ช่วงนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019/20 เจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานนัดมานั่งดื่มกันที่โรงแรม กุต บรันด์ลอฟ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองที่สวยงามอย่าง ซาลเฟลเด้น
ทุกคู่สายตาจับจ้องไปที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ซึ่งทำผลงานโดดเด่นตลอดทั้งเกม และเป็นคีย์แมนสำคัญในการช่วยให้ บาเยิร์น คว้าแชมป์ยุโรปมาครอง
ฟอร์มการเล่นของเขาทำให้ คล็อปป์ ที่เชื่อมั่นในฝีเท้า ติอาโก้ อยู่แล้วก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นไปอีกว่า นี่คือนักเตะชั้นยอดที่จะเข้ามาเพิ่มมิติใหม่ ๆ ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้
คล็อปป์ ยกให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ครบเครื่องมากที่สุด และเป็นกองกลางที่มีความสมดุลมากที่สุดเท่าที่ตัวเองเคยเห็นมา
คล็อปป์ กับ เป๊ป ไลน์เดอร์ส มือขวาคนสนิทมักคุยกันอยู่ประจำว่า ลิเวอร์พูล ยังจำเป็นต้องเป็นทีมที่ -คาดเดาไม่ได้- ต่อไป
ทั้งคู่อยากให้บรรดาคู่แข่งคาดการณ์ไม่ถูกว่า ลิเวอร์พูล คิดจะทำอะไร
นี่คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาทำงานกันอย่างหนักเพื่อรับประกันว่าสไตล์การเล่นของทีมจะพัฒนาขึ้นในทุก ๆ ปี
...
ตอนแรก ติอาโก้ ใกล้ต่อสัญญาฉบับใหม่กับ บาเยิร์น มิวนิค อีก 4 ปี ด้วยตัวเลขค่าเหนื่อยคือ 12 ล้านปอนด์ต่อปี หรือราว ๆ 230,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
แต่มีเสียงปลายสายตอนช่วงเดือนมิถุนายน คาบข่าวกระซิบบอกว่า คล็อปป์ ต้องการให้ย้ายมาร่วมงานกันที่ ลิเวอร์พูล
เพียงแค่นั้น ดาวเตะพรสวรรค์สแปนิช ก็เปลี่ยนใจ
"ช่วงต้น ๆ ปีนี้ ดูเหมือนว่าเขาเตรียมจะขยายสัญญากับ บาเยิร์น มิวนิค แล้วล่ะ แต่จากนั้น ความสนใจของลิเวอร์พูล เพิ่มมากขึ้นและนั่นก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทันที" เพื่อนของครอบครัว ติอาโก้ เผยกับ ดิ แอธเลติก
"การคุยกันอย่างจริงจังกับ ลิเวอร์พูล เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อราว 3 เดือนก่อน(ก่อนย้าย) มีข่าวลือเกี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ความสนใจจาก ลิเวอร์พูล ชัดเจนเอามาก ๆ และมีความตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกเลยด้วย"
"เขามั่นใจมานานหลายเดือนแล้วว่าเขาจะได้ย้ายไปอยู่กับที่นั่นแน่ ๆ "
...
คล็อปป์ ชื่นชอบ ติอาโก้ มานาน และชัดเจนว่า ติอาโก้ ก็นับถือตัวกุนซือเยอรมัน
ความรู้สึกนั้นของ ติอาโก้ เกิดขึ้นจากการที่เขาได้พูดคุยกับ คล็อปป์ ตอนเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2019 ที่ บาเยิร์น มิวนิค ของเขาแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 คารัง อัลลิอันซ์ อารีน่า
ซึ่งช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ติอาโก้ เพิ่งทึ่งกับบรรยากาศสนาม แอนฟิลด์ จากเกมเลกแรกที่ทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
และการได้เห็น ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/20 ก็ยิ่งทำให้เขาอยากสัมผัสกับเกมลีกสูงสุด อังกฤษ สักครั้งหนึ่งในชีวิตมากขึ้น
หลังอิ่มเอม คว้าโทรฟี่มากมายตลอด 7 ปีที่ เยอรมนี ติอาโก้ บอกกับทาง บาเยิร์น ว่าต้องการหาความท้าทายใหม่ ๆ ข้อเสนอสัญญาใหม่ถูกปฏิเสธ ติอาโก้ แน่วแน่ที่จะย้ายออกจากทีม
โดยตอนจบฤดูกาล 2019/20 เขากล่าวอำลากับเพื่อน ๆ และไม่คิดว่าตัวเองจะกลับมาศูนย์ฝึกซ้อม ซาเบเนอร์ สตราสส์ อีก
ส่วนบ้านพักในเมืองมิวนิค ติอาโก้ ก็ขายไปเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การย้ายทีมยังไม่เกิดขึ้น ติอาโก้ ต้องรอต่อไป และเขากลับมาร่วมซ้อมช่วงพรี-ซีซั่น 2020/21 กับ บาเยิร์น อีกครั้งหลังจบช่วงปฏิทินทีมชาติ
แต่ท้ายที่สุด ช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2020 ติอาโก้ ได้รับการแจ้งว่า ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ และ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช สองผู้อำนวยการกีฬาของ ลิเวอร์พูล กับ บาเยิร์น บรรลุข้อตกลงกันได้แล้ว
ติอาโก้ บอกลาเพื่อนร่วมทีมกับสตาฟฟ์อีกครั้ง และ ฮันซี่ ฟลิค เทรนเนอร์ บาเยิร์น ก็แสดงความยินดีกับ คล็อปป์ ที่ได้นักเตะชั้นยอดและคนที่นิสัยดีมาก ๆ ไปร่วมทีม
"เขาเป็นหนึ่งในคนชั้นยอด และเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพมากที่สุดของโลก"
"สำหรับ ลิเวอร์พูล แล้ว มันคือฝันที่เป็นจริงสำหรับเขา เขาใฝ่ฝันที่จะได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก มานานแล้ว" ฟลิค ให้สัมภาษณ์ในวันนั้นทันที
เมื่อทั้งสองทีมตกลงกันได้ และเรื่องค่าเหนื่อยเป็นที่ยอมรับซึ่งกันและกันที่จำนวน 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
จิม โมซอน แพทย์ของ ลิเวอร์พูล บินตรงไปยัง มิวนิค ทันทีเพื่อตรวจร่างกายของว่าที่นักเตะใหม่
และเสื้อหมายเลข 6 ที่ ติอาโก้ ชื่นชอบก็ตกเป็นของเขา หลัง เดยัน ลอฟเรน เจ้าของคนเก่าย้ายไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก
คล็อปป์ ได้คนที่ตัวเองมองว่าเก่งจนถึงขั้นเป็น -ตัวเปลี่ยนเกม- มาร่วมทัพ
เขาพยายามเรียกร้องอย่างหนักเพื่อให้ดีลนี้ลุล่วงได้ด้วยดี และสุดท้าย ไมค์ กอร์ดอน ประธานของ FSG และ เอ็ดเวิร์ดส์ ก็จัดให้ตามคำขอ
...
ตอนนั้น การมาของ ติอาโก้ ถือว่าขัดแย้งต่อนโยบายการเสริมทัพสโมสร
ลิเวอร์พูล ชอบนโยบายการลงทุนกับแข้งดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงอยู่เสมอ
ขณะที่ คล็อปป์ เองก็มีนิสัยชอบปั้นนักเตะให้ก้าวไปเป็นผู้เล่นระดับโลกมากกว่าการซื้อคนที่เข้าข่ายเป็นแข้งชั้นยอดอยู่แล้ว
ขนาดพวกที่มีค่าตัวสูง ๆ อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ อลีสซง ก็ไม่ได้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากนักในตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่กับทีม ซึ่งต่างกับ ติอาโก้ อย่างสิ้นเชิง
ติอาโก้ คือผู้เล่นอายุเกิน 26 ปีคนแรกที่ คล็อปป์ ยอมจ่ายเงินเพื่อได้ตัวมา นับตั้งแต่ปี 2016 ต่อจาก รักนาร์ คลาวาน เซนเตอร์แบ็กเอสโตเนียน ที่เขายอมใช้เงิน 4.2 ล้านปอนด์ดึงมาร่วมทีมจาก เอาก์สบวร์ก
มันไม่ใช่ว่าทีมนักวิเคราะห์ข้อมูลของ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายต่อรองให้สโมสรยืดระยะเวลาการไล่ล่าตัว ติอาโก้
ที่จริงแล้วดีลนี้เลยระยะเวลาการแนะนำเรื่องการเสริมทัพของทีมแล้วด้วยซ้ำ
แต่ทว่า เอ็ดเวิร์ดส์ ขอให้ทีมงานนักวิเคราะห์ช่วยกันประเมินตัวเลขผลงานของ ติอาโก้
ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ก็แสดงให้เห็นถึงเหตุผลว่าทำไม คล็อปป์ ถึงอยากได้ผู้เล่นคนนี้เข้ามาร่วมทีมเป็นอย่างมาก
ความเชี่ยวชาญในการผ่านบอลและการเล่นอย่างสร้างสรรค์ของ ติอาโก้ เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาอยู่แล้ว
แต่จุดเด่นด้านอื่นของเขาที่ถือว่ามีความสำคัญต่อ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างมาก คือผลงานด้านการแย่งบอลกลับมาครอง และการเล่นในพื้นที่แคบ ๆ ด้วยการเก็บบอลเอาไว้กับตัวในตอนที่เจอกับสถานการณ์กดดัน
ติอาโก้ มีคุณสมบัติทุกอย่างตรงตามที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ..
...
เรื่องอาการบาดเจ็บของเขาเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล
ติอาโก้ เคยมีอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่ารุนแรงเมื่อปี 2014 ส่งผลให้เขาต้องพักนาน 1 ปี
แต่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ เมื่อเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นนักเตะที่แข็งแรงสุด ๆ ด้วยการลงเล่นทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติถึง 220 เกมตลอดช่วง 5 ฤดูกาลก่อนย้ายมา
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไป 4 ปี ติอาโก้ มีช่วงเวลาไม่น่าจดจำเท่าไหร่ในเสื้อสีแดงเพลิง
แม้ว่าเขาลงเล่นไป 98 นัด แต่จนถึงตอนนี้ ติอาโก้ ก็ไม่ได้ลงสนาม 98 เกมจากปัญหาอาการบาดเจ็บเช่นกัน
อิงตามข้อมูลจาก FBref แล้วก็พบว่าจากจำนวนเกมที่พอจะลงสนามได้นั้น เขากลับไม่เคยได้ลงเล่นเกิน 50% แม้แต่ฤดูกาลเดียวกับ ลิเวอร์พูล
โดยตลอดช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาเขามีค่าเฉลี่ยการได้ลงเล่นในสนามแค่ 45.5%
กลับกัน ช่วง 4 ฤดูกาลที่เคยอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เขาได้เล่นไปเฉลี่ยถึง 65.8 %
นอกจากนี้ ตลอดหลายปีที่กับ ลิเวอร์พูล ติอาโก้ ลงเล่นแบบครบ 90 นาที เพียงแค่ 30 นัด เทียบไม่ได้เลยกับตอนลงเล่นให้ บาเยิร์น ในฤดูกาล 2016-17 กับ 2018-19 ด้วยซ้ำ สองซีซั่นนั้นเขาได้เล่นครบ 90 นาทีไปทั้งหมด 33 เกมกับ 32 นัด ตามลำดับ
มันเป็นสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
หลังคืนสนามในรอบ 10 เดือนเกมบุกเยือน อาร์เซน่อล ติอาโก้ กลับบาดเจ็บอีกครั้ง
แล้วยังไม่ทราบว่า เขาจะได้กลับมาลงสนามในนามนักเตะ ลิเวอร์พูล อีกหรือไม่ เพราะสัญญากับสโมสรกำลังจะหมดในช่วงซัมเมอร์นี้
ติอาโก้ อัลกันตาร่า คือนักเตะชั้นยอดที่ถูกจำกัดโอกาสโชว์ฝีเท้าด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์
น่าเสียดายที่เราไม่ได้ความต่อเนื่องของเขากับ ลิเวอร์พูล
ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ คงคิดแบบนั้นไม่ต่างกัน
HOSSALONSO