 ครั้งของพวกเขาในเกมนี้เป็นตัวเลขที่มากที่สุดของสโมสรในเกมลีกซีซั่นนี้
อย่างไรก็ดี แม้ฟอร์มในสนามจะยังดูไม่จืดเหมือนเดิม แต่ที่แน่ๆ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานเกมเยือนของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่น่ายำเกรงอย่าบอกใครเนื่องจากพวกเขาคว้าชัยได้เป็นนัดที่ 7 แล้ว และเป็นรองแค่ แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล ที่กำชัยในเกมเยือนซีซั่นนี้ได้มากที่สุด 8 นัดเท่ากัน แถมทีมของ เทน ฮาก ชนะเกมเยือนตลอดทั้งสามนัดนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ปี 2024 ซะด้วย