ปีทองของปืนใหญ่! 5 เหตุผลพา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปีทองของปืนใหญ่! 5 เหตุผลพา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล กลับคืนสู่เส้นทางการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างเต็มตัวอีกครั้งหลังสร้างผลงานคว้าชัยชนะได้แบบ 100% ในสี่เกมหลัง

ก่อนบุกไปถล่ม เวสต์แฮม 6-0 ในเกมล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เดอะ กันเนอร์ส จัดการหยุดผลงานอันร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงได้สำเร็จด้วยการเปิดบ้านขยี้ หงส์แดง 3-1

ถึงขณะนี้ ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า รั้งอันดับสามของตารางคะแนนโดยมี 52 แต้มเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูง และตามหลัง  เร้ด แมชีน สองแต้ม

จากสถานการณ์ที่ปรากฏ แชมป์เก่า มีโอกาสป้องกันแชมป์ได้สูงที่สุดเนื่องจากลงเล่นน้อยกว่า ลิเวอร์พูล หนึ่งเกมอันหมายความว่าหาก เรือใบสีฟ้า กำชัยชนะได้ในนัดตกค้าง ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็จะนำหน้าบนหัวตารางแทน

อย่างไรก็ดี ในเกมลูกหนังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าซีซั่นจะปิดฉาก และนี่คือ 5 เหตุผลที่พร้อมดลบันดาลให้ทีม ปืนใหญ่  กลับไปคว้าโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2003/04

- ความมั่นใจ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในเกมบุกไปเยือน เวสต์แฮม ทีม ปืนใหญ่ ร่ายเพลงเตะกันได้อย่างท็อปฟอร์ม และในจำนวนหกประตูที่กระซวกตาข่ายเจ้าบ้าน ขุนพลของ อาร์เตต้า ดาหน้ากันสอยตาข่ายได้คนละตุงทั้ง วิลเลี่ยม ซาลิบา , กาเบรียล มากัลเญส , เลอันโดร ทรอสซาร์ และ เดแคลน ไรซ์ ยกเว้น บูคาโย่ ซาก้า ที่ตะบันได้สองประตู

ยิ่งไปกว่านั้น แค่ครึ่งแรก อาร์เซน่อล ก็ไล่ต้อนเจ้าบ้านได้ถึงสี่ประตูแล้ว และส่งผลให้สาวก เดอะ แฮมเมอร์ส หลายพันคนพากันเดินออกจากสนามทันทีเนื่องจากทนดูภาพบาดตาบาดใจไม่ไหวที่เห็นทีมรักเป็นรองอาคันตุกะทุกกระบวนท่า

แม้จะยิงประตูได้เป็นเข่ง แต่ในอีกมุม อาร์เซน่อล ถือเป็นทีมที่มีสถิติเกมรับที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เนื่องจากพวกเขาเสียประตูน้อยที่สุด 22 เม็ดจากการลงบู๊ 24 นัดซึ่งทำให้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง หงส์แดง แสดงมุมมองว่าเกมรับที่แข็งแกร่งมีโอกาสทำให้ทีมเมืองหลวงสมหวังในซีซั่นนี้

- คว่ำคู่ปรับโดยตรง

มองจากทีมที่มีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้ เชื่อกันว่ามันจะเป็นศึกสามเส้าระหว่าง ลิเวอร์พูล , แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล

สำหรับ สเปอร์ส ทีมอันดับสี่แม้จะมีแต้มตามหลัง เดอะ กันเนอร์ส ห้าแต้ม แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด มั่นใจว่า ไก่เดือยทอง ยังไม่ดีพอที่จะมีสิทธิ์คิดฝัน

ถ้างั้นหากจะมีสามทีมที่ได้ลุ้นคว้าความสำเร็จชิ้นใหญ่ ทีมของ อาร์เตต้า ก็มีโอกาสไม่น้อยเนื่องจากสองเกมที่ฟัดกับ หงส์แดง พวกเขาเก็บมาได้สี่แต้มจากผลเสมอ 1-1 ที่ แอนฟิลด์ ก่อนเปิดบ้านหักปีก หงส์แดง หมาดๆ 3-1

สำหรับ แมนฯ ซิตี้ อาร์เตต้า คุมทีมพิชิต เรือใบสีฟ้า ในซีซั่นนี้ได้ 1-0 เช่นกันที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และมีคิวบุกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ซึ่งหากสโมสรจากลอนดอนยังมีผลงานที่ดีต่ออีกนัดก็เท่ากับว่าพวกเขามีโอกาสคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดีอย่างแน่นอน

- ผู้นำเต็มทีม

ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล ถูกโจมตีว่าไม่มีนักเตะระดับผู้นำที่แท้จริงจึงส่งผลให้สโมสรตกต่ำอยู่นาน

ต่อประเด็นนี้ เราสามารถวัดจากสองซีซั่นที่ผ่านมาได้เนื่องจากพวกเขาออกอาการแผ่วปลายจนถึงกับพลาดการคว้าโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ สเปอร์ส ก่อนอกหักชวดได้แชมป์ลีกเมื่อซีซั่นก่อนโดยถูก แมนฯ ซิตี้ เร่งเครื่องปาดหน้าเข้าเส้นชัย

กระทั่งถึงซีซั่นนี้ นักเตะ ปืนใหญ่ ถูกมองว่ามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นที่สามารถแบกรับแรงกดดันในสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีขึ้นจนส่งผลให้สโมสรมีผลงานที่น่าพอใจ

แม้ มาร์ติน โอเดการ์ด ดาวเตะทีมชาติ นอรเวย์ จะถูกโจมตีว่าไม่เหมาะที่จะได้สวมปลอกแขนเนื่องจาก เดแคลน ไรซ์ สมควรได้รับภาระดังกล่าวมากกว่า แต่นอกเหนือจากคู่นี้แล้วพลพรรค ท็อปกัน หลายรายต่างก็มีความเป็นผู้นำที่มากขึ้นด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น บูคาโย่ ซาก้า หรือว่า วิลเลี่ยม ซาลิบา

- โปรแกรมที่เบาบาง

โบราณว่าได้อย่างเสียอย่าง และถึงตอนนี้ อาร์เซน่อล ตกรอบฟุตบอลถ้วยทั้งสองใบในประเทศไปแล้วไม่ว่าจะเป็น คาราบาวคัพ ที่พวกเขาพ่ายต่อ เวสต์แฮม 3-1 ในรอบสี่และ เอฟเอคัพ ที่ทีม ปืนใหญ่ เสียท่าให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-0 ตั้งแต่รอบสาม

ฉะนั้นแล้ว จึงเท่ากับว่าทีมของ อาร์เตต้า สามารถทุ่มเทให้กับการเก็บแต้มใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างเต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อีกทั้งโปรแกรมที่ลดน้อยลงไปจะส่งผลทำให้นักเตะไม่อ่อนล้าเหมือนทีมคู่แข่งที่ยังต้องลงสนามอย่างถี่ยิบในหลายๆรายการ

นอกจาก พรีเมียร์ลีก แล้ว อาร์เซน่อล เหลือเกมในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ลงเล่นเช่นกันหลังจากพวกเขาสร้างผลงานได้ดีโดยทะลุเข้ารอบ 16 ทีมได้สำเร็จในฐานะแชมป์กลุ่มที่มี พีเอสวี , ล็องส์ และ เซบีย่า เป็นคู่แข่งโดยพวกเขามีคิวบุกไปเยือน ปอร์โต้ วันที่ 21 ก.พ.ก่อนกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 12 มี.ค.

- อาร์เตต้า

เอ่ยชื่อ อาร์เตต้า หลังได้รับวิชาความรู้จาก กวาร์ดิโอล่า สมัยเป็นมือขวาเจ้านายร่วมชาติในทีม แมนฯ ซิตี้ ก็ย่อมทำให้เขาเก็บเล็กผสมน้อยกลเม็ดเด็ดพรายต่างๆติดตัวมาหลังได้เรียนรู้งานจากผู้จัดการทีมที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลกยุคนี้

หลังร้างราจากตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก นานถึง 20 ปี อาร์เตต้า แสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะที่จะพาทีมกลับไปประสบความสำเร็จดังเดิมมากที่สุด

นับตั้งแต่ได้รับงานต่อจาก อูไน เอเมรี่ เมื่อเดือนธ.ค.2019 อาร์เตต้า พาทีม ปืนใหญ่ ซิวแชมป์ได้หนึ่งรายการแล้วอันได้แก่ เอฟเอคัพ ซีซั่น 2019/20 ที่พวกเขากำราบ เชลซี 2-1 หากไม่นับรวมฟุตบอลการกุศล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2020 และ 2023 ที่ทีมเมืองกรุงสยบ ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ด้วยการดวลลูกโทษทั้งสองหน

ถึงตอนนี้ มันจึงอาจสมควรแก่เวลาแล้วที่ อาร์เตต้า จะประกาศศักดาได้แบบเต็มศักยภาพเนื่องจากไม่เพียง อาร์เซน่อล จะมีขุมกำลังที่ดี หากแต่พวกเขามีผู้จัดการทีมฝีมือดีเช่นกัน


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport