ไม่ต่างกัน! สถิติชี้ โปเช็ตติโน่ คุม เชลซี โชว์ฟอร์มสูสียุค พ็อตเตอร์

หลังจากที่โดน วูล์ฟส์ บุกขย้ำ 4-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งไม่ช่วยอะไร กลายเป็นอาการหนักกว่าเก่า เสียพรุน 4 ตุงเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันถัดจากออกไปพ่าย ลิเวอร์พูล 1-4 ในแมตช์ชิมลางก่อนชิงคาราบาว คัพ

ตัดภาพไปที่ พ็อตเตอร์ ขณะถูกอัปเปหิในเดือนเม.ย.2023 ก็จากไปด้วยผลงานเลวร้ายในบ้านเช่นกันเมื่อโดน แอสตัน วิลล่า เผาเครื่องคาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 ก่อนที่สโมสรแต่งตั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด รักษาการแทนที่จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล

ต่อเมื่อผ่าน 31 เกมแข่งขันเท่ากัน สัญญาณชีพจรของ "โค้ชพอช" ยังดูไม่สู้ดีเอาเสียเลย จากคนที่ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ ตั้งความหวังว่าจะมาหลอมรวมขุมกำลังสายเลือดใหม่ ทำไปทำมาแทบไม่เห็นพัฒนาการใดๆ ทั้งสิ้น

สถิติจาก อ็อปต้า ฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้ระบุว่า พ็อตเตอร์ ผู้คุม เชลซี ลงเตะพรีเมียร์ลีกเพียง 22 เกม เทียบกับ โปเช็ตติโน่ ผ่านมาแล้ว 23 แมตช์นั้น คว้าชัยชนะได้ 12 นัดรวมทุกรายการ น้อยกว่านายใหญ่คนปัจจุบันชาวอาร์เจนไตน์ (14) และแน่นอนว่าค่าเฉลี่ยชนะของ 45.2% ของ พอช ย่อมต้องเหนือกว่าที่อดีตนายใหญ่ ไบรท์ตัน ทำเอาไว้ (38.7%)

ทีมในยุคของ พ็อตเตอร์ ยังเก็บผลเสมอ 8 นัดมากกว่า โปเช็ตติโน่ (6) แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแพ้ทุกรายการเท่ากันเป๊ะที่เลข 11

เด็กๆ ชุดปัจจุบันของ พอช พังตาข่ายได้มากกว่า พ็อตเตอร์ ตามยอดเลข 54 ต่อ 33

เกมรุกดีกว่า แต่เกมรับคนละเรื่อง เป็นปัญหาใหญ่หลวงที่อาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้เลยทีเดียว!

เวลานี้ เชลซี เสียไป 43 ประตูทุกรายการ โดย 39 ในจำนวนนั้นเกิดขึ้นบนเวทีพรีเมียร์ลีก เทียบกับ เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับหนีตกชั้นเพิ่งโดนส่อง 30 ตุงเท่านั้น ขณะที่ทีมสิงห์บลูส์ยุค พ็อตเตอร์ เสีย 31 ประตูในช่วงเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ ทีมพอชยังถูกคู่แข่งหาโอกาสยิงรวมทั้งสิ้น 368 ครั้ง ยุค พ็อตเตอร์ โดนไป 336 ค่าเฉลี่ยโดนส่องต่อประตูอยู่ที่ 37.7 เทียบกับ พอช สูงถึง 41

แน่นอนตัวเลขผลงานเกมรับเหล่านี้ย่อมไม่ทำให้เบื้องบนสโมสรปลาบปลื้มสักเท่าไร โดยเฉพาะหลังจากทุ่มทุนเสริมทัพให้อดีตกุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทะลุหลัก 400 ล้านปอนด์

รายงานผ่านสื่อหลายสำนักในอังกฤษยังเชื่อว่า โปเช็ตติโน่ ไม่ได้อยู่ภาวะอันตรายต่อการถูกสั่งปลด แม้ผลงานไม่ตอบโจทย์ หล่นอยู่อันดับ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีกก็ตาม

อย่างไรก็ดี หากจะจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม บอร์ดบริหารก็จะต้องจ่ายเงินชดเชยราว 10 ล้านปอนด์ รวมถึงแยกทางกับทีมงานโค้ชแบบยกชุด ซึ่งจะส่งผลให้สโมสรสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎใช้จ่ายเงินกับทางพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก

โอกาสเซฟเก้าอี้ไม่ใช่ไม่มีเมื่อ โปเช็ตติโน่ มีนัดชิงคาราบาว คัพ พบ ลิเวอร์พูล รออยู่ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.พ. ซึ่งมีตั๋วการันตีฟุตบอลยุโรปรายการ ยูโรปา ลีก

แต่ก่อนอื่น พอช และผองแข้งมีอีกเกมเดิมพันในเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ เยือน แอสตัน วิลล่า คืนวันพุธที่ 7 ก.พ. ตามด้วยดาร์บี้แมตช์บุกถิ่น คริสตัล พาเลซ, เยือนแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนถึงนัดชิงที่ เวมบลีย์!