Elite development coach หรือโค้ชด้านพัฒนาศักยภาพ คือตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อเยาวชน เป็นคนที่คอยเชื่อมช่องว่างระหว่าง อะคาเดมี่ กับทีมชุดใหญ่ให้แคบลง
วิตอร์ มาโตส คือคนที่ทำงานหน้าที่นั้นกับ ลิเวอร์พูล แต่การที่เขากำลังจะอำลาทีมไปพร้อม ๆ กับ เจอร์เก้น คล็อปป์, เป๊ป ไลน์เดอร์ส รวมถึง ปีเตอร์ คราเวียตซ์ กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่
ไม่ใช่ว่าทุกสโมสรจะมีคนทำงานในตำแหน่งนี้ มันเป็นตำแหน่งที่ให้คำจัดความได้ยาก
การหาคนมารับช่วงนี้จึงมีความสำคัญเช่นกัน
...
ตอนปี 2018 ลิเวอร์พูล ใช้เวลาพักใหญ่ในการหาโค้ชมือดีเข้ามารับงานโค้ชด้านพัฒนาศักยภาพต่อจาก ไลน์เดอร์ส ที่ก้าวขึ้นไปนั่งแท่นผู้ช่วยผู้จัดการทีม
กระทั่งเดือนตุลาคมปี 2019 สโมสรดึง วิตอร์ มาโตส โค้ชชาวโปรตุกีส มาจาก เอฟซี ปอร์โต้
คนที่ดีใจที่สุด แน่นอนคือเจ้าของตำแหน่งคนเดิมที่ถึงขั้นเอ่ยปากว่า "สำหรับผม เขาคือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้เลย"
ก่อนที่ ลิเวอร์พูล ย้ายสนามซ้อมหลักไปยัง แอ๊กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ซึ่งมีความทันสมัยสุด ๆ
บรรดานักเตะเยาวชนถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "กลุ่มที่มีพรสวรรค์ดี" และนักเตะในกลุ่มนี้มักจะได้เดินทางจาก เคิร์คบี้ ไปยัง เมลวู้ด เพื่อทำการซ้อมโดยมีสตาฟฟ์ในระดับทีมชุดใหญ่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ในตอนที่ ไลน์เดอร์ส ยังทำงานโค้ชด้านพัฒนาศัยภาพ เขาได้สร้าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขึ้นมา
เทรนต์ คือหนึ่งในคนแรก ๆ ที่ ไลน์เดอร์ส ระบุให้อยู่ในกลุ่มนั้น แล้วโน้มน้าวให้ คล็อปป์ ดึงดาวเตะสเกาเซอร์มาสู่ทีมชุดใหญ่จนได้ประเดิมสนามกับทีมในปี 2016
โค้ชด้านพัฒนาศัยภาพต้องทำหน้าที่ฝึกสอนบรรดาผู้เล่นอายุน้อย ๆ ปลูกฝังให้เด็ก ๆ มีความพร้อมก่อนจะก้าวขึ้นไปเล่นในระดับทีมชุดใหญ่
ขณะที่ตัวผู้จัดการทีมไม่ได้มีเวลามากพอที่จะไปดูเกมของทีมเยาวชนแบบทุกนัด การมีระบบแบบนี้เลยช่วยทำให้พวกนักเตะดาวรุ่งมีโอกาสโชว์ฝีเท้าต่อหน้ากุนซือได้
...
ไลน์เดอร์ส คือคนที่รู้จัก มาโตส ดีกว่าใคร
ทั้งสองคนเคยทำงานร่วมกันมาก่อนสมัยดูแลเด็ก ๆ ในทีมอะคาเดมี่ ปอร์โต้
ตอนนั้น ไลน์เดอร์ส มีหน้าที่รับผิดชอบโปรเจคต์อะคาเดมี่ ส่วน มาโตส เป็นหัวหน้าโค้ชทีมเยาวชนชุดที่อายุน้อยที่สุด และบ่อยครั้งทั้งคู่ก็ลงนำทีมซ้อมร่วมกัน
แน่นอน ไลน์เดอร์ส ก็คือคนที่แนะนำให้ ลิเวอร์พูล ดึง มาโตส เข้ามาทำงานตำแหน่งเดิมของตัวเอง เพราะทราบดีว่า มาโตส มีศักยภาพและความเก่งกาจมากเพียงใด
มาโตส จบปริญญาสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการศึกษาร่างกาย
เขารับหน้าที่โค้ชให้กับเด็ก ๆ ปอร์โต้ เป็นเวลา 5 ปี(2011-16) ก่อนจะออกไปหาประสบการณ์ที่ จีน ในฐานะโค้ชทีมรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชานตง ลู่เหนิง
ช่วงระหว่างที่ มาโตส ทำงานที่ จีน แผ่นดินใหญ่ ปอร์โต้ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเขากลับมาร่วมงานอีกครั้ง โดยประเด็นสำคัญคือ ปอร์โต้ ต้องการมีโค้ชเก่ง ๆ ที่จะพาผู้เล่นก้าวขึ้นไปอีกระดับหลังจากเสียเขาไป
ขณะที่ ลิเวอร์พูล ต้องการคนที่จะเข้ามาเป็นโค้ชพัฒนาเยาวชนซึ่งเป็นตำแหน่งที่ว่างลงจากการที่ ไลน์เดอร์ส ไปรับบทมือขวา ฝั่ง ปอร์โต้ ก็รู้ตัวแล้วว่า มาโตส จะไม่ได้อยู่กับทีมอีก
แค่ 1 ปีหลังกลับจาก จีน.. คล็อปป์ ที่ได้คำแนะนำจาก ไลน์เดอร์ส แล้วยิงสายตรงไปยัง ปอร์โต้ เพื่อติดต่อขอดึงตัว มาโตส ไปร่วมงาน
คล็อปป์ ดีใจมาก ๆ ตอนที่ ลิเวอร์พูล ได้ มาโตส มาร่วมงาน
เขารอคนที่จะเข้ามารับหน้าที่ตำแหน่งนี้ต่อจาก ไลน์เดอร์ส ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญสุด ๆ ต่อการพัฒนาศักยภาพของผู้เล่นดาวรุ่ง
"เขาเป็นคนฉลาด ภาษาอังกฤษของเขาดีมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่สำคัญ และเขาก็เคยทำงานให้กับหลายทีมมาก่อน แต่เขาฝึกฝีมือมาเป็นอย่างดีที่ ปอร์โต้ ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดีต่อเรา เพราะ เป๊ป(ไลน์เดอร์ส) ก็มาจากที่นั่นเหมือนกัน"
"เราทำงานในเรื่องนั้นมาพักหนึ่งแล้ว เรามีความคิดว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเรามีดาวรุ่งเก่ง ๆ อยู่ในทีมหลายคน"
"ดังนั้นเราเลยคิดว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่พวกเขาจะได้ทำงานกับโค้ชแบบเฉพาะเจาะจงของพวกเขาเอง เหมือนที่ เป๊ป เคยทำเมื่อหลายปีก่อนในตอนที่ผมเข้ามาทำงานกับทีม"
"ผมรู้สึกดีที่ตอนนี้ผมมีผู้ช่วยชั้นยอดคอยช่วยเหลือ แต่มันก็ทำให้เราเสียคนที่ครองตำแหน่งโค้ชด้านการพัฒนาไปเหมือนกัน"
"เราต้องหาคนมาทำงานในตำแหน่งนั้นแทนเขา ซึ่งเราก็ทำสำเร็จด้วยการได้โค้ชที่ยอดเยี่ยมและเก่งมากๆ เข้ามาทำงานให้กับทีม"
"เขาเป็นคนอายุน้อยที่มีประสบการณ์ล้นเหลือ ซึ่งมีคนแบบนั้นน้อยมาก ๆ เขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับการคุมทีมซ้อมมากถึง 6 หรือ 7 ครั้งต่อวันด้วย"
"เขามีประสบการณ์ล้นเหลืออยู่แล้ว และตอนนี้เราก็มีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนั้น มันจะเป็นผลดีต่อบรรดานักเตะเยาวชนแบบ 100 % เต็มเลย" บอสเจเค ระบุตอนปี 2019
...
มาโตส ได้รับการยกย่องว่าเป็นโค้ชที่มีความเฉลียวฉลาด พยายามพัฒนาตัวเองขึ้นทุก ๆ วัน จุดเด่นสำคัญคือการทุ่มเทให้ผู้เล่นซึ่งทำให้เขาแตกต่างไปจากโค้ชคนอื่น ๆ
มาโตส เป็นคนขี้อาย จึงพยายามเก็บตัวเงียบ ๆ หลีกเลี่ยงการตกเป็นที่สนใจตามหน้าสื่อ และให้สัมภาษณ์น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เมื่อใดที่ลงทีมฝึกซ้อม เขาจะเหมือน 'มังกร' และเป็นผู้นำอย่างแท้จริง
สำหรับผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล อย่าง คล็อปป์ การให้รางวัลเหล่าดาวรุ่งเป็นสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด
ตลอดช่วงเกือบ 9 ปีที่ คล็อปป์ ทำงานกับ ลิเวอร์พูล มีนักเตะจากระดับอะคาเดมี่ถึง 40 คนได้รับโอกาสให้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่
มันคือเรื่องราวที่สื่อถึงความสำเร็จในระยะยาวได้ และบรรดาดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ที่ได้ประเดิมสนามมันก็มีการเปลี่ยนไปอย่างมาก
จากนักเตะอย่าง โจ แม็กไกวร์ กับ เฮอร์บี้ เคน ไปเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ เคอร์ติส โจนส์
เมื่อผ่านไปแต่ละปี และภายใต้การดูแลของ อเล็กซ์ อิงเกิลธอร์ป ผู้อำนวยการด้านอะคาเดมี่ของสโมสร ระบบพัฒนาเยาวชน ลิเวอร์พูล ก็ดีขึ้นเอามาก ๆ จนเรียกได้ว่าเปลี่ยนจากการเน้นที่ ปริมาณ ไปเป็นการให้ความสำคัญในเรื่อง คุณภาพ
ตอนนี้ระบบพัฒนาเยาวชน ลิเวอร์พูล โดดเด่นกว่าสมัยก่อนเยอะ
เหล่านักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ชุดปัจจุบันนั้น เต็มไปด้วยนักเตะที่ผ่านการปลุกปั้นของ มาโตส มาเป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็น จาเรลล์ ควอนซาห์, คอเนอร์ แบรดลี่ย์, เบน โด๊ค, สเตฟาน บายเซติช, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, โอเว่น เบ็ค, ไทเลอร์ มอร์ตัน, ลุค แชมเบอร์ส, เคด กอร์ดอน ฯลฯ
มาโตส คือคนที่แนะนำให้ คล็อปป์ ใช้งาน บายเซติช จนทำให้กุนซือชาวเยอรมันเชื่อว่าเขาเจอนักเตะตำแหน่งเบอร์ 6 ที่เหมาะสมในระยะยาวแล้ว
ในหนังสือของ ไลจ์นเดอร์ส ที่ชื่อว่า Intensity: Inside Liverpool FC นั้น เขาเล่าความหลังถึงตอนที่เจรจากับ มาโตส เกี่ยวกับตอนที่ บ็อบบี้ คล้าร์ก กำลังจะย้ายมาจาก นิวคาสเซิ่ล
"มันเหมือนกับว่าหมอนี่มีเวลาในวันหนึ่งมากถึง 32 ชั่วโมงเลย" ไลน์เดอร์ส กับ คล็อปป์ ในตอนนั้น
บรรดาสตาฟฟ์ทีมชุดใหญ่ตั้งฉายา มาโตส ว่า "วิตอร์พีเดีย" (Vitorpedia)
เพราะเขามีความรู้เรื่องนักเตะและโค้ชอย่างกว้างขวาง และความไม่ย่อท้อต่อเรื่องใด ๆ ทำให้เขาประสบความสำเร็จกับการทำงานในตำแหน่งโค้ชด้านพัฒนาศักยภาพระดับสูง
อิทธิพลของ มาโตส มันมีมากกว่าแค่การผลักดันนักเตะระดับเยาวชนสู่ทีมชุดใหญ่
คล็อปป์ กับ ไลจ์นเดอร์ส พึ่งพาแทกติกจากมันสมองของเขามากขึ้น โดยที่ มาโตส เป็นคนนำการซ้อมที่ แอ็กซ่า เป็นประจำ
"เขาเป็นโค้ชที่พิเศษและมีความจงรักภักดีมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย" ไลน์เดอร์ส ให้คำนิยามถึง มาโตส เอาไว้แบบนั้น
แล้วหลังจากนี้ มาโตส ก็จะกลายเป็นมือขวาของเพื่อนชาวดัตช์ ในตอนที่ ไลน์เดอร์ส ไปรับงานคุมทีมระดับทีมชุดใหญ่
...
การหาตัวแทน มาโตส นับเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในช่วงซัมเมอร์นี้เช่นกัน
มันจะเป็นงานที่ยากมาก ๆ
ใครก็ตามที่เข้ามารับงานต่อจากเขาจำเป็นต้องทำงานในแบบที่สอดคล้องกับแนวทางของกุนซือคนใหม่
ขณะที่ เอฟเอสจี ก็น่าจะสนับสนุนการให้ความสำคัญในการพัฒนาเยาวชนเหมือนกันในตอนที่หาตัวแทน คล็อปป์
ถ้ามันไม่เป็นแบบนั้น มันก็มีความเสี่ยงสูงมาก ๆ ที่การทำงานอย่างขยันขันแข็งมาเกือบ 1 ทศวรรษจะกลายเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์
ดาวรุ่งสายเลือดใหม่อย่าง เจย์เดน แดนน์ส, ลูอิส คูมาส, เทรย์ เอ็นโยนี่ ฯลฯ อาจตกอยู่ในสภาพเคว้งคว้าง
ถ้าเป็นแบบนั้น คงไม่น่าแปลกใจที่การหาตัวแทนของ มาโตส จะเป็นภารกิจลำดับสุดท้ายเพื่อมองแนวทางจากตัวผู้จัดการทีมกับผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ก่อน
นอกจากว่าพวกเขาจะผลักดันให้คนอื่น ๆ ที่อยู่กับทีมอยู่แล้วมารับงานต่อ
ยกตัวอย่างเช่น นิค มาร์แชลล์ ผู้ช่วยอะคาเดมี่ของ อิงเกิลธอร์ป โดยที่ มาร์แชลล์ ก็มีใบอนุญาตการทำงานระดับโปรไลเซนส์ระดับ ยูฟ่า อยู่แล้ว
การหาตัวแทน มาโตส เป็นเรื่องที่ เอฟเอสจี จำเป็นต้องตัดสินใจให้ดีเพื่อที่จะสามารถรักษายุคสมัยแห่งตำนานของ คล็อปป์ ให้คงอยู่ต่อไป
-HOSSALONSO-