เออร์ลิง ฮาลันด์ กลับมาทะลวงประตูอีกครั้งแถมสร้างสถิติใหม่ พรีเมียร์ลีก-เควิน เดอ บรอยน์ จอมแอสซิสต์! เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจจากเกม แมนฯ ซิตี้ ทุบ เอฟเวอร์ตัน
เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำทัพ "เรือใบสีฟ้า" ผงาดแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก เป็นการชั่วคราว หลังเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์
แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 52 คะแนนจาก 23 นัด ขณะที่ ลิเวอร์พูล มี 51 คะแนนจาก 23 นัดเท่ากัน ก่อนที่ "หงส์แดง" จะลงเล่นกับ เบิร์นลี่ย์ ที่สนาม แอนฟิลด์ คืนวันเดียวกันนี้ (22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
จากชัยชนะของ "เรือใบสีฟ้า" มี 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. เรือใบยังแกร่งในบ้าน
แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ใครมา 22 นัดเหย้าในเกม พรีเมียร์ลีก (ชนะ 18 เสมอ 4) และแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 35 เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยต้องย้อนไปถึงนัดที่เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด ช่วงปลายปี 2022
นอกจากนั้น "เรือใบสีฟ้า" ยังชนะใน พรีเมียร์ลีก มา 6 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้ว (เอฟเวอร์ตัน, เชฟฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล, เบิร์นลี่ย์, เบรนท์ฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน) ขณะที่การเจอกับ เอฟเวอร์ตัน 12 หนหลังสุดก็ชนะได้ถึง 11 และเสมอ 1
ส่วน เอฟเวอร์ตัน ต้องลุ้นหนักกับการหนีตกชั้น หลังรั้งอันดับ 18 มี 19 คะแนนจาก 24 นัด แถม 11 นัดหลังสุดยังชนะแค่เกมเดียวในทุกรายการอีกต่างหาก
2. ฮาลันด์ มาแล้ว
เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ มีอาการบาดเจ็บที่เท้าเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา ก่อนเพิ่งกลับมาเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ซิตี้ ในเกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฮาลันด์ ไม่ได้ยิงมานานทำให้ไม่ขยับจากที่ซัดใน พรีเมียร์ลีก ไป 14 ลูก นำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่ง ลิเวอร์พูล และโดน โดมินิค โซลันกี้ กองหน้า บอร์นมัธ ไล่มา
เหลือแค่ลูกเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฮาลันด์ กลับมาทำประตูได้แล้ว หลังซัดใส่ เอฟเวอร์ตัน ในนาทีที่ 71 ซึ่งเป็นการยิงตรงกรอบครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย ก่อนมายิงอีกให้ทีมนำ 2-0 นาทีที่ 85 พา "เรือใบสีฟ้า"
แซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราวได้สำเร็จ
3. สถิติใหม่ พรีเมียร์ลีก
นอกจากขึ้นไปนำดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก เดี่ยวๆ ที่จำนวน 16 ประตู ทิ้ง ซาลาห์ ไป 2 ลูกแล้วนั้น ฮาลันด์ ยังสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอีกด้วย
ฮาลันด์ ยิงไปแล้ว 51 ประตู จากการออกสตาร์ตเป็นตัวจริง พรีเมียร์ลีก 50 นัด ทำให้กลายเป็นนักเตะที่ยิงได้มากสุดกับการลงเล่น 50 เกมแรก
4. เดอ บรอยน์ สร้างความสั่นสะเทือน
เกมนี้ เป็ป พัก เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม เป็นตัวสำรอง หลังเพิ่งหายเจ็บกลับมาไม่นาน ก่อนส่งลงสนามในนาทีที่ 57
ก่อนเกมนี้ เดอ บรอยน์ ได้มีโอกาสลงเล่นมาแล้ว 5 นัด ทำได้ 1 ประตู และ 4 แอสซิสต์ และมานัดนี้ดาวเตะเบลเจี้ยน ก็เป็นคนจ่ายให้ ฮาลันด์ ยิงตอกฝาโลง
เดอ บรอยน์ ทำไปแล้ว 151 แอสซิสต์ ให้ แมนฯ ซิตี้ ในการลงเล่นทุกรายการ และแน่นอนว่า การกลับมาของเขาก็ทำให้ พรีเมียร์ลีก สั่นสะเทือน
5. โปรแกรมหนักรอเรืออยู่
แมนฯ ซิตี้ ยังอยู่ในเส้นทางลุ้น 3 แชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ อย่างไรก็ตาม เป็ป ออกตัวไว้แล้วว่า คงเป็นเรื่องยากมากๆ และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ได้สองฤดูกาลติดต่อกัน
ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น "เรือใบสีฟ้า" จะเจอกับ โคเปนเฮเก้น ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยนัดแรกจะไปเยือนก่อนวันอังคารที่ 13 ก.พ. ก่อนกลับมาเล่นในบ้านนัดสองวันที่ 7 มี.ค. ส่วน เอฟเอ คัพ รอบ 5 จะไปเยือน ลูตัน ทาวน์ วันที่ 27 ก.พ.นี้
ขณะที่โปรแกรม พรีเมียร์ลีก 5 นัดต่อไปของ แมนฯ ซิตี้ ถือว่า ไม่ใช่งานง่ายเลยโดยเกมหน้าจะรับมือ เชลซี ต่อด้วยรับ เบรนท์ฟอร์ด แล้วออกไปเยือน บอร์นมัธ จากนั้นเปิดบ้านเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง แล้วออกไปเยือน ลิเวอร์พูล